บท
ตั้งค่า

1. กีดกัน

สาวสวยหุ่นอวบอัดกำลังนั่งอยู่ในโชว์รูมเต้นท์รถซื้อขายรถมือสองด้วยสีหน้าคิดหนัก เพราะหลังจากที่พ่อของเธอประสบอุบัติเหตุเมื่อสองเดือนก่อนก็ได้รับการผ่าตัดที่ขา และตอนนี้หมอก็มาตรวจเจอเนื้องอกที่สมองอีก ทำให้ต้องรีบรับการรักษา เธอจึงกลายเป็นคนเดียวในบ้านที่หาเงิน ซึ่งมันก็ไม่เพียงพอต่อครอบครัวของเธอในขณะนี้

“สวัสดีค่ะคุณแม่...พี่เอ็มอยู่ไหมคะ พอดีมะลิโทรหาพี่เอ็มเขาแล้วเขาไม่รับสายน่ะค่ะ” มะลิเห็นแม่ของแฟนหนุ่มเดินมาก็รีบลุกขึ้นแล้วเอ่ยถามไป

“ลูกชายฉันไม่รับสาย เธอก็ดั้นด้นมาหาเขาถึงที่เลยเหรอ...” ยุพินมองเด็กสาวแล้วเอ่ยพูดด้วยเสียงและสีหน้าไม่ชอบใจ เพราะเธอไม่ชอบแฟนของลูกชายคนนี้เลย บ้านก็จนไม่มีอะไรคู่ควรหรือเหมาะสมกับลูกชายเธอเลยสักนิด

“มะลิมีเรื่องสำคัญจะคุยกับพี่เอ็มเขาน่ะค่ะคุณแม่...พี่เอ็มเขาอยู่ไหมคะ” มารีลินก็อธิบายไป เพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากจะมาที่นี่หรอกถ้าไม่จำเป็นจริงๆน่ะ

“อยู่...แต่ตอนนี้ลูกชายฉันติดธุระกับลูกค้าอยู่ คงไม่สะดวกที่จะคุยกับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อนไป เดี๋ยวฉันบอกให้ลูกชายฉันโทรหาเธอก็แล้วกัน” ยุพินบอกไปด้วยเสียงเรียบ

“อ่อ ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ เดี๋ยวมะลิรอเจอพี่เอ็มที่นี่แหละค่ะ” มารีลินได้ยินแบบนั้นก็เลือกที่จะรอ เพราะเธอมีเรื่องด่วนจะคุยกับเขา

“อยากจะรอก็แล้วแต่เธอก็แล้วกัน...ไปนั่งรอตรงห้องรับแขกไป อย่ามาเกะกะตรงนี้เข้าใจไหม...” ยุพินพูดบอกไป

“ค่ะคุณแม่...” มารีลินก็ตอบรับไปแบบเข้าใจ เธอรู้ว่าแม่ของแฟนหนุ่มไม่ได้ชอบเธอ เธอถึงได้พยายามเจียมเนื้อเจียมตัวเสมอเมื่อเจอแม่ของแฟน

“เข้าใจก็ดี...” ยุพินมองเด็กสาวแบบหงุดหงิดใจก็พูดไป จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปด้านในห้องสำนักงานทันที

ส่วนมารีลินก็เดินไปทางห้องรับแขกของเต้นท์รถแล้วเธอก็นั่งรอเพื่อจะเจอกับอินทัชแฟนของเธอแบบเงียบๆ เพราะวันนี้เธอมีเรื่องด่วนที่จะต้องคุยกับเขาจริงๆ มารีลินก็มองนาฬิกาอย่างร้อนใจเลย

“คุณนายจะให้ฝนบอกคุณเอ็มไหมคะว่าคุณมะลิเขามาขอพบ” ฝนผู้จัดการเต้นท์รถถามไป เพราะแฟนของเจ้านายมานั่งรอนานแล้ว

“ยังก่อน ปล่อยให้แม่นี่รอไปแบบนั้นแหละ ลูกชายฉันออกจากห้องทำงานมาเมื่อไหร่ ก็ให้แม่นี่เจอเมื่อนั้นแหละ” ยุพินพูดบอกไปแบบแกล้งๆ

“แต่นี่ก็บ่ายโมงแล้วนะคะคุณนาย ถ้าคุณเอ็มจะออกมาจากห้องทำงานก็คงจะสี่ห้าโมงนู้นมั้งคะ..วันนี้มีประชุมโทรทางไกลดิลซื้อรถเข้ามาด้วย...แบบนี้คุณมะลิเขาก็รอนานเลยสิคะ” ฝนพูดบอกไป เพราะกว่าเจ้านายจะออกมาก็นานเลย

“ก็ช่างสิ ใครบอกให้แม่นี่มาเสนอหน้าที่นี่เองล่ะ...ฉันไม่ชอบเธอก็รู้ เพราะฉะนั้นอย่าบอกลูกชายฉันว่าแม่นี่มาหา เข้าใจไหม” ยุพินบอกไป

“เข้าใจค่ะคุณนาย...” ฝนตอบรับไปแบบเข้าใจ แล้วก็ทำหน้ายิ้มแห้งๆออกมา เพราะเธอรู้ว่าคุณนายไม่ชอบแฟนของลูกชาย แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำถึงขนาดนี้ น่าสงสารมะลิจริงๆ

“อืม...เฝ้าดูแม่นี่เอาไว้ล่ะ อย่าให้มาก่อกวน ฉันจะออกไปทำผมก่อน” ยุพินพูดจบก็เดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเองแล้วเดินออกไปทันที

“คุณนายนี่เป็นแม่ผัวใจร้ายของจริงเลยนะพี่...น่าสงสารน้องมะลิจริงๆที่มาเจอแม่ผัวแบบนี้น่ะ...” เกตุพนักงานอีกคนที่นั่งอยู่พูดไปเมื่อคุณนายเดินออกไปแล้ว

“แกนี่ก็รีบพูดจริงๆยัยเกตุ คุณนายมาได้ยินเข้าเดี๋ยวก็โดนไล่ออกกันหมดหรอก...อย่าไปยุ่งเรื่องของเจ้านายเขา” ฝนพูดไปแบบเตือนๆ เพราะคุณนายพึ่งจะเดินออกไปเอง

“ก็เกตุสงสารน้องเขานิพี่ น้องมะลิเขาออกจะน่ารัก แต่แม่คุณเอ็มกลับไม่น่ารักกับน้องเขาเลย...นี่พี่จะทำตามที่คุณนายบอกจริงๆเหรอ กว่าคุณเอ็มจะออกมานี่เย็นเลยนะ พี่จะให้น้องเขารอแบบนั้นน่ะนะ ใจร้ายไปแล้วมั้ง” เกตุพูดไปแบบอดไม่ได้

“ฉันก็ไม่ได้จะใจร้ายแบบคุณนายไหมยะ...เดี๋ยวฉันจะบอกคุณเอ็มเขาละกันว่าน้องมะลิมาหา...แกทำงานของแกไปเลยยัยเกตุ ดูคุณนายให้พี่ด้วยล่ะ เผื่อกลับมา เดี๋ยวจะซวย” ฝนพูดบอกไป เพราะเธอก็ไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก ยังไงเธอกับมารีลินก็คนบ้านเดียวกัน ตอนนี้ได้ข่าวว่าพ่อนอนโรงพยาบาลอยู่ด้วย ไม่รู้จะมีเรื่องอะไรหรือเปล่า

“โอเคค่ะพี่ รีบไปบอกคุณเอ็มเถอะค่ะ น้องเขารอนานแล้ว” เกตุพูดไปด้วยรอยยิ้ม

“อืม...” ฝนพยักหน้าแล้วเธอก็เดินเข้าไปด้านในเพราะห้องผู้บริหารอยู่ใน แล้วเคาะประตูห้องทำงานของอินทัช

“คุณอินทัชคะ น้องมะลิมาหาค่ะ จะให้มาพบในห้องไหมคะ” ฝนบอกเจ้านายไป

“อ่อ มะลิมาเหรอ...ให้เข้ามาในห้องทำงานผมเลย ผมว่างอยู่พอดี ” อินทัชได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าแปลกใจ ก่อนจะรีบบอกไปทันที

“ค่ะ เดี๋ยวฝนบอกให้นะคะ” ฝนได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาแล้วเธอก็เดินออกไปจากห้องทำงานของอินทัช

ด้านมารีลินก็นั่งรออินทัชด้วยสีหน้าเหม่อลอย เพราะตอนนี้เธอเหนื่อยแล้วก็รู้สึกเครียดกับชีวิตของเธอในตอนนี้มากๆ เพราะปัญหาทุกอย่างมันรุมเร้าเธอไปหมด

“น้องมะลิ คุณอินทัชเขาเรียกให้ไปหาที่ห้องน่ะ ตามพี่มา” ฝนเดินมายืนที่ประตูแล้วเรียกมารีลินไป

“ค่ะพี่ฝน...พี่เอ็มเขาว่างแล้วเหรอคะ เมื่อกี้แม่เขาบอกว่าเขาคุยงานนิคะ” มารีลินได้ยินก็ดีใจ แล้วก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปกับฝนพี่ที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับเธอที่รู้จักกัน

“เขาว่างอยู่แล้วล่ะ ตอนเช้าเขาไม่มีงานอะไรเยอะแยะหรอก แต่แม่ผัวใจร้ายของมะลิต่างหากที่ไม่อยากให้มะลิเจอคุณเอ็มเขาน่ะ...พี่เลยแอบบอกคุณเอ็มเองว่ามะลิมาหา” ฝนบอกไป

“ขอบคุณนะคะพี่ฝน...” มารีลินตอบด้วยรอยยิ้มขอบคุณเลย

“ไม่ต้องขอบคุณหรอก เราคนบ้านเดียวกันก็ต้องช่วยกันอยู่แล้วล่ะ อีกอย่างเราก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกับจินมันด้วย พี่ก็ต้องช่วยอยู่แล้วล่ะ...นี่ห้องทำงานคุณเอ็ม เข้าไปสิ...” ฝนบอกไปเพราะเธอเป็นเพื่อนรักกับจินตนาลูกพี่ลูกน้องของมารีลิน

“ค่ะพี่ฝน...ขอบคุณอีกครั้งนะคะพี่...งั้นมะลิขอตัวเข้าไปคุยกับพี่เอ็นเขาก่อนนะคะ” มารีลินบอกไปก็ยิ้มให้ แล้วเธอก็เปิดประตูเข้าไปด้านใน

“มะลิ ทำไมจะมาแล้วไม่บอกพี่ก่อนหึ มารอนานหรือยัง” อินทัชเห็นแฟนสาวเดินเข้ามาในห้องแล้วเขาก็เอ่ยถามไปทันที

“มะลิโทรหาพี่เอ็มแล้วนะคะ แต่ว่าพี่เอ็มไม่รับสายเลย มะลิก็เลยคิดว่าพี่เอ็มน่าจะไม่ว่างก็เลยมาหาพี่เอ็มที่นี่น่ะค่ะ” มารีลินตอบไปตามตรง

“อ่อ ดีเลย เพราะเราไม่ได้เจอกันมาตั้งหลายวัน พี่คิดถึงมะลิมากเลยเนี่ย ขอกอดให้ชื่นใจหน่อยสิ...พรึบ...” อินทัชเข้าไปกอดอ้อนเธออย่างรักใคร่

“มะลิก็คิดถึงพี่เอ็มเหมือนกันค่ะ ขอโทษนะคะที่ช่วงนี้มะลิไม่มีเวลามาเจอพี่เอ็มเลย มะลิต้องทำงานแล้วก็ต้องช่วยแม่ดูแลพ่อด้วย เลยไม่มีเวลาเลย...” มารีลินโอบกอดเขาแล้วพูดตอบไป

“พี่เข้าใจ ไม่เป็นไรหรอก...พ่อของมะลิย่อมสำคัญกว่าอยู่แล้ว รอให้พ่อหายแล้วเราก็เจอกันได้บ่อยๆแล้วล่ะ แล้วพ่อเป็นไงบ้าง หมอบอกหรือยังว่าจะออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่น่ะ” อินทัชถามไป เพราะพ่อของมารีลินรักษาตัวที่โรงพยาบาลมาสองเดือนแล้วมั้ง จนเขาหลังๆมานี้เขาแทบไม่ได้เจอกับมารีลินเลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel