ep3
หญิงสาวเหลือบมองนาฬิกาที่ตั้งไว้หัวเตียง ก็พบว่ามันเป็นเวลา ๙.๐๐ น.แล้ว เธอรู้สึกตกใจ เพราะไม่เคยตื่นสายถึงขนาดนี้ หญิงสาวพยายามยันร่างลุกขึ้นจากเตียงด้วยความรู้สึกผิด เพราะนี่คือวันแรกของการแต่งงานที่เธอควรจะปฏิบัติหน้าที่ภรรยาที่ดี
“อูยยย”
เธอครางเบาๆ เมื่อเท้าสัมผัสพื้น ความเจ็บแปลบแล่นอยู่ที่หว่างขาจนเธอต้องนั่งนิ่งอยู่กับที่ชั่วครู่ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ลุกยืน เมธาก็เดินเข้ามาภายในห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
“ตื่นแล้วหรือสายเปล”
สายเปลยิ้มรับและมองเขาหวาดๆ เล็กน้อย เพราะเมื่อคืนเขาดูรุนแรงและรุกรานเอาแต่ใจเหลือเกิน แต่เธอไม่โทษเขาหรอก เพราะคิดว่าเขาอาจจะเมาก็ได้
“คุณเมธตื่นนานแล้วหรือคะ”
สายเปล สังเกตจากสภาพของเขาที่หน้าตาเกลี้ยงเกลาหนวดเคราสะอาดสะอ้านชวนมอง เขาเป็นผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเข้มในแบบตะวันตก เพราะอาจารย์แม่เป็นลูกครึ่งยุโรป ทำให้เขาได้ลูกเสี้ยวชั้นดีมา แต่เพราะมีเชื้อสายยุโรปนี่แหละ ที่ทำให้เขาต้องโกนหนวดอยู่ทุกเช้า เพราะเคราเขียวครึ้มนั้นขึ้นเร็วเหลือเกิน
“ดูสิ จ้องหน้าผมราวกับไม่เคยเห็น”
“เอ่อ..ค่ะ อ้อ..ฉันไม่เคยตื่นขึ้นมาแล้วต้องอยู่ร่วมกับผู้ชายนี่คะ”
“ครับ ผมทราบดี”
“ฉันไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
สายเปลเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับเขา เพราะเธอรู้ว่าตอนนี้ ไม่ใช่แต่ใบหน้าของเธอเท่านั้นที่แดงก่ำจนรู้สึกร้อนผ่าว แต่ทั้งตัวของเธอ มันก็รู้สึกเหมือนความร้อนกำลังจะระเบิด
“เป็นไรหรือเปล่า สายเปล ตัวแดงเชียว”
เขาขยับเข้ามาจับ แล้วพบว่าตัวเธอร้อนรุ่มราวกับเป็นไข้
“คุณไม่สบายเหรอ...หรือว่าเมื่อคืนผมรุนแรงกับคุณไป”
เขาแสดงอาการเป็นห่วงขึ้นมาทันที ทำให้สายเปลวาบหวิวอยู่ในอกเหมือนสาวรุ่นที่ไม่เคยต้องมือชาย
“ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ แอร์คงเย็นไป”
หล่อนปฏิเสธเสียงเบา ก้มหน้าพยายามจะลุกโดยมีเขาช่วยพยุง
“ถ้าอย่างนั้นอาบน้ำ ล้างหน้าก่อนนะครับ วันนี้ป้านิ่มเตรียมข้าวต้มร้อนๆ ไว้ให้แล้ว”
ป้านิ่มคือแม่ครัวของเรือนใหญ่ ชายหนุ่มมีเรือนเล็กของตัวเอง ปลูกแยกออกมาต่างหาก แต่ก็ยังไปทานอาหารที่เรือนใหญ่เสมอ คนที่บ้านของรัศมีเรียกที่นี่ว่าเรือนเล็ก แต่จริงๆ มันก็ไม่ได้เล็กอะไรเลย ใหญ่กว่าบ้านของหล่อนด้วยซ้ำ
“ขอบคุณค่ะ ฉันนี่เสียมารยาทจัง น่าจะตื่นก่อนคุณ”
หญิงสาวเงยใบหน้าสวยหวานขึ้นมองเขา สายตาที่ส่งออกไปมีแววใสซื่อ ใบหน้าที่ปราศจากการปรุงแต่งงดงามราวกับกุหลาบแรกแย้ม ทำให้ชายหนุ่มตะลึงมองอย่างลืมตัว
“คุณเมธ ปล่อยฉันได้แล้วนะคะ”
สายเปลเตือนเสียงเบา เมื่อมือของของชายหนุ่มกระชับแน่นขึ้น จนเธอก้าวขาไม่ออก
“อ้อ...ผมขอโทษที”
ชายหนุ่มรีบคลายมือแล้วหัวเราะกลบเกลื่อน เขาค่อยๆ พยุงหญิงสาวมาส่งถึงบริเวณหน้าห้องน้ำแล้วยื่นผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ให้
“เดี๋ยวผมเตรียมเสื้อผ้าให้นะครับ”
“ไม่ต้องค่ะ ฉัน...เอ่อ..เดี๋ยวฉันออกมาดูเอง”
“โอเคครับ เดี๋ยวผมรอนะครับ”
ชายหนุ่มถอยออกมา แล้วมองหญิงสาวตาเชื่อม ขณะที่สายเปลเดินขาแทบขวิดเข้าไปในห้องน้ำ
กระทั้งผ่านไปครู่ใหญ่ สายเปลก็ค่อยๆ เปิดประตูห้องน้ำออกมา บนเตียงยังคงมีชายหนุ่มนอนประสานมือไว้ที่ศีรษะอย่างสบายอารมณ์ เธอมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเขารอเธออาบน้ำ
“ฉันไม่รู้ว่าคุณรอ ไม่อย่างนั้นก็คงจะอาบเร็วกว่านี้”
“ไม่เป็นไรหรอก ผมรอได้”
หญิงสาวยิ้มให้แล้วเดินไปเลือกชุดจากในตู้ที่เสื้อผ้าหลากสไตล์แขวนเรียงรายกันอยู่ เธอหยิบเครื่องแต่งกายชุดใหม่เป็นเสื้อผ้าฝ้ายสวมสบายกับกางเกงเข้าชุดกัน พร้อมกับชุดชั้นในมาถือไว้ ก่อนจะมองไปที่เขาอย่างประหม่า แต่เมื่อเห็นเขาหลับตาลง เพื่อให้เธอคลายความประดักประเดิด หญิงสาวก็รีบสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว
“เสร็จแล้วค่ะ คุณเมธ”
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นยิ้มกว้าง แล้วลุกขึ้นมาจูงมือเธอออกมาจากห้องจน ถึงโต๊ะอาหารที่มีข้าวต้มร้อนๆ กับข้าวอีกสองสามอย่างวางอยู่บนโต๊ะ เมื่อหญิงสาวนั่งลงที่เก้าอี้ ป้านุ่นถือถือนมอุ่นๆ ออกมาวางไว้ให้
"ผมให้ป้านิ่ม อุ่นข้าวต้มให้ใหม่ เพราะไม่อยากปลุกคุณ เดี๋ยวคุณกินเสร็จแล้วก็กินยา นอนพักมากๆ “
“คุณเมธทานแล้วหรือคะ”
“เรียบร้อยแล้วครับ เดี๋ยวผมจะออกไปเคลียร์งานนิดหน่อย แล้วมารับคุณ”
“รับฉัน?”
“ใช่ครับ นี่คุณอย่าบอกนะว่าลืมเรื่องไปฮันนีมูนแล้ว”
“เอ่อ...”
“ดูทำหน้าเข้าสิ แต่งงานแล้วก็ต้องไปฮันนีมูน มันแปลกตรงไหนเหรอ?”
