บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 แม่จะปกป้องเจ้าเอง

บทที่ 5

แม่จะปกป้องเจ้าเอง

ไม่ให้ใครทำร้ายเจ้า

เมื่อทุกคนกลับไปกันหมดแล้วกระท่อมหลังน้อยก็กลับมาเงียบสงบจนได้ยินเสียงเหล่าสัตว์ปีกตัวจ้อยส่งเสียงอื้ออึง จิ่วเม่ยรีบวางลูกน้อยลงบนฟูกนอน นางหอบร่างกายที่แสนอ่อนล้าจากการคลอดบุตร เร่งเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยใส่ชุดดำสนิทเพื่อพรางกายในความมืด หยิบข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นใส่ห่อผ้าสะพายหลัง แล้วจึงหันไปหยิบผ้าสีดำอีกผืนมาห่อร่างกายของบุตรสาวตัวน้อยเอาไว้ในลักษณะย่ามสะพายแนบอก

นางก้มมองทารกน้อย มีเพียงใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มที่โผล่พ้นจากห่อผ้า ดวงตาปิดสนิทกระนั้นกลับเห็นขนตางามงอน ริมฝีปากเป็นกระจับสีชมพูระเรื่อขยับไปมา

ดูเอาเถอะในเวลาวิกฤติแทบเอาชีวิตไม่รอดเช่นนี้ เด็กน้อยก็ยังคงไร้เดียงสา ไม่ได้รับรู้ถึงภยันตรายที่กำลังมาเยือนเลยแม้แต่น้อย

“อิงเอ๋อร์ลูกแม่ ตราบใดที่แม่ยังมีลมหายใจ แม่จะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า แม่สัญญา”

นางก้มลงประทับจูบที่หน้าผากของลูกน้อยแผ่วเบา ก่อนจะค่อยๆ เปิดหน้าต่างทางด้านหลังกระท่อมแล้วปีนออกไป เร่งฝีเท้าอย่างชำนาญเส้นทางเข้าไปยังป่าลึก หญิงสาวมีอาชีพเก็บหาของป่ามาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เมื่อแต่งงานมีครอบครัวนางก็ยังคงออกหาของป่าอยู่เนืองๆ จึงพูดได้ว่าป่าแถวนี้นางแทบจะหลับตาเดินได้ด้วยซ้ำไป

จิ่วเม่ยใช้หลังมือปาดเหงื่อบริเวณหน้าผาก จุดหมายปลายทางคือ ‘ถ้ำเดียวดาย’ สถานที่แห่งนั้นผู้คนล้วนหวาดกลัว บ้างก็ว่ามีสัตว์ร้าย บ้างก็ว่ามีภูตผี ทำให้มนุษย์ไม่กล้าย่ำกราย

สถานที่ที่อันตรายที่สุด คงเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในเวลานี้

นางตรงเข้าไปในถ้ำที่มืดมิด ใช่แล้ว... เมื่อนางยังเป็นเด็กสาวแสนซน นางเคยแอบหนีผู้ใหญ่มาเที่ยวเล่นที่ถ้ำแห่งนี้ ได้รู้ว่าสิ่งที่บอกต่อๆ กันมานั้นไม่เป็นความจริงเลยแม้แต่น้อย

ถ้ำเดียวดายแห่งนี้น่ากลัวแค่เพียงระยะปากถ้ำอันมืดมิด เต็มไปด้วยเหล่าค้างคาวนับพันนับหมื่น ซึ่งหากกลั้นใจเดินผ่านพ้นไปกว่าห้าลี้ก็จะพบกับโพรงถ้ำขนาดใหญ่

โพรงถ้ำแห่งนี้มีลักษณะคล้ายอุโมงค์ยักษ์สูงชัน ถึงกับแหงนคอตั้งฉากจึงจะเห็นว่ามีปล่องขนาดใหญ่ เมื่อมองขึ้นไปจึงเห็นดวงดาวบนท้องฟ้าสีดำสนิท และแน่นอนว่าตรงปล่องนี้อีกเช่นกันที่พระอาทิตย์จะส่องสว่างลงมายามกลางวันหล่อเลี้ยงต้นไม้น้อยใหญ่ภายในโพรงถ้ำให้เติบใหญ่

“อิงเอ๋อร์แม่จะเลี้ยงเจ้าในถ้ำเดียวดายแห่งนี้ เจ้าจะเติบโตเป็นเด็กสาวที่แข็งแกร่ง ขอได้โปรดเทพยดาเจ้าป่าเจ้าเขาช่วยดูแลอิงเอ๋อร์ของข้าด้วย”

นางวางบุตรสาวลงบนแอ่งหินทรงกระทะ จัดการแกะห่อผ้าสัมภาระออก หยิบผ้าห่มผืนหนาวางรองแทนเบาะ แล้ววางเด็กน้อยลงไปก่อนจะนำผ้าห่มม้วนกลมวางอิงข้างกายสองฝั่ง เพื่อไม่ให้เด็กทารกดิ้นไปมาจนพลัดตก

“รอแม่นะ แม่จะรีบกลับมาหาเจ้า”

จิ่วเม่ยเสียงสั่น น้ำตาซึมอาบแก้ม ก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากถ้ำเดียวดาย พุงตรงไปยังป่าช้าร้าง นางจำได้ว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนมีหญิงคลอดบุตรตายทั้งแม่และลูก เพิ่งถูกนำมาฝัง นางต้องรีบขุดศพเด็กออกมาก่อนที่จะรุ่งสาง

การขุดหลุมฝังศพนั้นไม่ง่ายเลยสำหรับหญิงที่เพิ่งคลอดบุตร ทว่าอานุภาพของคำว่า ‘แม่’ ทำให้นางมีเรี่ยวแรงทำทุกสิ่งอย่างได้อย่างที่ใจนางปรารถนา

แน่นอนว่าเวลานี้ศพเด็กเหม็นเน่าอยู่ในห่อผ้า จิ่วเม่ยจัดการกลบหลุมฝังศพให้เหมือนเดิมมากที่สุดเพื่อไม่ให้ผู้ใดสงสัย แล้วรีบกลับไปที่กระท่อมของตนทันที

อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดดำออก ล้างคราบดินคราบเหงื่อออกจากหมด เมื่อเห็นว่าแสงสีทองของพระอาทิตย์กำลังโผล่พ้นจากเส้นขอบฟ้า นางก้มลงใช้ใบหูแนบลงไปกับผืนดิน เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้านับสิบกำลังพุ่งตรงมา นางก็จัดการจุดไฟเผาศพเด็กทารกที่นางไปขโมยมาทันที

“ไม่! ไม่!”

จิ่วเม่ยรอจนแน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ก่อนจะแผดเสียงร้องดังลั่น ร้องไห้ฟูมฟายราวกับว่าจะขาดใจ แล้วนางก็กลั้นใจกระโจนลงไปในกองไฟที่ร้อนระอุ มือเปล่าขุดคุ้ยหาเศษซากกระดูกมากอดเอาไว้ ทำให้เสื้อผ้าของนางถูกไฟเผาไหม้จนขาดวิ่น เนื้อตัวของนางไหม้จนเป็นแผลสดเหวอะหวะ ผมสวยสีดำที่เคยสยายลู่ไปกับสายลมบัดนี้ไหม้ไฟจนถึงหนังศีรษะ

“เกิดอะไรขึ้น!”

เหล่าผู้มีอิทธิพลในหมู่บ้านรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวน

ใช่แล้วพวกเขานัดรวมตัวกันตั้งแต่ยังไม่รุ่งสางเพื่อพูดคุยกันว่าต้องกล่อมจิ่วเม่ยอย่างไรเพื่อให้นางมอบบุตรให้พวกตนนำไปเผาไฟ โดยนำตัวจางอี้เตอซึ่งนับเป็นตัวประกันมาด้วย

แน่นอนว่าทุกคนต่างกระตือรือร้นที่จะกระทำสิ่งที่โหดเหี้ยมนี้ เผาเด็กกาลกิณีให้ตายทั้งเป็นเพื่อที่พวกตนจะได้อยู่รอดปลอดภัยเปี่ยมไปด้วยความสุขเฉกเช่นที่เคยเป็นมา

ทว่าภาพที่เห็นกลับทำให้ทุกคนตกตะลึง!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel