ตอนที่ 1 ไม่รักก็บอก
“อื้อ…”
“ตื่นแล้วเหรอครับ”
เสียงละมุนถามคนใต้ร่างเมื่อได้ยินเสียงครวญครางจากภรรยา
อันดาลืมตามองสามี เริ่มควบคุมน้ำเสียงตัวเองไม่ได้ นานแล้วที่เขาไม่พูดจาน้ำเสียงแบบนี้กับเธอ
มันเริ่มห่างเหินกันเรื่อยๆ จนไม่กล้าเรียกร้อง
“พี่ปรินซ์” มือบางคว้าร่างสามีมากอด โดยไม่สนว่าเขาจับเธอแก้ผ้าตอนไหนและไม่ถามว่าเขากลับถึงบ้านกี่โมง ไม่อยากถามให้เขาอารมณ์เสีย ไม่อยากทะเลาะกันอีก
ดีเหมือนกัน บางทีการกลับมาเมกเลิฟกันครั้งนี้ อาจช่วยให้ระหว่างเราดีขึ้นก็ได้ เพราะเขาและเธอทิ้งระยะเรื่องพวกนี้มาเป็นเดือนแล้ว
“อันคิดถึงพี่ปรินซ์”
ใบหน้าหล่อสบตาภรรยาผ่านความมืด มือลูบไล้พวงแก้มอย่างทะนุถนอม เลื่อนใบหน้าขึ้นไปจูบหน้าผากด้วยความรู้สึกบางอย่าง
“อ้ะ!”
เสียงครางเสียวเปล่งออกมาทันทีที่สามีสอดความใหญ่ยาวเข้ามาในตัว
“เด็กดีของพี่… ให้พี่รักนะครับ” ปรินซ์ขออนุญาตทั้งที่สอดใส่เรียบร้อยแล้ว
อันดากอดปรินซ์ไว้แน่นซบหน้ากับไหล่กว้างพยักหน้ารัวๆ สองร่างโลมเลียทุกซอก ความรู้สึกโหยหาตีตื้นจนอยากรัก อยากสัมผัสกันให้นานที่สุด เอวสอบทำหน้าที่เร่งเร้าอย่างถึงใจ
“ดีจัง อันอยากอยู่แบบนี้นานๆ” เธอเผยความรู้สึกออกมามากมาย มีความสุขที่ได้แนบชิดกันแบบนี้
เมื่อก่อนเขาและเธอคอยเติมเต็มให้กันตลอด ไม่เคยขาด ต่างกับตอนนี้ที่มีบางอย่างเปลี่ยนไป มันคาใจ และไม่ได้แก้ไขสักที หวังว่าจบภารกิจครั้งนี้แล้วความสัมพันธ์ของเราจะกลับมาเหนียวแน่นเหมือนเดิม…เหมือนตอนที่รักกันใหม่ๆ
ทั้งคู่พากันอาบน้ำแต่งตัวช่วยกันใส่เสื้อผ้า แต่งหน้าทำผม เตรียมออกไปทานอาหารเช้าพร้อมกัน
“ตาบวมจัง” ปรินซ์รู้สึกผิด มองดวงตาคู่สวยที่เคยสดใส มีชีวิตชีวา แต่กลับไม่เป็นแบบเก่า
กี่ครั้งแล้วนะที่ทำเธอร้องไห้ ใบหน้าสวยหวานขนาดแต่งเติมเครื่องสำอางก็แล้ว ทว่ายังเห็นชัดว่าอันดาผ่านการร้องไห้มา
“ช่วงนี้พี่ปรินซ์เลิกดึกจัง” อันดาลุกขึ้นจากเก้าอี้เข้าไปซุกหน้ากับแผ่นอก ออดอ้อนแบบที่ชอบทำ ซึ่งปรินซ์ก็กอดตอบ
“พี่จะพยายามกลับบ้านให้เร็วขึ้นนะ”
“สัญญาได้ไหมพี่ปรินซ์”
“พี่สัญญา”
“…” เธอไม่รู้เขาจะทำได้ไหม แต่จะลองเชื่อใจเขาใหม่ ลืมเรื่องที่คาใจ ปล่อยให้เวลารักษาความสัมพันธ์ใหม่อีกครั้ง
“เอาแบบนี้ดีไหม พี่เคลียร์งานรอบนี้เรียบร้อย เราไปเที่ยวต่างประเทศกันสองคนไหมครับ” ปรินซ์เสนอ
“จริงเหรอคะ”
อันดาเงยหน้ามองสามีอย่างไม่อยากเชื่อหู ตั้งแต่แต่งงานกันมา ยังไม่เคยไปเที่ยวด้วยกันเลย ไม่เหมือนตอนคบกันที่จะจัดทริปเที่ยวด้วยกันสองคนแทบจะทุกเดือน
“ครับ”
จุ๊บ! อันดาเขย่งเท้าขึ้นไปจุ๊บปากสามี ทุกอย่างกลับเลยเถิดเมื่อปรินซ์จูบตอบ กลีบปากอวบอิ่มถูกขบเม้ม วงแขนแกร่งกอดรัดคนตัวเล็กไม่ยอมปล่อย ก่อนที่อันดาจะเผยอปากต้อนรับเรียวลิ้นที่สอดเข้ามาทักทายตวัดแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม
“อันดาอยากไปประเทศไหนเลือกมาเลยครับ พี่ตามใจ” เมื่อปล่อยให้คนตัวเล็กเป็นอิสระ เขาจึงเสนอตามที่คิดไว้
“เลือกด้วยกันดีกว่า เอาที่พี่ชอบด้วย”
“ที่ไหนก็ได้ แค่มีอันดา พี่ก็มีความสุขหมด”
“ปากหวาน” อันดาว่ายิ้มๆ
“ชิมอีกทีไหม” ไม่รอให้อันดาขอ ปรินซ์ก็โน้มลงไปหา ยื่นปากให้ภรรยาชิมอีกครั้งทันที กว่าทั้งสองจะพลอดรักกันเสร็จก็เกือบจะลงไปทานข้าวสาย จึงรีบพากันออกจากห้องนอน
ตึกตึก…ทว่าอยู่ ๆ อันดาที่เดินตามหลังร่างสูงก็เข้าไปกอดปรินซ์จากด้านหลัง กอดแน่นอย่างกับกลัวว่าวันหนึ่งจะไม่ได้กอดกันแบบนี้อีก
“พี่ปรินซ์”
“…” ร่างสูงยืนนิ่งปล่อยให้เธอสวมกอดรอฟังว่าเธอจะพูดอะไร
“ถ้าพี่… ถ้าพี่หมดรักกันแล้ว พี่ต้องบอกอันตรงๆ นะ” ถ้าไม่รักกันแล้ว อย่าใจร้ายทำเหมือนเธอเป็นของตาย แบบนั้นเธอจะเสียใจมากกว่าการบอกตรงๆ “ได้ไหมพี่ปรินซ์”
“ทำไมพูดแบบนี้” เขาหันมาสบตากันทันที ไม่ชอบคำพูดพวกนั้นจากปากอันดา
“ก็…” อันดาอั้มอึ้ง กลัวพูดมากกว่านี้จะพาลให้เสียบรรยากาศ ทว่าเป็นไปตามคาดเพราะแค่ประโยคเดียวมันก็จุดชนวนขึ้นมา
“ทำไมชอบทำให้พี่อารมณ์เสียตลอดเลยวะอันดา เราเพิ่งนอนด้วยกัน แทนที่จะอารมณ์ดีมีความสุข แต่กลับหาแต่เรื่อง”
“อันไม่ได้หาเรื่อง แค่จะคุยกันดีๆ”
“ไม่ได้หาเรื่อง!? คุยกันดีๆ เนี่ยนะ…”
“…อย่าพูดว่าพี่หมดรักอีก พี่ไม่ชอบ!!”
ตึก!
ตึก!
สองสามีภรรยาลงมาห้องอาหารด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ คนหนึ่งหน้าเศร้าหมอง แววตามีน้ำตาคลอเบ้าอยู่จางๆ ส่วนอีกคนดูหงุดหงิด อารมณ์ไม่ดีกับเช้าวันใหม่เอาเสียเลย
“ฮึ! กว่าจะเสด็จลงมาได้ แม่หิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว” หญิงวัยกลางคนหน้าตาดีมีราศีนั่งหัวโต๊ะอาหาร เหลือบมองลูกสะใภ้ด้วยหางตา ก่อนจะตวัดสายตากลับมาที่ลูกชายแล้วบ่นพึมพำต่อ
“ตั้งแต่บ้านนี้มีคนนอกเข้ามาอยู่ อะไรๆ ก็ไม่เป็นระเบียบเหมือนเดิม แม่ชักจะเหนื่อยใจขึ้นทุกวัน”
“แม่ครับ” ปรินซ์ปรามเสียงอ่อน
ปัญหาเดิมๆ ที่แก้ไม่หายสักที
เขาต้องตามใจแม่มากกว่าเดิม
เอาใจภรรยาเพื่อไม่ให้น้อยใจ คิดมากเวลาอยู่ในบ้านหลังนี้
มีแค่เขาที่ต้องปรับตัว ทำงานก็เหนื่อยมากแล้ว แทนที่กลับบ้านจะได้พักผ่อน อารมณ์ดีๆ กลับต้องมาเครียดกว่างานที่ต้องรับผิดชอบที่บริษัทเป็นพันเท่า
แม่ง! เหนื่อยกายยังไม่พอ ต้องมาเหนื่อยใจอีก
“ก็มันจริง” ปรางทิพย์ยังเอ่ยออกมา
“อันดาไม่ใช่คนนอก เป็นภรรยาผม เป็นลูกสะใภ้แม่ เป็นคนในครอบครัวเรา ผมพูดเรื่องนี้กับแม่หลายครั้งแล้วนะครับ” ปรินซ์นั่งลงอย่างเหนื่อยล้า มองภรรยาที่นั่งลงข้างๆ รู้สึกเห็นใจไม่น้อย แต่ทุกวันนี้เขาก็พยายามประคองสถานการณ์ให้ดีที่สุด
ปรางทิพย์มองหน้าลูกชายสายตาตัดพ้อก่อนจะกอดอกแล้วหันหน้าไปทางอื่น ไม่อยากเห็นท่าทางลูกชายปกป้องเมีย ไหนจะประโยคเมื่อกี้ มันน่าน้อยใจนัก น้ำเสียงที่ไม่พอใจกล้าพูดกับเธอที่เป็นแม่แท้ ๆ แม่ที่เลี้ยงดูลูกชายมาตัวคนเดียว เธอเลี้ยงของเธอมาอย่างดี ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมีคนนอกมาแย่งความรักไปจากอก
“ทานข้าวเถอะครับ” ปรินซ์ตัดบท ไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อให้อารมณ์เสียไปมากกว่านี้ เขาเองก็เพิ่งจะทะเลาะกับอันดา พอลงมาด้านล่างก็มีปากเสียงกับแม่อีก
ฟึ่บ!
