บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2

“อา...ครั้งนี้เป็นหนุ่มน้อยหรือนี่...ปรารถนาสิ่งใดนะ”

เขมกรกำลังจะเอ่ยปากบอกในสิ่งที่ต้องการ แต่กลับเปิดปากไม่ได้ มิหนำซ้ำร่างกายก็ยังแข็งทื่อ ขยับเคลื่อนไม่ได้ด้วย จนเขาเริ่มกลัว

“หนุ่มน้อยปรารถนาสิ่งใดกันน่ะ”

เสียงนั้นยังคงดังผ่านความมืดมิดมาอีกครั้ง เขมกรพยายามเพ่งมองว่าเสียงที่ได้ยินดังมาจากทิศทางใด แต่ก็ไม่เห็นอะไร ความเงียบก็ครอบคลุมไปพักใหญ่ ก่อนจุดที่เขายืนจะสว่างจ้าจนแสบตา

“สิ่งที่ปรารถนา...อยากช่วยเหลือครอบครัวสินะ ความต้องการที่น้อยนิดแต่ยิ่งใหญ่ ช่างเป็นเด็กที่กล้าหาญและกตัญญูยิ่งนัก...น่าสนใจ ๆ ”

เขมกรได้แต่ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก ในหัวเต็มไปด้วยความสงสัย ทำไมความต้องการที่มันซุกซ่อนอยู่ในส่วนลึก ที่ยังไม่ทันจะได้เปิดปากพูดด้วยซ้ำ กลับถูกใครก็ไม่รู้ที่ไม่เคยรู้จักและไม่เคยเห็นหน้าด้วยรู้

“รู้ใช่หรือไม่ ของฟรีไม่มีในโลก”

เขมกรพยักหน้ารับ รู้ดีแก่ใจเชียวล่ะ ที่ป่าวประกาศว่าให้ฟรี ๆ นะ ไม่มีจริงหรอก เวลาถูกเรียกเก็บคืน...แทบกระอักออกมาเลือด

“ในเมื่อรู้แล้ว ถ้าเช่นนั้นเจ้ายินยอมที่จะแลกเปลี่ยนไหมล่ะ”

เขมกรขบเม้มปากเข้าหากัน การแลกเปลี่ยนที่ว่า เขาจะทำมันได้หรือเปล่าและมันจะหนักเกินไปสำหรับเด็กอย่างเขาหรือไม่ แล้วผลที่ได้มามันจะคุ้มค่ากันหรือเปล่า

“มิต้องกังวล สิ่งที่ใช้แลกเปลี่ยนมิเกินความสามารถของคนที่ทำการแปลกเปลี่ยน”

“ท่านเป็นใครกันแน่” เขายังไม่ทันจะได้พูดอะไรเลย คนผู้นี้ที่ยังไม่เปิดเผยตัวตนก็ล่วงรู้ความคิดที่อยู่ในหัวแล้ว

“ข้าจะเป็นใคร เจ้ามิต้องใส่ใจหรอก รู้เพียงแค่ว่า สิ่งที่เจ้าต้องการข้าสามารถช่วยได้...ต้องการหรือไม่ล่ะ”

เขมกรจำต้องคิดทบทวนให้ดี เขาจะเชื่อในคำพูดของใครก็ไม่รู้ได้เหรอ

“ข้ามีเวลาให้เจ้าตัดสินใจมินานหรอกนะ มีผู้คนอีกมากมายที่ต้องการโอกาสที่เจ้าได้รับในครั้งนี้”

“ผม...”

“ว่าอย่างไร จะรับโอกาสที่ข้าให้เจ้าหรือไม่”

“ผม...” ในหัวเขาจะว่าว่างเปล่าก็ไม่เชิง ด้วยสิ่งที่คิดอยู่มันไหลไป...ไม่มีหยุดนิ่ง แต่จับสิ่งใดไม่ได้เลย คงได้แต่ยืนนิ่งงันอยู่อย่างนั้น ในความคิดเวลามันคงจะผ่านไปนานมาก หากความจริงแล้วแค่เวลาผ่านไปเพียงแค่ข้าหายใจเข้าและออกเท่านั้น เมื่อความคิดมันตกตะกอน เขมกรก็คิดได้ว่า...

