3
“เขาแกล้งผมขนาดนี้คุณย่าก็ให้อภัยง่ายๆ เหรอครับ”
“เราแค่โดนเขียนหน้า ล้างออกก็หาย แต่น้องต้องนอนปวดหลังที่โซฟาทั้งคืน มันใช้ได้ที่ไหนกันหึ!” คุณย่าวรางคณาตำหนิออกมาตรงๆ ทำเอาจิณณ์อึ้งไป เมื่อผู้ใหญ่มองเขาเขม็งไม่วางตาเลยสักคน
“ก็... ก็ผมไม่ชินนี่ครับที่จะมีคนมานอนด้วย” จิณณ์เริ่มทำตัวไม่ถูก
เขาโดนกระทำ ไหงตอนนี้กลายเป็นจำเลยสังคมไปได้
“เรารับปากเอาไว้แล้วว่าจะมีทายาทสืบสกุลให้ย่า แยกกันนอนแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่จะมีเหลนให้ย่ากันล่ะ”
“ผมขอปรับตัวสักนิดนะครับ” เพราะก่อนหน้านี้เขารักอยู่กับพิมพ์บงกช คุณย่าไม่ชอบพิมพ์บงกชเพราะบอกว่าหล่อนไม่จริงใจกับเขา ตอนแรกเขาก็ไม่เชื่อ ถึงไม่ได้รัก แต่คิดว่าหากหล่อนเป็นคนดีก็คงจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้ ตอนหลังพิมพ์บงกชก็หนีไปแต่งงานกับเสี่ยใหญ่ที่ร่ำรวยกว่าเขา เขาเลยต้องแต่งงานกับณัฐชา เพราะเคยรับปากกับผู้เป็นย่าไปว่า หากพิมพ์บงกชไม่ดีจริง จะยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่ท่านหาให้ และมีเหลนให้ท่านอุ้ม
“ถ้าเราไม่มีเหลนให้ย่าอุ้ม ย่าจะยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้การกุศล ในเมื่อไม่มีใครสืบทอดก็ทำบุญไปเสียให้หมด”
จิณณ์หน้าบึ้งหนักกว่าเดิม ตวัดสายตาไปมองณัฐชาที่นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่อีกด้าน เขารู้สึกโมโหจึงพุ่งตัวเข้าไปจะจัดการเธอ แต่เธอไปหลบอยู่ด้านหลังของคุณย่าวรางคณาเสียก่อน
“คุณย่าขา พี่จิณณ์จะทำโทษชาอีกแล้วค่ะ ชากลัว” ณัฐชาออดอ้อนวรางคณา กอดเอวท่านเอาไว้แน่น
“ห้ามทำอะไรยายชานะตาจิณณ์ ไม่งั้นย่าจะหวดเรากับไม้ตะพด” คุณย่าวรางคณาออกโรงปกป้อง ทำเอาจิณณ์ได้แต่แยกเขี้ยวใส่ภรรยาของตัวเอง
“เราก็ขอโทษพี่เขาด้วยนะยายชา เราเองก็ไปแกล้งพี่เขาเหมือนกัน” ทรงสิทธิ์เอ่ยขึ้น
“ขอโทษนะคะพี่จิณณ์ ให้อภัยชานะคะ นะคะ” เธอยังหลบอยู่ด้านหลังของคุณย่าวรางคณา แต่ก็ชะโงกหน้าไปขอโทษ พร้อมกับทำตาใสใส่เขา
“น้องขอโทษแล้ว เราล่ะขอโทษน้องรึยัง ไล่น้องไปนอนโซฟา ต้องทนนอนหลังขดหลังแข็ง ปวดเมื่อยไปทั้งคืน”
“ผมต้องขอโทษยายตัวแสบนี่ด้วยเหรอครับ” จิณณ์ชี้มาที่ตัวเอง
“ย่าไม่เคยสอนให้เรารังแกผู้หญิง หรือไม่เป็นสุภาพบุรุษแบบนี้ เราจะไม่ขอโทษก็ได้นะ ย่าไม่ว่าอะไรเราหรอก แต่ย่าจะคิดว่าไม่มีหลานชายอย่างเราก็แล้วกัน”
“นี่คุณย่า... โอเคครับ ผมขอโทษเขาก็แล้วกันครับ ทุกคนพอใจกันหรือยังครับ”
“คุณย่าอย่าถึงกับตัดย่าตัดหลานกันเพราะชาเลยนะคะ เอาเป็นว่าชายกโทษให้พี่จิณณ์ค่ะ ยังไงเราก็เป็นสามีภรรยากัน หนักนิดเบาหน่อยต้องให้อภัยกัน ใช่ไหมคะ” เธอเอ่ยอย่างมีน้ำใจ พร้อมทำตาใสให้คุณย่าวรางคณา ทำเอาจิณณ์ต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟันในความกระหล่อนและปลิ้นปล้อนของเธอ
“เราเห็นไหม ว่าเมียเราน่ะใจกว้างขนาดไหน ไม่ถือสาหาความ ไม่ผูกใจเจ็บแค้นฝังหุ่น มีแต่เรานั่นแหละทำหน้ายักษ์อยู่ตลอดเวลา ไปล้างหน้าล้างตาแล้วก็มากินข้าวเช้ากันดีกว่าจ้ะ ย่าให้คนทำอาหารอร่อยๆ เอาไว้ให้เยอะแยะเลย เราจะได้กินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา”
“ผมไม่หิวครับ เชิญทุกคนตามสบาย ขอตัวก่อนนะครับ” พูดจบจิณณ์ก็เดินดุ่ม ๆ ออกไปในทันที
“เราน่ะไม่น่าไปเกรงพี่เขาแบบนั้นเลย” กานดาตำหนิบุตรสาว
“อย่าตำหนิยายชาเลย ตาจิณณ์ก็ใช่ย่อยเสียที่ไหน ไล่เมียไปนอนบนโซฟา ปวดหลังนะนั่น” คุณย่าวรางคณาเข้าข้างหลานสะใภ้เต็มที่ ทำเอาสองสามีภรรยาต้องมองหน้ากันแล้วอมยิ้ม
พวกท่านรักและเป็นห่วงณัฐชา แต่คิดว่าคนที่น่าห่วงมากกว่าคือจิณณ์ ลูกสาวคนเดียวของพวกเขาแสบเหลือหลาย ไม่มีใครแกล้งได้ง่าย ๆ เอาตัวรอดเก่งได้ทุกสถานการณ์และเฉลียวฉลาด
จิณณ์เข้าไร่ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ทำเอาขจร ลูกน้องคนสนิทต้องเอ่ยถามเจ้านายด้วยความสงสัยว่าไปโดนรังแตนที่ไหนเอา
“เจ้านายอารมณ์ไม่ดีเรื่องอะไรครับ”
“จะเรื่องอะไรเสียอีกล่ะ ก็เมื่อคืนฉันทำอะไรล่ะ”
“เมื่อคืนเหรอครับ อ้อ... แต่งงานเข้าห้องหอครับ”
“นั่นแหละ”
“คนที่เพิ่งแต่งงานเข้าห้องหอ จะอารมณ์ไม่ดีมีสาเหตุแค่อย่างเดียวครับ เมียไม่ให้นอนด้วย เพราะคนอื่น ๆ เข้าห้องหอก็มีแต่ยิ้มหน้าบานทั้งนั้นละครับ”
“ไอ้ขจรแกอยากโดนเตะหรือไงวะ”
“ผะ... ผมพูดอะไรผิดไปเหรอครับ”
“ใครจะอยากไปเข้าหอกับยายตัวแสบนั่น”
“อ้าว... แต่งงานไม่เข้าห้องหอแล้วจะแต่งทำไมล่ะครับ”
“แกหุบปากไปเลย”
“หุบปากก็หุบปากครับ” ขจรหัวหดเมื่อโดนเจ้านายตวาดลั่นรถ ทรงนี้แสดงว่าไม่สบอารมณ์จริง ๆ ขืนพูดไม่เข้าหูอีก ได้โดนเชือด
“เมื่อคืนนี้ยายตัวแสบนั่นเอาปากกามาวาดหน้าฉันจนเละ”
“ผมพูดได้ไหมครับ”
“พูดได้”
“ครับ คือทำไมคุณชาถึงทำแบบนั้นล่ะครับ”
“ฉันให้เขาไปนอนที่โซฟา”
“อ้อ... ครับ ก็สมน้ำสมเนื้อกันดีนะครับ”
“นี่แกเป็นลูกน้องใครกันแน่”
“ผมเป็นลูกน้องเจ้านายครับ”
“เป็นลูกน้องฉันก็ต้องเข้าข้างฉันสิ”