อยู่ ๆ ปรางทิพย์ก็ลุกขึ้นยืน มองหน้าลูกชายด้วยใบหน้าเศร้า ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือที่เต็มไปด้วยความน้อยใจ
“ทานกันไปแล้วกัน แม่ขอตัว” พูดจบก็เดินออกจากห้องอาหาร
เพล้ง!
ช้อนในมือปรินซ์กระแทกกับจานทันที เมื่อร่างสูงวางช้อนจากมืออย่างอารมณ์เสีย
“แม่ง! แต่ละคน เอาใจโคตรยาก”
“พี่ปรินซ์จะไปไหน” มือบางคว้าแขนสามีเอาไว้ ไม่ยอมให้เดินออกไป
“พี่ไปทำงานก่อนนะ”
“แต่พี่ปรินซ์ยังไม่ทานอะไรลองท้องเลย” ถึงสถานการณ์จะแย่ แต่เธอก็หวงปรินซ์ เขาเป็นโรคกระเพาะอยู่ด้วย เธอไม่อยากให้อาการกำเริบมาอีก ตั้งแต่คบกันเธอเป็นคนดูแลอาหารการกินของเขา อาการก็ไม่กำเริบอีกเลย แต่ช่วงที่มีปัญหากัน เขาก็เริ่มทานอาหารไม่ตรงเวลาเหมือนเดิม กลัวสามีจะปวดท้องเวลางาน
“พี่ทานไม่ลงแล้ว อันดาทานไปคนเดียวแล้วกัน” มือหนาแกะมือภรรยาออกจากแขนแล้วสาวเท้าออกจากบ้านไปที่โรงจอดรถทันที
ทว่า…อันดาก็ยังวิ่งตามออกไป
“ให้อันไปช่วยงานพี่ที่บริษัทด้วยได้ไหมคะ” ตั้งแต่แต่งงานกัน เธอก็ต้องออกจากงานย้ายมาอยู่บ้านเดียวกับปรินซ์ ทำแค่หน้าที่ภรรยาตามที่เขาขอ
‘อันอยากทำงานมากกว่า’ ครั้งหนึ่งเธอเคยบอกเขาแบบนี้
‘พี่ไม่อยากให้อันดาเหนื่อย’
‘ไม่เหนื่อยเลยค่ะ อันทำงานตลอด พออยู่เฉยๆ แล้วรู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้’
‘เมียคนเดียวพี่เลี้ยงได้ ไม่อยากให้ทำงานเลย’
‘…’ ใจหนึ่งก็อยากทำงานเหมือนเดิม แต่อีกใจก็ไม่อยากขัดใจสามี พอเห็นแววตาอ้อน ๆ ใจอ่อนทุกที
‘เอาอย่างนี้ พี่กับอันดาก็เห็นตรงกันว่าอยากมีลูกกันเลยหลังแต่ง ให้อันดาท้องคลอดลูกก่อน แล้วหลังจากนั้น อันดาจะทำธุรกิจส่วนตัวหรือมาช่วยพี่ที่บริษัทก็ค่อยว่ากัน’
‘เอาตามนี้ก็ได้ค่ะ’
เธอไม่น่าใจอ่อนตามใจเขาเลยตอนนั้น บางทีการออกไปทำงาน อาจทำให้เธอไม่เครียด คิดมาก แบบนี้ก็ได้
“อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้ได้ไหม” น้ำเสียงไม่พอใจเอ่ยออกมา
“…” ดวงตาสวยขุ่นหมองลงกว่าเดิม
“พี่ขอตัว!” ว่าจบ ร่างสูงก็เข้าไปในรถ ขับออกจากบ้านทันที ไม่มีการกอด การจูบ เหมือนเคยอีกแล้ว
