บทนำ
บทนำ
โดยปกติครอบครัวพญามังกรแห่งทะเลใต้จะมีการรวมตัวกันเป็นประจำทุกๆ เดือน แต่ทว่าการรวมตัวคราวนี้องค์ชายมังกรทั้งสี่มีสีหน้าที่ค่อนข้างกังวล ยิ่งโดยเฉพาะองค์ชายรองเอ๋าเอ้อร์หลงที่มีสีหน้าเครียดจัดมากกว่ามังกรทุกตน
คำบอกเล่าของพญามังกรหนานไห่หลงหวาง พระบิดาสร้างความตกใจให้เป็นอย่างมากถึงมากที่สุด ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องกับตนเอง
“พระบิดา พระมารดา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มากสำหรับข้า องค์หญิงมังกรแห่งทะเลชิไห่ที่ข้ารู้จักก็มีเพียงแค่อิงอิงเท่านั้น ถ้าพวกท่านจะพยายามจับคู่ข้ากับนาง ข้าทำใจไม่ได้แน่นอน นางก่อเรื่องที่ทะเลใต้ไว้มาก นิสัยก็ไม่ได้น่ารัก ถึงแม้ตอนนี้จะหันหน้าเข้าทางธรรมข้าก็ยังไม่สามารถทำใจให้ยอมรับนางได้อยู่ดี ที่สำคัญข้ายังไม่คิดที่จะผูกมัดตัวเองไว้กับผู้ใดเลยนะขอรับ” องค์ชายรองเอ่ยเสียงเครียด
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก การแต่งงานเป็นเรื่องที่สำคัญ ชายหญิงที่จะร่วมชีวิตกันควรจะมีความรักต่อกันเสียก่อน
“ที่ทะเลชิไห่ไม่ได้มีองค์หญิงมังกรแค่อิงอิงนางเดียวเสียหน่อย และพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ต้องการให้เจ้าแต่งกับอิงอิงเช่นกัน องค์หญิงมังกรนางนี้เป็นธิดาของต้าไป๋องค์ชายใหญ่แห่งทะเลชิไห่ต่างหาก ในตอนนี้เจ้าเหมาะสมมากที่สุด อายุเจ้าไม่น้อยแล้วนะ จะทำตัวลอยไปลอยมาแบบนี้มันก็ดูไม่ดี” หนานไห่หลงหวางมองสบตาลูกชายนิ่ง
ลูกชายตนนี้ถูกเรียกขานจากบรรดาเซียนว่าเป็นมังกรเจ้าสำราญ ฉายานี้มาจากพฤติกรรมที่ชอบดื่มสุราเคล้านารี มีจิตวิญญาณของศิลปินสูงมาก และตอนนี้เอ๋าเอ้อร์หลงเหมาะสมที่สุดที่ควรจะมีคู่ครองเสียที
“ลูกสาวของต้าไป๋ เท่ากับว่านางผู้นั้นเป็นหลานสาวของข้าเลยนะพระบิดา” เอ๋าเอ้อร์หลงพยายามหาข้ออ้าง
“นางเด็กกว่าแค่ห้าพันปีเท่านั้น ต้าไป๋อายุมากกว่าจินหลงพี่ชายเจ้าเป็นพันปีและแก่กว่าเจ้ามาก ดังนั้นลูกสาวของต้าไป๋ย่อมอายุเหมาะสมกับเจ้ามากที่สุด”
“แต่”
“เพราะข้าเอง ข้าผิดแต่แรก” เอ๋าจินหลงพูดออกมาบ้าง จะว่าไปเรื่องนี้เขาเป็นต้นเหตุ
“ท่านพี่ไม่ผิดหรอกค่ะ ถ้าจะผิดก็ผิดที่ข้า” เหม่ยจูพูดด้วยสีหน้าสำนึกผิด
สองสามีภรรยาพร้อมกันรับผิดเพราะความรักของทั้งคู่ทำให้อิงอิง องค์หญิงแห่งทะเลชิไห่ไม่พอใจจนเกิดเรื่องราววุ่นวายและสร้างรอยร้าวเล็กๆ ให้กับสองทะเล
“พอ เลิกโทษตัวเองทั้งจินหลงทั้งเหม่ยจูนั่นแหละ” นางฟ้าจินเพ่ยฟางตัดบทเมื่อเห็นลูกชายคนโตกับศรีสะใภ้ที่แสนดีโทษตัวเอง เรื่องของความรักเป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่สามารถควบคุมได้เช่นเดียวกัน
“ใช่ เรื่องนี้ไม่มีใครผิดทั้งนั้น ความรักไม่ใช่เรื่องผิด ต่อให้ไม่มีเหม่ยจูพ่อก็รู้ว่าเจ้าจะไม่มีทางแต่งงานกับอิงอิงแห่งทะเลชิไห่แน่นอน”
“แต่เรื่องนี้ทำให้น้องรองตกที่นั่งลำบากนะขอรับพระบิดา”
“ไม่ใช่เพราะเจ้า เพราะพ่อต่างหาก” พญามังกรผู้ยิ่งใหญ่ถอนหายใจออกมา จนทำให้นางฟ้าจินเพ่ยฟางต้องเอื้อมมือไปจับมือของสวามีไว้เพื่อให้กำลังใจ
“เรื่องมันเป็นอย่างไรขอรับพระบิดา” องค์ชายมังกรทั้งสี่เอ่ยถามออกมาพร้อมๆ กัน
“เรื่องมันมีอยู่ว่าพ่อเคยให้สัญญากับน้องชิไห่ก่วงซุ่นหวางแห่งทะเลชิไห่ว่า หากมีลูกก็อยากจะให้สองทะเลเชื่อมกันเป็นหนึ่ง เพราะคำสัญญานี้ทำให้อิงอิงถือเป็นเรื่องจริงจังถึงขั้นก่อเรื่องมากมาย การอาละวาดของอิงอิงทำให้สองทะเลห่างเหินกันมาก จนเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน มังกรทั้งสี่ทะเลมีการพบเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง น้องสี่ชิไห่ก่วงซุ่นหวางได้ทวงถามถึงเรื่องนี้ พ่อเองก็คิดว่ามันก็น่าจะเป็นเรื่องดี และมันน่าจะทำให้สองทะเลกลับมาสนิทชิดเชื้อกันเหมือนเดิม”
“พระบิดา” องค์ชายมังกรทั้งสี่เอ่ยเรียกพระบิดาของพวกตนออกมาแทบจะพร้อมกัน
“แต่พวกเจ้าไม่ต้องห่วงนะ ก็เหมือนอย่างคราวจินหลงเราจะไม่บังคับใจกัน คู่ชีวิตที่อยู่หรือแต่งงานกันโดยปราศจากความรักเป็นเรื่องที่น่าเศร้า แม่กับพ่อ รวมถึงน้องชิไห่ก่วงซุ่นหวาง เราคุยกันว่าอยากจะให้เอ้อร์หลงไปพบหน้ากับองค์หญิงแห่งทะเลชิไห่ก่อน หากไม่ชอบก็จะไม่บังคับใจ” นางฟ้าจินเพ่ยฟางอธิบายให้ลูกฟังแทนสวามี
“ตอนนี้ก็เหลือเพียงเจ้าสองพี่น้องเท่านั้น และพ่อกับแม่ก็คิดว่าเอ้อร์หลงเหมาะสมที่สุด” คำพูดของมารดาทำให้เอ๋าซันหลงลอบถอนหายใจออกมา ถึงแม้จะเห็นใจพี่ชายแต่ก็สบายใจที่ตัวเองไม่ต้องมาเจอกับเรื่องวุ่นวายในการจับคู่ครั้งนี้
“ข้านั้นคืออาจารย์ของเหล่าบรรดามังกร มีหน้าที่ให้ความรู้และไขข้อข้องใจให้กับบรรดาเซียนมังกรที่อยู่ทั้งสวรรค์และเซียนที่ถือกำเนิดจากสัตว์ และต้องปราบพวกเซียนที่ถูกจิตมารเข้าครอบงำ หน้าที่นี้ยิ่งใหญ่มาก ไม่สามารถทิ้งไปได้ขอรับ” เอ๋าเอ้อร์หลงพยายามหาข้ออ้าง
“มันใช้เวลาไม่มากนักหรอกเอ้อร์หลง ถ้าเจ้าแต่งกับเจ้าหญิงแห่งทะเลชิไห่ก็เท่ากับว่าเจ้าจะมีผู้ช่วยที่เก่งกาจ เอ้อร์หลง ที่ผ่านมาพ่อกับแม่ตามใจเจ้ามาตลอด ไม่ว่าเจ้าจะสำมะเลเทเมามากแค่ไหน พ่อกับแม่ไม่เคยว่าเคยห้าม ดังนั้นครั้งนี้ถือว่าพ่อกับแม่ขอ” คำพูดของพระบิดาทำให้องค์ชายรองกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“เมื่อไหร่ขอรับ”
“งานเทศกาลโคมไฟที่จะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้า”
“พระบิดา ทุกเทศกาลโคมไฟข้าจะต้องไปยังสวนสวรรค์ ข้ามีหน้าที่ต้องไปสอนบรรดาเซียนกำเนิดใหม่ที่นั่นขอรับ อีกไม่กี่ราตรีข้าก็ต้องไปที่นั่น และแน่นอนว่าร้อยปีข้างหน้าข้าก็คงต้องไปที่นั่นเช่นกัน” คำพูดของลูกชายคนรองทำให้หนานไห่หลงหวางทรงยิ้ม พอจะรู้ว่าโอรสของท่านกำลังหาทางเลี่ยง
“ไม่ต้องห่วง เจ้ายังคงทำหน้าที่ต่อไปได้ สวนสวรรค์ก็ดีเหมือนกัน ที่นั่นสวยงาม การนัดดูตัวที่สระมรกตในสวนสวรรค์น่าจะดีอยู่” คราวนี้ผู้ที่กำลังพยายามหาทางเอาตัวรอดจากการจับคู่ถึงกับไปไม่ถูก
“เอาเป็นว่าเราเจอกันที่สวนสวรรค์ในอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้าก็แล้วกัน ข้าเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ข้าจะส่งสารไปที่ทะเลชิไห่ เดี๋ยวคงได้รู้เรื่อง” องค์ชายรองลอบทำหน้าเซ็ง ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางเลี่ยงเสียแล้ว
“ท่านเลี่ยงไม่ได้แล้วนะพี่รอง” เอ๋าซันหลงกระซิบข้างหูพี่ชาย
“ยังมีเวลาอีกหนึ่งร้อยปี บางทีพระบิดาและองค์หญิงที่ทะเลชิไห่อาจจะไม่อยากแต่งงานกับพี่ก็ได้” เอ๋าเอ้อร์หลงกระซิบตอบ
สวนสวรรค์เป็นสถานที่สวยงาม บรรดาเซียนและนางฟ้าต่างพากันมาเที่ยวเล่นและพักผ่อนกัน เอ๋าเอ้อร์หลงมังกรเจ้าสำราญแห่งทะเลใต้ก็เช่นกัน นอกจากมาให้ความรู้ทางด้านศิลปะกับบรรดาเซียนรุ่นใหญ่แล้ว เอ๋าเอ้อร์หลงยังถือโอกาสมาพักผ่อนกับเทพที่เป็นสหายสนิทที่นี่ด้วย
การมาพักผ่อนของคณะเทพครั้งนี้ทุกตนสวมเสื้อคลุมวิเศษบดบังรัศมีเทพชั้นสูงเอาไว้เพื่อพรางตัวและอำพรางฐานะที่แท้จริง พวกเขาร่ายกลอน ดื่มสุราเคล้านารี และสร้างสรรค์งานศิลปะกันมากมาย
เป็นที่รู้กันว่าองค์ชายรองแห่งทะเลใต้เป็นพวกนักกวี นอกจากนั้นยังวาดภาพได้งดงามที่สุด ผลงานของเอ๋าเอ้อร์หลงเป็นที่ต้องการของบรรดาเทพที่สะสมงานศิลปะ
แต่ทว่ามังกรหนุ่มก็ไม่วาดภาพหรือแต่งกลอนให้ผู้ใดมั่วๆ เช่นกัน มังกรหนุ่มมักจะมอบภาพวาดให้กับผู้ที่พูดคุยถูกคอเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเทพชั้นผู้น้อยหรือเทพชั้นสูง
ถ้าถูกใจก็จะมอบภาพวาดที่แสนงดงามให้ทันที ถึงแม้จะเป็นมังกรเจ้าสำราญ แต่ทว่าก็รับผิดชอบหน้าที่ของตนได้อย่างดีเยี่ยม
นอกจากจะดูแลความเรียบร้อยของท้องทะเลในพื้นที่ของตนแล้ว ในยามปกติเอ๋าเอ้อร์หลงยังเป็นอาจารย์ให้กับบรรดามังกรทุกชนชั้นอีกด้วย เนื่องจากเป็นผู้มีความรู้มาก แถมยังเชี่ยวชาญในศิลปะหลายแขนง จึงทำให้มังกรหนุ่มได้รับความยกย่องจากผู้ที่มีใจรักงานศิลปะกันถ้วนหน้า
ขบวนนางฟ้ารับใช้ของเจ้าแม่หวังซีหมู่ มารดาแห่งสวรรค์ที่เพิ่งเหาะลงมาจากฟ้า เรียกความสนใจของบรรดาผู้ที่มาพักผ่อนที่สวนสวรรค์แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
เป็นที่ร่ำลือกันว่านางฟ้ารับใช้เจ้าแม่สวรรค์นั้นล้วนแต่งดงามหาผู้ใดเปรียบได้ และแน่นอนว่าบรรดาเทพที่เป็นชายทุกชนชั้นต่างก็หวังจะมายลความงามของพวกนาง
เอ๋าเอ้อร์หลงถูกเพื่อนๆ มังกรลากมาด้วย มังกรเกล็ดสีเขียวมรกตมองขบวนนางฟ้ารับใช้แล้วถอนหายใจ แต่ละนางสวยก็จริง แต่ไม่มีนางใดที่สวยสะดุดตาตนเลยสักนาง มังกรหนุ่มทำท่าจะผละไปแต่แล้วดวงตาคมกล้าก็เหลือบไปเห็นสตรีนางหนึ่งเข้า
นางผู้นั้นตรึงสายตาของมังกรเจ้าสำราญไว้ได้ คิ้วของนางโค้งดังคันศร เยื้องย่างแต่ละก้าวก็แสนจะนุ่มนวล ดวงตาเรียวยาว ช่วงหางตาตวัดโค้งขึ้นเล็กน้อย ลูกนัยน์ตาดำสนิทช่างหวานล้ำเหนือคำบรรยาย ริมฝีปากบางได้รูป สีชมพู เป็นมันเงา ลำคองามระหง ความงามของนางผู้นี้งามจนสามารถตรึงสายตาทุกคู่ไว้ที่นางได้เพียงผู้เดียว
“นางฟ้าชิงลี่ นางทำหน้าที่เป็นนางฟ้าที่ดูแลสวนท้อสวรรค์ คำเขาลือว่างดงามเหนือคำบรรยายอยู่นี่เอง สวยจริง สวยกว่าที่เขาลือกันด้วยซ้ำ” บรรดาเทพหนุ่มๆ ต่างชื่นชมความงามของนางฟ้าผู้นั้นกันไม่ขาดปาก
“เห็นว่าเจ้าแม่จะมาพักผ่อนที่สวนสวรรค์ เลยพาบรรดานางฟ้าที่ท่านเมตตามากๆ มาด้วย”
“ดีเลย ถ้าอย่างนั้นเราก็จะได้เห็นสาวๆ สวยๆ กันเป็นอาหารตา” เอ๋าเอ้อร์หลงรับฟังสิ่งที่พวกเทพหนุ่มพูดกันเงียบๆ และแอบตามไปจนถึงประตูบานใหญ่ซึ่งเป็นที่พักของเจ้าแม่แห่งสวรรค์ และซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่งข้างประตูนั้นเงียบๆ
เวลาผ่านไปหลายชั่วยามในที่สุดประตูบานใหญ่ก็ถูกเปิดออก ไม่นานนัก บรรดานางฟ้าร่างอรชรก็พากันเดินออกมา หนึ่งในนั้นมีหญิงสาวที่เอ๋าเอ้อร์หลงหมายตาเอาไว้ด้วย
“พี่ชิงลี่ เราไปไหว้ศาลเจ้าแม่กวนอิมกันเถิดเจ้าค่ะ เราไม่ได้ไปที่ป่าไผ่ ดังนั้นเราไหว้ที่นี่แทนน่าจะดี” นางฟ้านางหนึ่งเอ่ยขึ้นมา และเจ้าของชื่อชิงลี่ก็พยักหน้ารับช้าๆ
“ไปสิ”
ภายในวิหารเจ้าแม่กวนอิมมีความสงบร่มเย็น บรรดาบุรุษถูกองครักษ์เจ้าแม่สวรรค์กันไม่ให้เข้าไปด้านใน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบรรดานางฟ้ารับใช้เจ้าแม่แห่งสวรรค์ เอ๋าเอ้อร์หลงก็ลอบเข้าไปจนได้
มังกรหนุ่มเจ้าสำราญเดินตรงไปแอบที่เสา เมื่อเห็นว่านางฟ้าหลายตนทยอยออกไปแล้วเหลือแต่นางที่ตนหมายตา องค์ชายรองแห่งทะเลใต้ก็ไม่รอช้าที่จะเข้าไปนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ และแสร้งทำเป็นคำนับรูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิมพร้อมกับนางด้วย
ชิงลี่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทำท่าจะเดินออกไป แต่ไปไหนไม่ได้เนื่องจากถูกผู้ที่นั่งไหว้เจ้าแม่อยู่ข้างๆ นั่งทับชายกระโปรงเอาไว้ เอ๋าเอ้อร์หลงลอบยิ้มและทำท่าคำนับเจ้าแม่ต่อ
“เจ้าแม่ผู้เมตตาโปรดประทานความเมตตามายังข้าผู้น้อย ขอให้นางฟ้าผู้งดงามรับรักด้วยเถิด” มังกรเจ้าสำราญพูดและมองไปยังรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สวยงามราวกับมีชีวิต เพื่อเป็นการเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นว่าตัวเองทำให้อีกฝ่ายไปไหนไม่ได้
ชิงลี่มองผู้ที่กำลังขอพรแล้วถอนหายใจพลางมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่ติดจะดูแคลนนิดเสียด้วยซ้ำ ทำไมนางจะไม่รู้ว่าสิ่งที่บุรุษผู้นี้พูดหมายถึงอะไร แต่ทว่าคร้านที่จะต่อปากต่อคำ
“พระโพธิสัตว์ผู้เมตตา โปรดช่วยทำให้คำขอร้องนี้เป็นจริง”
“เจ้าทับชายกระโปรงของข้าอยู่” เสียงหวานดังออกมาจากริมฝีปากคู่สวยนั้น สร้างความพอใจให้กับมังกรหนุ่มมาก
“ข้าทับชายกระโปรงของเจ้าอย่างนั้นรึแม่นาง ข้าขอโทษ” เอ๋าเอ้อร์หลงเอ่ยขึ้นมาพร้อมมองอีกฝ่ายด้วยแววตาที่กรุ้มกริ่ม
ชิงลี่ไม่ได้โต้ตอบ นางนิ่งและใช้สายตามองไปที่ชายกระโปรงแทน และมันก็ทำให้มังกรหนุ่มยอมลุกขึ้นยืนโดยดี เมื่อเห็นว่าชายกระโปรงของตัวเองไม่ถูกทับแล้ว นางฟ้าแสนสวยก็ทำท่าจะเดินจากไป แต่ทว่าถูกอีกฝ่ายขวางทางไว้เสียก่อน
“หลีกทางให้ข้าด้วย”
“แม่นาง ท่านจะไม่ยกโทษให้ข้ารึ”
“พี่ชิงลี่เกิดอะไรขึ้นหรือคะ” นางฟ้าอีกนางเดินเข้ามาถามเมื่อเห็นว่านางฟ้ารุ่นพี่ไม่เดินตามออกมาเสียที
“ไม่มีอะไรหรอกเพ่ยเพ่ย เราไปกันเถอะ” ชิงลี่ตอบสั้นๆ ไม่แม้แต่จะเหลียวมองบุรุษที่อยู่ไม่ไกลนักเลย เมื่อพูดจบนางก็เดินนำหน้าออกไป
“เสียงก็หวาน หน้าก็สวย แบบนี้แหละ ที่ข้าต้องการ” องค์ชายรองพูดและยิ้มออกมา แววตามองตามนางฟ้าคนงามนั้นไปด้วยความมุ่งมั่น เอ๋าเอ้อร์หลงพยายามจะเดินตามแต่ทว่าถูกนางฟ้านามว่าเพ่ยเพ่ยขวางทางเอาไว้เสียก่อน
“คิดจะทำอะไร” นางฟ้าหน้าตาจิ้มลิ้มถามพร้อมทั้งมองสบตาบุรุษผู้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงอย่างตำหนิ
“เปล่า”
“ปากเจ้าบอกว่าเปล่า แต่สายตาเจ้าไม่พูดแบบนั้น” มังกรเจ้าสำราญยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นทำให้นางฟ้าเพ่ยเพ่ยถึงกับหวั่นไหวแต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น นางไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ารอยยิ้มของชายผู้นี้มีพลังมากมายนัก
“นางผู้นั้นเป็นนางฟ้าที่ดูแลสวนท้อของเจ้าแม่แห่งสวรรค์ ท่านไม่ควรล่วงเกิน เป็นเซียนชั้นผู้น้อยไม่ควรใฝ่สูง เป็นคางคกอย่าริอ่านคิดจะกินเนื้อหงส์ฟ้า”
“ข้าไม่ได้อยากกินเนื้อหงส์ฟ้า แต่ข้าอยากได้หงส์ฟ้าตัวเป็นๆ มากกว่า” คำตอบนั้นทำเอานางฟ้าคนสวยถึงกับตกใจ
“ท่านไม่ควรล่วงเกินนางทั้งคำพูดและสายตา”
“ขอบใจแม่นางที่เตือนสติ” เพ่ยเพ่ยมองสบตามังกรหนุ่มในคราบเซียนชั้นผู้น้อยด้วยความอ่อนใจ และสมเพชไปในคราเดียวกัน
ชิงลี่เป็นสาวงามแน่นอนว่านางเป็นที่ถูกตาต้องใจของบรรดาผู้พบเห็น แต่ทว่าพี่ชิงลี่ของนางไม่สนใจเซียนชั้นผู้น้อยออกจะรังเกียจด้วยซ้ำ นางไม่พูดอะไรต่อและเดินจากไปเงียบๆ ทิ้งให้มังกรหนุ่มยืนอมยิ้มอยู่เพียงลำพัง
ชิงลี่จัดดอกไม้ลงแจกันด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาหลังจากที่ฟังนางฟ้ารุ่นน้องเล่าเรื่องชายหนุ่มที่พบที่วิหารเจ้าแม่กวนอิมเมื่อไม่กี่ชั่วยามที่ผ่านมา เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยเสียจนนางชินชาไปเสียแล้ว
“บังอาจมากที่คิดจะมาวุ่นวายกับพี่ชิงลี่” เพื่อนนางฟ้ารุ่นน้องพูดอย่างเสียมิได้
“ช่างเถอะ”
“แต่เขาพูดจาไม่ดีเลยนะพี่ชิงลี่”
“ก็แค่คำพูดเท่านั้น อย่าไปถือสาเลย ข้าไม่สนใจหรอก ชายผู้นั้นเป็นเพียงเทพชั้นผู้น้อย เราไม่ควรใส่ใจมากนักเสียเวลา” ชิงลี่ตอบสั้นๆ นางไม่อยากสนใจเรื่องพวกนี้
“พี่ชิงลี่ทำไมพี่ใจดีจัง”
“ข้าไม่ได้ใจดี เพียงแต่ว่าเขาไม่คู่ควรที่จะชายตามองด้วยซ้ำ” นางฟ้าโฉมงามพูดด้วยน้ำเสียงที่อวดดี นางเป็นถึงนางฟ้าชั้นสูงเรื่องอะไรจะต้องไปใส่ใจกับเทพชั้นผู้น้อยตนนั้น
แม้ว่าขบวนนางฟ้าโฉมงามจะจากไปแล้ว แต่ทว่าบรรดาเซียนหนุ่มต่างยังพากันพูดถึงความงามของพวกนางอยู่ไม่ขาดปาก เอ๋าเอ้อร์หลงองค์ชายรองแห่งทะเลใต้ก็เช่นกัน
“ข้าเจอสาวงามมาหลายต่อหลายนาง แต่นางฟ้านามว่าชิงลี่นั้นงามที่สุด”
“มีคำร่ำลือว่านางแสนจะหยิ่งนะองค์ชาย” เสียงของเทพตนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา เอ๋าเอ้อร์หลงมองผู้พูดเล็กน้อยก่อนที่จะยิ้ม
“ข้าชอบสิ่งสวยงาม และแน่นอนว่าข้าชอบนาง เมื่อชอบแล้วถึงจะหยิ่งแค่ไหนก็ย่อมต้องไขว่คว้าจริงไหม ข้าจะหยุดนอกเสียจากหมดสนุกและไร้ความสนใจในตัวนางผู้นั้นแล้วก็เท่านั้น” คำพูดนั้นทำให้คู่สนทนาส่ายหน้าเป็นเชิงไม่เห็นด้วย
“องค์ชายรอง สตรีต่อให้งดงามมากแค่ไหน แต่ถ้าอวดดี ถือดี และหยิ่งผยองมากจนเกินไปก็ไม่น่าที่จะเข้าใกล้นัก” เอ๋าเอ้อร์หลงอมยิ้ม
“ก็จริง แต่ความสวยงามของสรรพสิ่งมักดึงดูดข้าได้เสมอ” การสนทนาจบลงในเวลาต่อมาเมื่อเหล่าบรรดาเทพต่างพากันไปชมความงดงามของทุ่งดอกเหมย
“เจ้าเป็นองครักษ์สวรรค์คงจะรู้เรื่องของบรรดานางฟ้าที่ติดตามเจ้าแม่ เล่าเรื่องของนางฟ้าตนนั้นให้ข้าฟังหน่อยสิจิ่วฝู” เอ๋าเอ้อร์หลงเอ่ยถามสหายรักเมื่อนั่งดื่มกันตามลำพัง
มังกรฟ้าเหล่ตามองเพื่อนเล็กน้อย รู้ดีว่ามังกรแห่งทะเลใต้ผู้นี้ลุ่มหลงบรรดาสตรีที่งดงามมากเพียงใด
“นางทำหน้าที่ดูแลสวนท้อสวรรค์ ข้าเคยพูดคุยกับนางอยู่สองสามครั้ง นางค่อนข้างจะถือตัวและหยิ่งแบบร้ายกาจ นางปฏิบัติต่อผู้ที่ต่ำชั้นกว่าไม่น่ารักนัก” จางจิ่วฝูมังกรฟ้าอธิบาย
“ข้าเคยได้ยินมาว่าที่สวนท้อมีทั้งหญิงที่งามที่สุดและหญิงที่อัปลักษณ์ที่สุดด้วย ไม่น่าเชื่อนะว่าจะมีนางฟ้าที่อัปลักษณ์อยู่ในสวรรค์ แต่ข้าไม่สนใจนางฟ้าที่อัปลักษณ์แน่นอน” มังกรเจ้าสำราญบอกกับเพื่อนสนิทในสิ่งที่ตนไปสืบรู้มา
“ข้ารู้อยู่แล้ว เจ้าชอบสิ่งที่สวยงามมาตลอด”
“ข้าคงหมดสิ้นความสุข หากต้องทนอยู่กับสตรีที่ไม่น่ามอง”
“เอ้อร์หลง บางที่ความงามอาจจะซ่อนอยู่ภายใน” มังกรฟ้าเตือนเพื่อนรักอย่างเสียมิได้ รู้ดีว่าเพื่อนของตนนั้นชอบสิ่งที่สวยงามมากเพียงใด มังกรตนนี้มีความเก่งกาจและชอบความสวยงามของสตรีเป็นที่หนึ่ง
“ความงามภายในเป็นเรื่องที่แสนจะเศร้า เพราะกว่าจะเห็นต้องใช้เวลานาน แต่ความงามที่ปรากฏต่อหน้าสายตานี่สิเป็นสิ่งที่เจริญใจ ข้าคิดว่าบางทีข้าอาจจะต้องทำบางอย่างเพื่อให้ได้สิ่งสวยงามนั้นมาไว้กับตัว” มังกรหนุ่มพูดเสียงเรียบแววตาเจ้าเล่ห์
“พูดแบบนี้แปลว่าเจ้าจะไปสวนท้อของเจ้าแม่สวรรค์รึ” มังกรหนุ่มรูปงามไม่ตอบ เขาเงียบแต่ทว่าริมฝีปากปรากฏรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์ขึ้นมาแทน
