วิธีเอาตัวรอดจากตัวร้ายในนิยายที่ข้าเขียน

79.0K · จบแล้ว
รอรีวัน
45
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

หลังจากหนีออกมาจากแคว้นเหลียงได้อิงหลานก็จับพลัดจับพลูมาอาศัยอยู่กับบุรุษผมสีเงิน เขาทั้งอ่อนโยนและใจดี แต่นางไม่ใช่สตรีที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง นางไม่ใช่สตรีที่เหมาะสมกับคนแสนดีเช่นเขา เพราะแต่งนิยายไม่เคยจบฟ่านจื่ออิงเลยถูกนักอ่านสาปแช่งให้เข้าไปอยู่ในนิยายของตัวเอง กลายเป็นเหยาอิงหลานองค์หญิงสุดแสนอาภัพที่ต้องคอยหาวิธีเอาตัวรอดจากตัวร้ายในนิยายที่ตัวเองเขียน เหยาอิงหลานองค์หญิงท้ายวังที่ถูกลืมกลิ่นกายหอมเหมือนดอกกล้วยไม้ป่า ใบหน้าสวยงามผุดผ่องเหมือนผู้เป็นมารดา ถูกทอดทิ้งจากพระบิดาตั้งแต่แรกคลอด นอกจากเขาไม่สนใจไม่ใส่นางแล้ว พอนางเติบใหญ่ขึ้นกลับใช้นางเป็นบรรณาการแต่งงานเพื่อแลกกับผลประโยชน์บางอย่าง ส่วนเขาเมิ่งจินหยวน เพราะเห็นตราประทับประจำราชวงศ์บนร่างกายนางเลยทึกทักเอาเองว่านางมีประโยชน์ ไฉนเลยถึงกลายมาเป็นสตรีร้ายกาจที่ไม่มีค่าสิ่งใด แต่กลับเป็นผู้ครอบครองหัวใจของเขาไปเสียได้ เหยาอิงหลาน องค์หญิงท้ายหวัง เพราะความขี้เกียจคิดชื่อนางร้ายในนิยาย ฟ่านจื่ออิงจึงตั้งชื่อนางร้ายว่าอิงหลานไปเสียหมดทุกเรื่อง แค่เปลี่ยนแซ้ เปลี่ยนนามปากกาคนอ่านก็จำไม่ได้แล้วว่าเป็นใคร ถถถถ เมิ่งจินหยวน อ๋องผู้โหดเหี้ยมตัวละครที่ร้ายกาจเป็นอันดับหนึ่งของนิยายที่ฟ่านจื่ออิงเขียน หมิงไป่เฉิน ตัวร้าย ที่ร้ายอันดับสองรองลงมา พร้อมอาสาดูแลองค์หญิงตัวน้อย ยามที่หัวใจนางเจ็บช้ำ

นิยายรักโรแมนติกเกิดใหม่ในนิยายองค์หญิงท่านอ๋องจีนโบราณโรแมนติกวังหลังข้ามมิตินิยายย้อนยุคเกิดใหม่

1 error

ร่างวิญญาณของฟ่านจื่ออิงลอยไปลอยมาในดินแดนโบราณมานานหลายเดือน ตอนที่รู้ตัวว่าตายเพราะอุบัติเหตุยังไม่รู้สึกเจ็บใจเท่ากับตอนที่รู้ว่า ถูกแช่งให้เข้ามาเกิดใหม่ในดินแดนนิยายที่เธอเป็นคนแต่ง

จะไม่รู้สึกเจ็บใจได้ยังไงกัน ก็นิยายแต่ละเรื่องที่เธอแต่งนั้นล้วนไม่จบสักเรื่อง พอถึงตอนที่แต่งไปไม่จบผูกปมจนไปต่อไม่ได้ก็ถือโอกาสปิดเรื่องหนีหายไปดื้อ ๆ เสียอย่างนั้น พอนักอ่านบ่นเยอะเข้า ก็จัดแจงเปลี่ยนนามปากกาไปเปิดเรื่องใหม่ เป็นแบบนี้ซ้ำ ๆ วนไปไม่รู้กี่เรื่อง

จนวันหนึ่งนักอ่านเกิดจับได้ว่านามปากกานี้เป็นคนคนเดียวกันนี่นา เอาลิสต์นิยายมาดูมากกว่า สามสิบเรื่อง ทุกคนรวมหัวกันประท้วงอย่างออกรสออกชาติ แต่น่าเสียดายที่เอาผิดอะไรทางกฎหมายไม่ได้ เพราะเธอไม่ได้ติดเหรียญไม่ได้เปิดสร้างรายได้ ไม่มีการซื้อขายฉ้อโกงเกิดขึ้น

นักอ่านที่น่าสงสารเกิดความคับแค้นใจ ผุดแคมเปญหนึ่งขึ้นในกลุ่มนักอ่านนิยาย ให้ทุกคนมาเสนอความคิดเห็นกันว่าจะเอายังไงกับนักเขียนที่ไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ดี

ในที่สุดทุกคนก็ตกลงกันว่า การสาปแช่งให้นักเขียนเข้าไปติดอยู่ในนิยายของตัวเองและติดเป็นตัวละครที่โชคร้ายที่สุด โดนทรมานเคี่ยวกรรมไปเลย น่าจะเป็นทางเดียวที่ทำได้ในเวลานี้

ความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ผู้คนลงชื่อเป็นหมื่น ๆ คน

ตอนที่เธอได้ยินเรื่องนี้จากเซียนน้อยก็แทบอยากตายอีกครั้ง เซียนน้อยหน้าหวานอธิบายว่า คำสาปแช่งตัวเธอนี้มีมากมายหลายหมื่นครั้ง ทำให้ระบบสวรรค์เกิดทำงานผิดพลาดคิดว่าคำสาปแช่งเป็นคำอธิษฐานเลยจัดการส่งฟ่านจื่ออิงเข้ามาในโลกของนิยาย พอถึงตอนนี้เซียนน้อยพูดถึงระบบสวรรค์ที่ error ฟ่านจื่ออิงก็ยังไม่ทันทำความเข้าใจ

เจ้าหน้าหวานนั่นก็หายหัวไปเสียก่อน เธอจึงได้แต่โกรธเจ้าหมอนั่นแต่ทำอะไรไม่ได้

หายไปไม่นานเสียงสวรรค์ดังขึ้นจากท้องนภา บอกว่าให้เธอทำใจ เพราะคำร้องสาปแช่งมีมากมายเกินไป ถือว่าเป็นการรับกรรมที่ก่อเอาไว้ให้คนเสียใจทุกข์ใจเล่นก็แล้วกัน

ระหว่างนั้นฟ่านจื่ออิงก็วนเวียนตามหาตัวละครที่ตนเองเขียน แต่เพราะเขียนเยอะเกินไปเลยแทบจะจำชื่อตัวละครไม่ได้ ใช้เวลาตามหาอยู่เป็นเดือนจนจนกระทั่งวนเวียนลอยไปลอยมาจนถึงวังหลวง

จู่ ๆ ร่างวิญญาณของเธอก็ถูกดูดเข้าไปในร่างของสตรีนางหนึ่ง พอลืมตาตื่นขึ้นประสาทสัมผัสทั้งห้าการรับรู้ร้อนหนาวก็กลับมาหมดสิ้น

ความทรงจำโผล่เข้ามาในหัวสมองโง่ ๆ ของเธอ สตรีที่สวมเสื้อผ้าเหม็น ๆ นี่ เป็นองค์หญิงที่ถูกลืม ตอนเกิดทำให้พระมารดาตาย องค์จักรพรรดิผู้เป็นบิดา เชื่อคำยุยงของฮองเอา เรื่องความเป็นตัวซวย จึงส่งเด็กน้อยมาอยู่ท้ายวัง นานวันเข้าก็หลงลืมไปแล้วว่ามีองค์หญิงผู้นี้อยู่ในวัง ลืมไปแล้วว่ามีบุตรสาวเช่นนาง

ฟ่านจื่ออิงตอนนี้เลยกลายเป็นเหยาอิงหลาน

พอรู้ว่าตัวเองเป็นใครก็ขนลุกในชะตากรรม ถ้าตอนนี้อายุ 16 อีกหนึ่งปีให้หลังต่อจากนี้ อิงหลานคนงามจะถูกฆ่าตายด้วยสามีของตัวเองนี่น่า

แค่คิดฟ่านจื่ออิงก็ขนลุกซู่ ที่ขนลุกไม่ใช่เพราะอะไร วิญญาณคนอื่นทะลุมิติเข้ามาอาจรู้เรื่องรู้ราวที่กำลังจะต้องดำเนินไปจนหมดสิ้น แต่...ไม่ใช่กับเธอ

เพราะนิยายแต่งไว้มากมายหลายเรื่อง แต่งเยอะจนจำไม่ได้ว่าตัวละครไหนเป็นตัวละครไหน พล็อตเรื่องตัวละครข้ามเรื่องกันไปมาวุ่นวายไปหมด

ความรู้สึกตอนนี้เลยได้แต่ปลงที่ต้องตกมาอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้

ถ้าสมมุติว่าถูกตัวละครของตัวเองฆ่าตายแล้ว เธอจะได้หลุดออกไปจากโลกนี้หรือเปล่า อย่างน้อยก็ขอให้ได้กลับไปเวียนว่ายตายเกิดตามปกติ ฟ่านจื่ออิงที่ตอนนี้ต้องสวมรอยเป็นเหยาอิงหลานได้แต่ทอดถอนใจ

“องค์หญิง พระองค์ฟื้นแล้ว” เสียงสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงดีใจ

เหยาอิงหลานหันใบหน้าไปตามเสียง เดาว่าสตรีผู้นี้น่าจะเป็นแม่นมที่คอยดูแลอิงหลานมาตั้งแต่ยังเด็ก หากไม่ได้นาง ป่านนี้อิงหลานคนงามคงไม่ได้มีชีวิตอยู่รอดมาจนถึงตอนนี้

“ท่านแม่” อิงหลานตัดสินใจเรียกสตรีผู้นั้นว่าแม่

“ไม่ได้เพคะ องค์หญิงเรียกหม่อมฉันไม่ได้” หวังต้าจู รีบปฏิเสธเพราะรับไม่ไหวกับคำเรียกนั้น

ตั้งแต่ที่นางรับองค์หญิงน้อยมาเลี้ยงดู ก็เอ็นดูรักใคร่ประดุจบุตรสาวแท้ ๆ ของตัวเอง มอบทุกอย่างให้เท่าที่ตนเองจะมอบให้ได้

นึกไม่ถึงโตมาจะรู้ความนัก ฉลาดเฉลียวซุกซน แต่ร่างกายอ่อนแอ เพราะอยู่ในที่มืดและเย็นมายาวนาน

ยิ่งโตยิ่งงดงามเหมือนพระมารดา พออายุเลยวัยปักปิ่นกลิ่นกายที่หอมราวกับดอกกล้วยไม้ป่าเริ่มรุนแรงขึ้น หวังต้าจูกลัวว่าสิ่งนั้นจะทำภัยมาถึงตัวองค์หญิงน้อยอันเป็นที่รักจึงวางแผนให้พกถุงเครื่องเทศกลิ่นเหม็นติดกายตลอดเวลา หนำซ้ำยังให้แต่งกายเป็นเด็กผู้ชายเพื่อไม่ให้จุดสังเกตของผู้คน ไม่ให้ความงามของนางไปต้องใจใคร

“ให้ข้าเรียกท่านเช่นนั้นเถอะเจ้าค่ะ” เหยาอิงหลานจับมือแม่นมที่เลี้ยงดูตนมาตั้งแต่เด็ก ทุกเรื่องทุกราวที่นางพูดล้วนเป็นไปตามบทที่ถูกเขียนเอาไว้ไม่สามารถฝืนเรื่องราวนอกจากนั้นได้

ฟ่านจื่ออิงจึงรู้แล้วว่าต่อจากนี้เธอต้องอดทนดำเนินเรื่องไปตามนิยายมั่วซั่วที่เธอเขียนเอาไว้นั่นเอง

หวังต้าจูได้ยินที่องค์หญิงน้อยกล่าวก็น้ำตารินไหลโอบกอดนางอย่างรักใคร่ เหยาอิงหลานเองก็กอดตอบรับ ในชีวิตขององค์หญิงแสนงดงามผู้อาภัพคนนี้มีเพียงหวังต้าจูที่นางรักใคร่อย่างจริงใจ คาดหวังเอาไว้วันหน้าจะต้องออกไปใช้ชีวิตนอกวังให้ได้