9 ฮันนีมูน หลอกๆ
ทางฝั่งของอันนาตอนนี้ได้ถึงประเทศเกาหลีเป็นที่เรียบร้อย พอถึงสนามบินอินชอนนำชินก็ได้มารออันดาอยู่ที่สนามบินแล้ว
" เฮ่ !!! อันดาทางนี้ !!! นำชินตะโกนบอกอันดา
"รอนานไหม ?
" ทั้งชีวิตก็รอได้เพื่อเธอคนเดียว " ... นำชินแกล้งพูดให้อันดาเขิล
"เอาอีกแล้วววว ไม่พูดแบบนี้สิ "... อันดาส่ายหัว
ทั้งสองคนยิ้มให้แก่กันแล้วนำชินก็ลากกระเป๋าอันดาไปขึ้นรถที่จอดไว้ยังร้านจอดรถสนามบินอินชอน
"หิวข้าวไหมแวะกินอะไรก่อนเข้าโรงแรมไหม"
"ยังไม่หิวเลยตะกี้ตอนนั่งเครื่องบินกินไปแล้วนิดหน่อย เราว่ากลับโรงแรมกันเลยดีกว่า"
ไม่นานรถสปอร์ตหรูของนำชิน ก็เคลื่อนมาจอดหน้าโรงแรมแมรี่
"ขอบใจมากนะเดี๋ยวตอนเย็นเจอกัน"
หลังจากที่แยกย้ายจากชายหนุ่มอันดาก็ตรงขึ้นไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์โรงแรมและได้กุญแจห้องมาแล้วก็ขึ้นไปที่ห้องของตัวเองนอนพักผ่อนเพราะคืนนี้มีปาร์ตี้วันเกิดของ มีโซ เพื่อนสาวของเธอที่ debut ด้วยกัน
ที่ผับเคอาประเทศเกาหลี
เวลา 22.00 น. เป็นเวลา นัดหมายของกลุ่มเพื่อนเพื่อนกลุ่มเดบิ้วที่ประเทศเกาหลี วันนี้เป็นวันเกิดของมีโซ จองกุ๊กเป็นแฟนของมีโซ และเพื่อนเพื่อนของมีโซรวมรวมแล้ว 20 กว่าคนตอนนี้จองโต๊ะวีไอพีโซนหน้าฟอร์ทั้งหมด ทุกคนต่างมาฉลองวันเกิดของมีโซกัน
มีโซ : อันดาแต่งงานแล้วเป็นยังไงบ้าง พี่ชีรันเร้าใจป่ะ ... มีโซถามออกไปแล้วบิดทำหน้าเขินอาย
จองกุ๊ก : ไม่มีใครลีลาเด็ดเท่าแฟนมีโซอีกแล้วนะครับคอนเฟิร์มจองกุ๊กแปลงพูดเพื่อให้ทุกคนได้หัวเราะมีเสียงสนุกเฮฮา
มีโซ : เบาเบาหน่อยเถอะค่ะคุณแฟนอายคนอื่นเค้า
พูดเสร็จจองกุ๊กก็จับหน้ามีโซให้หันไปแล้วประกบปากจูบโชว์เพื่อนเพื่อนทันที พวกเพื่อนๆที่นั่งดื่มเหล้าสนุกสนานเฮฮาต่างก็กรี๊ดกร้าดดเ เป่าปากแซวคู่รักคู่นี้
นำชิน : คู่นี้หวานเป็นบ้าเลยโอ้ยเลี่ยนที่สุดเลย 55
งานวันเกิดผ่านไปทุกคนสนุกสนาน เพื่อนเพื่อนทุกคนไม่ได้เจอกันนานมากพองานวันเกิดของมีโซ ถึงได้เจอกัน หลังจากที่ทุกคนเรียนจบบทคอสเดบิ๊วกันแล้วก็ไม่ค่อยได้เจอกัน แต่พบเจอกันอีกทีในงานวันเกิดของมีโซทุกคนก็ต่างปลดปล่อยสนุกสนานเฮฮากันเต็มที่
เสร็จจากงานวันเกิดมีโซนำชินก็อาสามาส่งอันดาที่โรงแรมที่หญิงสาวได้มาพัก
"ขอบใจมากนะชิน"
อันดาหันหลังกำลังจะลงจากรถกำลังจะเปิดประตู ปึก !!! นำชินจับแขนของอันดาไว้...
"มีอะไรหรือเปล่าชิน"
"เราขอคุยกับอันดาสักครู่ก่อนได้ไหม"
"ได้สิทำไมจะไม่ได้ล่ะ"
"ถ้างั้นอันดาลงไปก่อนนะเดี๋ยวเราเอารถไปเก็บให้อันดาไปรอที่สวนเดี๋ยวเราตามไป"
"อืม"
นำชิน เอารถไปจอดที่ลานจอดรถแล้วก็เดินที่สวนของโรงแรม อันดานั่งรออยู่ที่โต๊ะในสวนยอมของโรงแรม
"ชินมีอะไรจะพูดกับเราหรอ ???
"แต่งงานแล้วเป็นยังไงบ้างสบายดีไหม เขารังแกอะไรอันดาหรือเปล่า!?
" ไม่ต้องเป็นห่วงจ้ะ เขาไม่สามารถรังแกอะไรเราได้หรอก ระหว่างเรากับพี่เขาแต่งงานกัน ก็เพราะผู้ใหญ่ จับเราสองคนแต่งงานกัน ความจริงแล้วพี่รันกับเราไม่ได้รักกันเลยพี่รันเค้าก็เห็นเราเป็นแค่น้องสาวส่วนเรา เห็นพี่รันเป็นแค่พี่ชายไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้เลย" ในขณะที่บอกแฟนหนุ่มอันดาเองก็แอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากนี่เธอต้องโกหกแฟนสินะ
" ถ้าอย่างนั้นเรายังมีสิทธิ์น่ะสิ ???
"ถ้าตัวเองเจอคนที่เหมาะสมกว่าเรา ตัวเองไม่ต้องรอเรานะ แต่งงานไปได้เลยเพราะยังไงแล้วถ้าเกิดว่าเรากับพี่รันเลิกกัน เราก็ยังได้ชื่อว่าเป็นแม่ม่ายอยู่ดี เป็นผู้หญิงที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีตำหนิแล้ว เราไม่ดีพอ สำหรับชินอีกต่อไปหละสิ "
" ตัวเราเองไม่เคยสนใจคำพูดของคนอื่นหรอกนะยังไงเราก็จะรออันดานะเรารักอันดาคนเดียว "
"เราบอกตัวเองได้เเค่ว่าเพราะว่าที่เราแต่งงานกับพี่เขาเพราะเหตุผลบางอย่าง อีกไม่นานหรอกเรากับพี่เขาก็คงจะหย่ากันแล้ว เราบอกได้แค่นี้แหละแต่เราลงรายละเอียดเยอะกว่านี้ไม่ได้ ชินเข้าใจแล้วนะ"
"นานเท่าไหร่แล้วก็จะรออันดานะ" นำชินบอกกับอันดาอย่างมีความหวังและความหวังมันจะรีบรีสักเพียงใดเขาก็ยังคงคาดหวังเพราะเขารักอันดาเหลือเกิน
หลังจากคุยธุระกันเสร็จเรียบร้อยแล้วนำชินก็ขึ้นไปส่งอันดาที่ห้องของโรงแรม
"ฝันดีนะอันดาบ๊ายบาย"
"ขับรถกลับดีดีนะ" อันดายิ้มหวานให้แฟนหนุ่ม
นำชินกับรถออกจากโรงแรมด้วยหัวใจที่พองโตอย่างมีหวังอยู่ว่าสักวันนึงอันดาก็คงจะหย่าขาดจากสามีแล้ว ทำให้ชายหนุ่มยังพอมีหวังอยู่บ้างชายหนุ่มกลับบ้านด้วยหัวใจที่พองโตว่าหญิงสาวยังคงรักตัวเองอยู่
หนึ่งสัปดาห์ที่เกาหลีของอันดาฉันมีความสุขมากได้เที่ยวกับเพื่อนได้ปลดปล่อย ได้มีเวลาส่วนตัวคิดในหลายหลายเรื่องหลายหลายอย่างที่ผ่านมา และแล้วก็ถึงเวลาบินกลับไปที่ประเทศไทยก่อนเพราะพ่อและแม่ของชีรันให้ไปฮันนีมูนที่ภูเก็ต ทั้งสองคนต้องไปเจอกันที่นั่นถ่ายรูปและเช็คอินหลอกพ่อกับแม่ว่าทั้งสองไปฮันนีมูนกันยังหวานแหวว
ที่สนามบินภูเก็ต
เมื่ออันดาได้ลงจากเครื่องบินแล้วมาแล้วกดไปที่เบอร์หาชีรันทันที
"สวัสดีค่ะพี่รันตอนนี้อันดา แลนดิ้งแล้วนะคะตอนนี้กำลังรอรับกระเป๋าค่ะจะให้อันดาไปเจอพี่ที่ตรงไหนคะ"
" อันดาเดินออกมาเลยตอนนี้พี่รออยู่หน้าประตูทางออกช่องหมายเลขสามที่นั่งรออยู่ที่รถจ้ะ"
"ได้ค่ะเดี๋ยวอันดารับกระเป๋าเสร็จจะไปหาพี่ที่ประตูสามนะคะ"
หลังจากวางโทรศัพท์เสร็จหญิงสาวก็รอกระเป๋าก็ได้กระเป๋าครบทุกใบแล้ว เธอใช้รถเข็น ลากกระเป๋ามาเนื่องจากมีกระเป๋ามาหลายใบ
"ทางนี้จ้ะอันดา " ชีรัน โบกมือเรียกอันดา
เมื้ออันดาเห็นว่าชายหนุ่ม มารอเธออยู่ตรงนี้เธอก็เข็นกระเป๋ามาที่รถแล้วซีรันก็ช่วยเธอหยิบกระเป๋าขึ้นท้ายรถคันงามพี่มารอรับอยู่
"ขอบคุณค่ะพี่รันเดี๋ยวเราจะไปไหนคะ "
"เดี๋ยวก็รู้ครับคุณผู้หญิงทำตัวสบายๆเลย"
พูดเสร็จชีรันก็ขับรถไปตามท้องถนน ส่วนอันดานั่งเครื่องบินมาด้วยความเหนื่อยเพลียจากการ เดินทาง ตอนนี้เธอได้หลับเป็นที่เรียบร้อย
"อันดาตื่นได้แล้วครับคนเก่งอย่านอนขี้เซา"
หญิงสาวงัวเงียตื่นขึ้นมา
"ที่ไหนเหรอคะ แล้วพี่ พาอันดามาที่นี่ทำไมคะ"
"พี่ก็จะเอาเราไปเที่ยวเกาะสิมิลันน่ะสิ ไหนไหนจะโกหกทั้งทีก็ต้องให้มันสมจริงสมจัง ดูเนียนเนียนหน่อยสมัยนี้คนแก่เค้าก็หูตาไวนะ เราต้องมีภาพสิถึงจะเชื่อว่าตอนนี้เรารักใครปองดองกันมากแค่ไหน"
"เดี๋ยวก่อนนะคะก่อนที่จะขึ้นเรืออันดาขอถามก่อนอันนาต้องนอนห้องเดียวกับพี่ไหม ถ้าต้องนอนห้องเดียวกับพี่อันดาไม่ไปเด็ดขาด เดี๋ยวพี่รังแกอันดาอีกคนไม่รักษาสัญญา" หญิงสาวหน้าบึ้ง
"พี่กับเรานอนคนละห้องแต่ว่าห้องติดกันโอเคเปล่า ???
"ชัวร์นะห้ามโกหก"
"ไม่โกหกคุณภรรยาเชิญลงเรือทางด้านนี้เลยครับ"
ชีรันผายมือให้กับอันดา หญิงสาวเดินลงเรือไปอย่างว่าง่ายและ เดินขึ้นเรือ สักพักเรือเฟอรี่ก็ได้จอดเทียบท่า ที่เกาะสิมิลัน
ชายหนุ่มได้ไปเอากุญแจที่ตัวเองได้เปิดห้องไว้มาสองชุดชุดที่หนึ่งก็คือของตัวเค้าเองอีกชุดหนึ่งก็คือของอันดา เมื่อได้กุญแจแล้วพนักงานก็ได้คุณไปส่งอันดาและชีรัน
"เจอกันอีกที 6 โมงเย็นนะครับที่ล็อบบี้ของโรงแรม อ้ออีกอย่างพี่ลืมถามว่าอันดามีชุดว่ายน้ำไหม"
"ไม่มีชุดว่ายน้ำโดยตรงแต่มีชุดเที่ยวทะเลอยู่ค่ะ"
"โอเคครับงั้น 6 โมงเย็นเจอกันที่ล็อบบี้โรงแรมนะครับ"
หลังจากที่แยกย้ายกัน อันดาก็ไปเปลี่ยนชุดสบายสบายเดินเที่ยวชายทะเลที่เกาะสิมิลัน
"ทะเลไทยสวยงามแบบนี้เองต่างชาติถึงอยากมาเที่ยวที่ประเทศไทย" พูดเสร็จหญิงสาวก็หยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาเพื่อบันทึกภาพทันที
หญิงสาวเดินเล่นรอบรอบเกาะสิมิลัน หญิงสาวเดินเล่นไปบ้างก็เห็น คู่รักกำลัง กอดจูบกันอยู่ชายหาด บ้างก็เห็น คนกำลังเล่นน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน อันดามองเห็นคนรอบข้างมีความสุขหญิงสาวก็ได้แต่เดินอมยิ้ม เดินไปเรื่อยเรื่อย อย่างมีความสุขเพลิดเพลินกับการมองทะเลที่สวยงาม
แต่หญิงสาวไม่รู้ว่าทุกการกระทำของเธอมีสายตาของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของเธอแอบกำลังบันทึกภาพของเธออยู่ ใช่แล้วชีรัน กำลังเดินตามอันดาอยู่โดยแอบมองทุกกิริยาทุกการกระทำของภรรยาด้วยความน่ารักและเอ็นดู
เมื่อเดินเพลิดเพลินอยู่กับทะเลอันดาก็ได้ดูว่าตอนนี้กี่โมงแล้วปรากฏว่าตอนนี้เกือบจะ 6 โมงเย็นแล้วเกือบจะได้เวลานัดของเธอแล้วหญิงสาวก็เลยเดินกลับไปที่ล๊อบบี้โรงแรม
"ขอโทษที่มาเลทนะคะ เมื่อสักครู่อันดาไปเดินเล่นริมชายหาดคะ เดินมองอันโน้นทีอันนี้ทีก็เลยเพลิดเพลินไปกับการมองดูทะเลที่สวยงามค่ะ"
"อยากจะไปเดินอีกไหมเดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน ... " ชีรันเสนอตัว
"ตอนนี้พี่รันหิวข้าวหรือยังคะ"
"ยังเลย"
"ถ้าอย่างนั้นอันดาว่าเราเดินเล่นไปเรื่อยเรื่อยแล้วที่บรรยากาศดีดีแล้วค่อยนั่งดีกว่าไหมคะ อันดาเบื่ออาหารที่โรงแรมเต็มแก่แล้วค่ะ"
"ได้เลยครับพี่ตามใจอันดานะครับ"
สองหนุ่มสาวเดินเล่นชายหาดสองคนเดินไปสายตาคนอื่นมองต่างก็ชื่นชมว่าสองคนนี้สวยหล่อเหมาะสมกันยิ่งนัก
เมื่อเดินเดินอยู่อันดาอยู่ด้านหน้า ชีรัน อยู่ด้านหลังของสาวไทยนมจึงนึกอยากจะแกล้งอันดา ชีรัน จึงใช้ขาเต๊ะน้ำไปด้านหน้า
"ว๊ายยย " อันดาหันหลังกลับมาปรากฎว่าเป็นพี่รันของเธอนั่นเอง
"ทำไมพี่รันแกล้งอันดาแบบนี้ล่ะคะ !?
พอพูดจบอันดาก็ก้มลงไปที่น้ำใช้มือวิดน้ำใส่ตัวของชายหนุ่มทันที
"นี่เเน๊ะ แกล้งอันดาใช่ไหม "
ทั้งสองคนต่างสาดน้ำใส่กันจนตอนนี้เปียกทั้งคู่สองคนหัวเราะกันสนุกสนานเล่นเหมือนเด็ก
"เห็นไหมพี่รันแกล้งอันดา เปียกทั้งคู่เลย"
"พี่ว่าเราสองคนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยลงมาทานอาหารใหม่กันดีกว่านะ พี่ตามใจอันใดเลยอยากทานร้านไหนได้เลย โอเคมั้ยครับหายงอลนะ ...."
หลังจากคุยกันเสร็จเรียบร้อยสองคนผัวเมียก็เดินเข้าโรงแรมตัวเปียกทั้งคู่มะลอกมะแลกเหมือนหมาตกน้ำดูแล้วก็น่ารักไปอีกแบบหนึ่ง พนักงานโรงแรมเห็นสองคนแต่หัวเราะอมยิ้มขำ
พนักงานโรงแรมคุยกัน
"เธอดูลูกค้าคู่นั้นสิ ขนาดเปียกแล้วยังสวยยังหล่อกันอยู่เลย "
"ทั้งคู่เหมาะสมกันดีเนาะสวยหล่อลูกออกมาคงน่ารักมากๆเลย"
"แต่เค้าพักคนละห้องนะเหมือนไม่ใช่แฟนกันเลย"
"อ้าว !!! แยกย้ายกันไปทำงานได้แล้วมัวแต่มาเม้าท์เรื่องลูกค้ากันนะ"
ซุปเปอร์ไวเซอร์เดินมาสั่งพนักงานโรงแรมให้ไปทำงาน ... ส่วนพนักงานสองคนที่ยืนเม้าท์กันอยู่แต่ก็ทำหน้าจ๋อยเมื่อโดนดุแล้วก็กลับไปทำงานประจำหน้าที่ของตัวเอง