ในเมื่อมีโอกาสแล้ว ทำไมเขาถึงไม่ยอมเสี่ยงล่ะ เขาก็ไม่มีอะไรที่จะต้องเสียแล้วนี่น่า

ไม่ว่าการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้จะทำให้เขาต้องพบเจอกับเรื่องราวและสิ่งที่ไม่ดียังไง แต่ถ้าแก้ปัญหาเลวร้ายที่ครอบครัวประสบอยู่ ได้ทำให้ครอบครัวมีความสุข สิ่งที่ปรารถนาจริง...มันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยงไม่ใช่หรือไง

“ถ้าผมต้องการให้สิ่งที่คิดไว้เป็นความจริง ผมต้องแลกเปลี่ยนกับอะไรบ้างครับ”

“เจ้านี่...ฉลาดและตัดสินใจได้อย่างฉับไวเสียจริง หากข้าจะต้องบอกกับเจ้าก่อน เมื่อเจ้าตัดสินใจทำสัญญาแลกเปลี่ยนกับข้าแล้ว ข้าจะทำให้ความต้องการของเจ้าเป็นจริงภายในสามวันเจ็ดวัน แต่สิ่งที่เจ้าต้องการจะต้องไม่ไปทำร้าย ทำอันตรายผู้ใดจนถึงแก่ชีวิต”

เขมกรพยักหน้ารับ เรื่องนี้ไม่อยู่หัวเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าคนผู้นั้นจะเลวร้ายแค่ไหน แต่มันก็คือหนึ่งชีวิตที่คนผู้นั้นเลือกเส้นทางเดินของเอง คนที่ทำไม่ดีต่อให้มีอำนาจมากมายเพียงใด แต่สุดท้ายแล้วก็หนีผลกรรมจากการกระทำของตนเองไม่พ้น เพียงแต่ผลของกรรมที่จะได้รับนั้นจะมาถึงเร็วหรือช้าเท่านั้นเอง

“เมื่อเริ่มต้นแลกเปลี่ยนแล้ว เจ้ามิอาจกลับคืนคำ มิอาจที่จะยกเลิกมันได้ ทุกอย่างจะเป็นไปตามคำสัญญา!”

ก็ไม่รู้ว่าจะต้องแลกเปลี่ยนกับอะไร ร้ายแรงแค่ไหน มันก็ทำให้วิตกกังวลอยู่เหมือนกัน แต่เพื่อครอบครัว เพื่อคนที่เขารัก...เขมกรก็เลือกที่จะพยักหน้ารับ

“ครับ ผมเข้าใจแล้ว ถ้าท่านทำให้สิ่งที่ผมต้องการเป็นจริงได้ ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไร ผมก็ยอมทั้งนั้น”

“ข้าอยากได้ยินจากปากเจ้า ปรารถนาให้ข้าสิ่งใดให้”

“ถ้าผมจะขอ...คนพวกนั้นทำร้ายคนอื่นด้วยวิธีการต่าง ๆ มาตลอด ถ้าเป็นไปได้ ในเมื่อคุณบอกว่าเอาชีวิตเขาไม่ได้ ก็ขอให้เขาได้รับกรรมจากสิ่งที่กระทำเร็วหน่อย อย่าง...ถูกตำรวจจับและหมดสิทธิ์จะออกมาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นอีก จะได้ไหมครับ”

ถ้าหากไม่ทำให้คนพวกนั้นถูกจับ หลังจากนี้ก็ยังจะต้องมีอีกหลายครอบครัวที่จะต้องได้รับผลกระทบจากการกระทำของพวกเขา ถึงเขาจะเข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันมักจะมีตัวตายตัวแทนเสมอ หมดจากคนกลุ่มนี้ไป ก็ยังมีคนกลุ่มอื่นหวังได้เงินอย่างง่าย ๆ เข้ามาแทน...สิ่งที่ทำก็เพียงแค่ตัดไฟเพียงแค่ต้นลม ไม่ให้ลุกลามไปได้ไกลเท่านั้น แต่มันก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยไม่ใช่หรือยังไง

“ก็ได้อยู่นะ ต้องขึ้นอยู่กับความปรารถนาของเจ้าหนักแน่นเพียงใด ถ้ามิมากจนเกินไปกว่านี้ ข้าก็พอจะทำให้ได้”

“สิ่งที่ผมปรารถนา...ขอเพียงแค่ให้ครอบครัวอยู่กันอย่างมีความสุข ทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง พ่อกับแม่มีงานที่มั่นคงทำ ไม่ต้องร่ำรวยแต่ขอให้มีเงินมีทองพอกินพอใช้ ไม่เป็นหนี้เป็นสินใคร มีเงินเก็บไว้ใช้ยามมีเหตุฉุกเฉินและให้น้องทั้งสองคนเรียนจบอย่างที่คาดหวังนะครับ”

“เจ้าช่างเป็นเด็กที่ดีจริง ๆ เจ้ารู้หรือไม่...สิ่งที่เจ้าปรารถนาจะต้องแลกกับการที่มิมีเจ้าอยู่ในชีวิตของพวกเขา...มิเคยพบพานและรู้จัก ไร้ตัวตน ไร้ความทรงจำโดยสิ้นเชิง”

เสียงที่ดังมาทำให้เขมกรถึงกับตกตะลึง ก่อนความเจ็บปวดจะถาโถมเข้าหา น้ำตามันไหลออกมาอย่างไม่ทันจะรู้ตัว แต่ถึงจะรู้อย่างนี้แล้ว เขาก็ยอม...ยอมที่จะเจ็บปวดเพียงลำพัง เพื่อให้ครอบครัวอยู่ดีมีสุข

เขมกรได้แต่ยิ้มด้วยความเศร้าหมอง

“ครับ...ผมรับได้”

พ่อกับแม่ให้ชีวิต เลี้ยงดูเขาอย่างดีที่สุดเท่าที่จะได้ ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะต้องแสดงความกตัญญูและตอบแทนพระคุณแล้ว อีกทั้งสิ่งที่ทำก็ไม่ได้เกิดความสามารถด้วย

“ผมยินดีแลกเปลี่ยนกับคุณครับ”

“เจ้าช่างเป็นบุตรที่กตัญญูจริง ๆ เป็นโชคดีของข้าที่เลือกคนมิผิด”

เสียงที่ได้ยิน...เหมือนจะมีแววสำเริงสำราญใจมิน้อย ในขณะที่เขมกร...ได้แต่เฝ้ารอคอยด้วยใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ สิ่งที่ต้องการจะเป็นจริงได้หรือไม่...

“เจ้ายังมีความปรารถนาอีกหรือไม่”

“ถ้าเป็นไปได้...ผมแค่อยากรู้ว่าจะมีเวลาเหลืออยู่กับครอบครัวอีกนานเท่าไหร่ เท่านั้นเองครับ” ถ้าจะต้องแลกเปลี่ยน...ถ้าจะฟังแล้วตีความไปไม่ผิด สิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยนคือ...ชีวิตของเขาที่จะต้องจากไป

ถึงจะรู้อย่างนี้ เขมกรก็ไม่คิดจะเปลี่ยนใจ แต่เพียงแค่อยากมีเวลาอยู่กับครอบครัวอีกสักหน่อย...จะแค่หนึ่งวัน หรือจะหนึ่งชั่วโมง ถ้าไม่ได้ ก็ขอ...หนึ่งวินาที เขาก็เอา

ขอเพียงเท่านี้...จริง ๆ

“เหมือนเจ้าจะเป็นคนมักน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่เจ้าปรารถนานั้นถือว่ายิ่งใหญ่อยู่นะ”

“ไม่ได้หรือครับ” นี่เขาจะต้องจากพ่อกับแม่และน้อง ๆ ไปโดยไม่ทันจะได้สั่งเสียล่ำลาหรือไงกัน

“เห็นแก่เจ้าที่เป็นบุตรกตัญญู ถือว่าข้าให้เจ้าสมหวังก็แล้วกัน สามวันจากนี้ข้าขอให้เจ้าใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุข”

แล้วทุกอย่างก็มืดสนิท เขมกรยังคงยืนอยู่ที่เดิม...ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมแม่น้ำที่ด้านหน้าไม่ได้มีอะไรเลยสักนิด จนคิดว่าไปเมื่อครู่คงเป็นความคิดความคาดหวังของตนเอง แต่เมื่อกลับไปถึงบ้านก็เห็นความเปลี่ยนแปลง...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel