บท
ตั้งค่า

2 | ภาพบาดตา

- 2 -

ภาพบาดตา

“แหม น่านี่อิ่มฟูเบิกบานมาแต่ไกลเลยนะ”

ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องชมรมเสียงแรกที่ทักทายก็คงไม่พ้นคำเอ่ยแซวหรือเรียกง่าย ๆ ก็คือคำเหน็บแนมอย่างที่ฉันได้ยินบ่อย ๆ เกือบทุกวันจากปากรุ่นพี่หนุ่มที่สนิทสนมด้วยกันนั่นแหละ

“นั่นสิ ทำไมหน้าสดใสขนาดนั้นอะพี่วา” คราวนี้เป็นเสียงของน้องสาวของฉันเองที่เอ่ยถาม ซึ่งฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไปเพียงแค่หย่อนกายลงบนโซฟาตัวยางพลางหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อตอบข้อความเท่านั้น

“คนมีความรักก็งี้แหละโย พวกเรามันก็แค่ส่วนเกิน”

“เนอะพี่เต แต่ก็พูดมากไม่ได้อะ เพราะพี่ภพเองก็คงไม่ต่างจากพี่วามากเท่าไหร่”

“แล้วทำไมถึงมาลงที่พี่ได้”

ฉันละสายตาออกจากโทรศัพท์มองสามคนตรงหน้าที่กำลังพูดคุยและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

พวกเขาทั้งสามคนนี้คือสมาชิกในโปรเจกต์ Next Level Love ที่ทางมหา’ลัยได้คัดเลือกมาสำหรับการโปรโมตกิจกรรมของทางคณะและมหา’ลัย ซึ่งฉันและคนอื่น ๆ อีกสามคนก็ได้รับคัดเลือกเข้ามาทำหน้าที่นี้

มันเป็นความบังเอิญมากกว่าที่พวกเราได้มาเจอกัน ฉันรู้มาว่าที่พวกเขาเลือกเราสี่คนมานั้นเป็นเพราะชื่อของพวกเขานั้นมีความหมายของแต่ละคนว่า ‘ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ’ อีกทั้งพวกเรายังมีธาตุประจำตัวตามความหมายของชื่ออีกด้วย นั้นจึงทำให้พวกเราสี่คนถูกคัดเลือกให้เป็นสมาชิกในโปรเจกต์นี้นั่นเอง

อย่างคนแรกพี่ภพ หรือ *’พิภพ’ ธาตุดิน เรียนคณะอักษรศาสตร์ ปีสี่ พี่ภพเป็นพ่อไมโครเวฟสุด ๆ อบอุ่นใจดี และเป็นคนที่ใจเย็นมาก ๆ เมื่อก่อนเป็นหนุ่มฮอตที่สาว ๆ หลายคนยกให้เป็นเจ้าชายแต่ตอนนี้พี่ภพมีแฟนแล้วก็เลยทำให้อกหักไปตาม ๆ กัน

ส่วนธาตุน้ำก็คือฉันเอง ‘วารี’ คงไม่ต้องอธิบายให้มากหรอกเนอะ ขอข้ามไปที่คนต่อไปเลยแล้วกัน

คนที่สาม **’วาโย’ ธาตุลม เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาคเครื่องกล ปีหนึ่ง วาโยเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของฉันเอง ตอนแรกต้องบอกเลยว่าตกใจมากที่เห็นว่าโยก็ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจกต์นี้ด้วยน่ะ โยเป็นคนเด็ดเดี่ยวและค่อนข้างดุ แต่ฉันไม่ค่อยได้เห็นโยในมุมนั้นเท่าไหร่เพราะส่วนมากเวลาที่เราอยู่ด้วยกันเรามักจะชอบทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ ตลอดนั่นแหละ

และคนสุดท้ายคือพี่เต หรือ ***’เตโช’ ธาตุไฟ เรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ปีสี่ พี่เตเป็นคนค่อนข้างอารมณ์ร้อน ใจร้อน และที่สำคัญชอบแกล้งฉันสุด ๆ อ้อ! พี่เตเจ้าชู้ด้วยนะ เป็นคนเจ้าเสน่ห์ มีสาว ๆ อยู่ทั่วทุกคณะ ฉันสนิทกับพี่เตมาก ๆ จนใครหลายคนชอบคิดว่าฉันกับพี่เตมีซัมติงกัน แต่จริง ๆ คือไม่ใช่! ไม่ใช่อย่างแน่นอนฉันรับประกัน!

“ไหนมีใครอยากดูไพ่บ้าง เดี๋ยววา...”

“หยุดเลยยัยวา”

ไม่ทันที่ฉันจะเอ่ยจบประโยคเสียงของพี่เตก็ดังแทรกขึ้นพร้อมกับยกมือห้ามเมื่อฉันหยิบไพ่ยิปซีออกมาจากกระเป๋า

“อะไรของพี่เนี่ย” ฉันขมวดคิ้วยุ่งมองหน้าพี่เตด้วยความไม่พอใจ มันไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่เตห้ามฉันเวลาจะเปิดไพ่ดูดวงชะตาให้แต่มันเป็นทุกครั้งแถมเขายังชอบว่าฉันด้วยว่าเป็นเรื่องงมงายหลอกเด็กน่ะ เหอะ ไอ้พี่บ้า!

“นี่แกยังไม่เลิกดูดวงหลอกเด็กอีกรึไง”

“วาไม่ได้หลอก!”

“งมงาย ไร้สาระ บ้านก็รวยยังจะหลอกขายฝันคนอื่นอีก” ประโยคนั้นของพี่เตทำให้ฉันเบิกตากว้างและรีบลุกขึ้นจากโซฟาเดินตรงไปทุบที่แขนแกร่งแรง ๆ อย่างนึกโมโห

งมงายอย่างนั้นเหรอ...ไอ้พี่บ้านี่ต้องโดนฉันสักหมัด!

“ไอ้พี่เต ไอ้พี่บ้า นิสัยไม่ดี นี่แหนะ!”

“โอ๊ย! เจ็บนะโว้ยยัยวา โอ๊ย ๆ พอแล้ว ๆ โอ๊ย! นี่มึงไม่คิดจะช่วยกูเลยเหรอไอ้ภพ ยัยโยก็ไม่คิดจะห้ามพี่สาวเราเลยรึไง”

“ไม่ต้องให้คนอื่นช่วยเลย พี่น่ะนิสัยไม่ดี ปากแบบนี้ถึงว่าไม่มีแฟนสักที!”

“โอ้โหยัยวา! ปากแกนี่นะ ไม่ใช่ไม่มีแฟนโว้ย พี่แค่ยังไม่อยากมี แกเข้าใจไหมว่าคนมันหล่อเลือกได้อะ”

ประโยคนั้นของพี่เตทำเอาฉันถึงกับกลอกตาไปมองอย่างนึกรำคาญ รวมไปถึงเสียงถอนหายใจจากพี่ภพและโยที่ดูท่าแล้วก็คงมีความรู้สึกไม่ต่างจากฉันเท่าไหร่

“อ้าว อะไรกับครับ ทำไมทำหน้างั้น ก็มันจริงอะ นี่ใคร นี่เตโชถาปัตย์นะครับ สุดหล่อแห่งถาปัตย์จะก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสิครับ” ว่าแล้วก็ทำหน้ายืดมั่นอกมั่นใจจนฉันได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับความหลงตัวเองของพี่เต

แต่มันก็จริงแหละพี่เตแกฮอตมาก ฉันเคยได้ยินมาว่ามีสาว ๆ ไปหาแกที่ตึกตั้งหลายคน บอกจะช่วยตัดโมอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วคนอย่างไอ้พี่เตก็ตอบตกลงสิรออะไร ได้คนมาช่วยงานมีเหรอจะปฏิเสธ แถมการตอบแทนก็คือพาผู้หญิงไปเลี้ยงข้าวดูหนัง พี่เตเจ้าเสน่ห์มากแต่ฉันก็ยังไม่เคยเห็นแฟนเป็นตัวเป็นตนของพี่แกสักที

“ช่างเหอะ แล้วสรุปมีใครอยากดูไพ่ไหม วันนี้อารมณ์ดีจะดูให้ฟรีไม่คิดเงินเลย” ฉันบอกยิ้ม ๆ แต่ความจริงแล้วก็ไม่ได้คิดเงินอะไรหรอก ฉันไม่ใช่หมอดูอาชีพและไม่ได้รับเปิดไพ่ให้ใครสุ่มสี่สุ่มห้า ต่อให้เอาเงินมากองตรงหน้าแต่ถ้าฉันไม่อยากดูให้ก็คือจบ!

“อารมณ์ดีจากที่ไหนมา ไอ้นอร์ท?” เป็นเสียงของพี่ภพที่ถามขึ้นทำเอาฉันได้แต่ยิ้มเขินและหลบสายตาลง

ใช่...ฉันกับพี่นอร์ทตอนนี้เราอยู่ในฐานะคนคุยกัน หลังจากเหตุการณ์วันนั้นพี่นอร์ทก็เข้าหาฉันตลอด ซึ่งมันก็เป็นเวลาสองเดือนได้แล้วที่ฉันกับพี่นอร์ทกำลังอยู่ในความสัมพันธ์ที่เรียกว่ากำลังคุย ๆ กันอยู่น่ะ

หลายคนอาจจะมองว่าฉันมูฟออนไว แล้วไง? ฉันไม่เคยสนใจกับคำพูดพวกนั้นเลยสักนิด ในเมื่อสาเหตุที่ไอ้พี่เอ็มขอเลิกกับฉันมันแรงและเจ็บปวดขนาดนั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะฉันจะต้องเสียใจและเก็บมาคิดให้ปวดหัว สู้มูฟออนเปิดใจกับคนใหม่ซะยังดีกว่า!

“จะใครล่ะพี่ภพ ก็ต้องเป็นคนคนนั้นอยู่แล้ว” นี่ไม่ใช่คำตอบจากฉันแต่เป็นวาโยต่างหาก ฉันเล่าให้วาโยฟังแทบทุกอย่างรวมไปถึงเรื่องที่กำลังคุยกับพี่นอร์ทด้วยเช่นกัน

ความจริงแล้วฉันก็ยังไม่อยากจะเปิดเผยมากหรอกกลัวเสียใจอีกอะ แต่พี่นอร์ทดีกับฉันมาก อีกทั้งยังเขาเทคแคร์ฉันไม่ต่างจากแฟนคนหนึ่งเลยทำให้ฉันไม่อยากปิดบังกับคนอื่น พูดง่าย ๆ ก็คืออยากอวดนั่นแหละ^^

“ชิ อยากพูดไรก็พูดไปเถอะ” ฉันทำท่าทางไม่สนใจก่อนจะหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าแต่ทว่ากลับต้องชะงักเพราะไม่ว่าจะควานหาเท่าไหร่ก็ไม่พบของที่ว่าเลยสักนิด “หายไปไหน...”

“หาอะไรอะพี่วา ไพ่ก็เอาออกมาแล้วนี่”

“กระเป๋าสตางค์อะ พี่จะคืนคีย์การ์ดห้องให้โยนั่นแหละแต่ไม่รู้ลืมไว้ที่ไหนอะ” ฉันจำได้ว่าหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากคอนโดฯ แล้วเรียบร้อยแต่ก็ไม่รู้ว่าเผลอไปวางทิ้งที่ไหนรึเปล่านี่สิ

ปกติแล้วฉันกับวาโยจะอยู่ที่บ้านและขับรถไปกลับมหาวิทยาลัย แต่เมื่อคืนฉันกับโยนอนค้างที่คอนโดฯ ที่แม่ซื้อไว้ให้น่ะ อีกทั้งในตอนเช้าฉันก็เป็นคนที่ออกจากห้องเป็นคนสุดท้ายด้วยเลยเป็นฝ่ายเก็บคีย์การ์ดไว้นี่สิ

“หายเหรอ พี่วาคิดดี ๆ ว่าลืมที่ไหน”

“จำไม่ได้อะ”

“เรื่องคีย์การ์ดโยไม่ห่วงหรอกเพราะโยมีอีกใบ แต่กระเป๋าตังพี่วานี่สิ ถ้าหายนี่เป็นเรื่องใหญ่เลยนะ” จริงอย่างพี่โยพูดนั่นแหละ ในนั้นมีบัตรที่สำคัญมากมายรวมไปถึงเอกสารต่าง ๆ ด้วย หากทำหายคงวุ่นกันใหญ่แน่

“อืม...เก็บไว้ไหนนะ”

“เมื่อเช้าไอ้นอร์ทมารับที่คอนโดฯ รึเปล่า อาจจะทำตกที่รถไอ้นอร์ทก็ได้นะ” เสียงของพี่ภพเอ่ยขึ้นทำให้ฉันนึกขึ้นได้ทันที จริงสิ...ฉันอาจจะทำตกไว้ที่รถของพี่นอร์ทก็ได้ ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ อย่าหายเลย

“ใช่แน่เลยอะพี่ภพ วาลองถามดูดีกว่า” ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดเข้าแอปพลิเคชันเพื่อส่งข้อความไปหาพี่นอร์ทและถามถึงกระเป๋าสตางค์ของตัวเอง ตอนนี้พี่นอร์ทไม่ได้มีเรียนนะเขามีเรียนตอนสายและว่างหนึ่งชั่วโมงก่อนจะมีเรียนอีกทีช่วงบ่าย

“ไปหามันที่ตึกเลยไหมล่ะ พี่มีธุระจะไปที่ตึกนั้นพอดี” พี่เตพูดขึ้นทำให้ฉันหันไปมองหน้าเขาอย่างจ้องจับผิดจนลืมไปสนิทเลยว่ากำลังสนใจกับกระเป๋าสตางค์ของตัวเองอยู่

“ไปทำไรวะ” พี่ภพถามอีกเสียงทำให้ในตอนนี้สายตาของฉัน พี่ภพ และวาโยต่างก็มองพี่เตเป็นตาเดียว

“ไปหาสาวครับ จบเนอะ”

“ว่าแล้วเชียว อย่างพี่เตจะไปทำอะไรได้นอกจากไปหาสาว ๆ น่ะ” ฉันบ่นอุบอิบนึกแล้วว่าต้องเป็นอย่างที่คิดจริง ๆ นั่นแหละ

“ว่าไง จะไปไหม”

“ไปสิ ไปหาพี่นอร์ทที่ตึกก็ดีเหมือนกัน อยากรู้ว่าจะมีสาว ๆ มาวอแวบ้างรึเปล่า” ฉันบอกอย่างไม่จริงจังนัก เพราะไม่คิดว่าพี่นอร์ทจะสนใจผู้หญิงคนไหนน่ะ ตลอดเวลาที่คุยกับพี่นอร์ทมาเขาค่อนข้างให้เกียรติและดูจริงจังกับฉันมาก เลยทำให้ฉันไม่ได้กังวลใจในเรื่องนี้เลยสักนิด

ตึกคณะดุริยางคศาสตร์

ฉันกับพี่เตเดินลงมาจากรถเมื่อเขาจอดรถที่บริเวณหน้าตึกเป็นที่เรียบร้อย พลันเมื่อฉันและพี่เตเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ทำให้รู้สึกถึงสายตาของคนรอบข้าง รวมไปถึงเสียงซุบซิบนินทาที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนเหล่านั้นพูดถึงอะไร

ก็คงเป็นเรื่องฉันกับพี่เตนั่นแหละ อย่างที่บอกว่าหลายคนคิดว่าฉันกับพี่เตมีซัมติงกันเพราะสนิทสนมกันมาก แต่ฉันก็ไม่คิดสนใจอยู่แล้ว ใครจะพูดอะไรก็พูดไป

“กูบอกแล้วว่าเขาคบกันจริง ๆ มึงดูสิเนี่ยเดินมาด้วยกันขนาดนี้”

“เออจริงด้วยว่ะ แต่เมื่อวันก่อนกูเห็นว่าพี่เตขับรถมารับพี่จอมที่ตึกไม่ใช่เหรอวะ หรือกูตกข่าวอะไรไป”

“แหมมึง พี่เตเจ้าชู้จะตายมึงก็รู้”

ประโยคหลังทำเอาฉันหลุดหัวเราะออกมาจนพี่เตหันมองด้วยหางตา

“ขำไรยัยวา”

“ก็ไม่ได้ยินเหรอที่คนเขาพูดกันอะ พี่เตเจ้าชู้จะตายมึงก็รู้” ฉันเลียนเสียงตามสิ่งที่ได้ยินแถมยังทำหน้าหยอกล้อจนพี่เตเอาแต่ทำหน้าบึ้ง

“ยัยตัวแสบ! เดี๋ยวเถอะ!” พี่เตล็อกคอฉันเอาไว้พลางยกมือยีที่เรือนผมของฉันจนยุ่งเหยิง ซึ่งการกระทำนั้นกลับทำให้คนอื่น ๆ ต่างหันไปซุบซิบกันยกใหญ่

“โอ๊ยพี่เต! ผมวายุ่งหมดแล้วเนี่ย!”

“สมน้ำหน้า อยากล้อพี่ดีนัก”

“ฮึ่ย เอามือออกไปเลย แล้วก็จะไปไหนก็ไป อยากไปหาสาวที่ไหนก็รีบไปเลย” ฉันออกปากไล่ด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์เป็นที่สุด มาหาผู้ชายถึงตึกคณะทั้งทีแต่ก็โดนไอ้พี่เตแกล้งจนหัวฟู แล้วจะไม่ให้โกรธได้ยังไงกัน!

“เออไปก็ได้วะ นั่นไงไอ้นอร์ท มันยืนอยู่ตรงนั้นพอดี” ฉันมองไปตามระดับสายตาของพี่เตซึ่งก็เป็นพี่นอร์ทที่กำลังยืนอยู่จริง ๆ

มันค่อนข้างไกลทำให้ฉันมองเห็นไม่ชัดเจนว่าเขากำลังยืนคุยอยู่กับใคร แต่ที่รู้ ๆ ก็มีเพื่อนผู้ชายของเขาสี่คนและ...ผู้หญิง

มีผู้หญิงด้วยเหรอ...?

ฉันมองไปทางพี่นอร์ทอยู่ครู่หนึ่งแต่ทว่าไม่นานกลับเป็นต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

สิ่งที่เห็นคือผู้หญิงคนที่อยู่อยู่ข้างพี่นอร์ทนั้นทำท่าทางสนิทสนมกันมากและถัดมาผู้หญิงคนนั้นก็เขย่งปลายเท้าเพื่อแตะริมฝีปากลงบนแก้มของพี่นอร์ท ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร อีกทั้งเขายังหยอกล้อพูดคุยกับเธอคนนั้นต่ออีกด้วย

อะไรกัน...!

“วา พี่วาเรากลับ...”

ฉันหันมองหน้าพี่เตที่ตอนนี้เจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด มือหนารั้งแขนฉันไว้ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเพื่อกำบังไม่ให้ฉันเห็นภาพบาดตาบาดใจนั้นอีก

“พี่เตรอวาก่อนได้ไหม เดี๋ยววามานะ” ฉันเอ่ยบอกเสียงสั่นพลางปั้นยิ้มให้กับคนตรงหน้า แม้ว่าภายในใจจะแตกสลายมากแค่ไหนก็ตาม

แต่ฉันอยากรู้...อยากรู้เรื่องทั้งหมดให้แน่ชัด ว่าสิ่งที่ฉันเห็นมันเป็นยังไงกันแน่

“กลับกันเถอะวา อย่าไปเลย”

“ไม่ค่ะ วาอยากรู้...อยากรู้ว่าเมื่อกี้มันคืออะไรกันแน่”

ฉันปฏิเสธและส่ายหน้าไปมาขณะที่หยาดน้ำตาก็เอ่อคลอจนแทบกัดกลั้นไม่อยู่ แม้ว่าจะรู้คำตอบอยู่แล้วลึก ๆ แต่ฉันก็อยากได้ยินกับหู และฟังจากปากของเขาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไรกันแน่

_____________________________

*ติดตามเรื่องราวได้ใน พิภพคืนรัก [พิภพ x ไวน์]

**ติดตามเรื่องราวได้ใน แค้นรักวารี [วารี x คราม]

***ติดตามเรื่องราวได้ใน เตโชล่ารัก [เตโช x เมลบี]

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel