บทที่ 8
"ธีร์หายไปไหนมาคะ จี๊ดมารอคุณตั้งนาน...” หญิงสาวร้องถามเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้าบ้านพักมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ
"ผมไปทำธุระมาครับ คุณจี๊ดมาหาผมมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ" ข้าราชการหนุ่มกล่าวพลางวางกระเป๋าสะพายลงบนโซฟาหน้าห้องนอน
"จี๊ดคิดถึงคุณค่ะ เลยมาหาคุณถึงที่บ้านไงคะ" หญิงสาวกล่าวพร้อมเบ้ปากลับหลังตามเคยแต่ชายหนุ่มยังคงส่งยิ้มน้อยๆ ให้หล่อนด้วยไมตรี
"ขอบคุณนะครับ"
จากนั้นข้าราชการหนุ่มก็เดินไปนั่งทำงานที่ยังค้างอยู่ที่โต๊ะทำงานอีกฝั่งหนึ่งของห้องรับแขก โดยไม่สนใจอะไรหญิงสาวเช่นแต่ก่อน จึงทำให้จี๊ดรู้สึกอึดอัด หงุดหงิดพอสมควร
"ธีร์จะไม่สนใจจี๊ดเลยหรือคะ จี๊ดตั้งใจมาหาคุณนะคะ" หล่อนมีอาการสะบัดสะบิ้งใส่ชายหนุ่มพอเป็นพิธีแล้วจึงเดินเข้าไปหาชายหนุ่มทางด้านหลังเก้าอี้เพื่อสวมกอด ก่อนจะวางคางบนไหล่กว้างอย่างที่เคยทำ
"จี๊ดครับ ผมต้องการทำงานอย่างสงบนะครับ ผมยังมีงานค้างอีกมากขอผมทำงานก่อนนะครับ"
ชายหนุ่มกล่าวเรียบๆ ก่อนที่หญิงสาวจะค่อยๆ คลายวงแขนจากลำตัวอีกฝ่ายด้วยความหงุดหงิดเพิ่มขึ้น
"โอเคค่ะ ถ้างั้นจี๊ดไม่กวนธีร์แล้ว ธีร์ทำงานของคุณไปเถอะค่ะ" หล่อนทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าถือแล้วเดินกระแทกเท้าออกจากบ้านชายหนุ่มไปอย่างรวดเร็ว
"กลับดีๆ นะครับจี๊ด"
ขณะที่ข้าราชการหนุ่มกล่าวกับหญิงสาว สายตาเขาก็ไม่ละจากงานบนโต๊ะไปมองเธอ ยิ่งทำให้หญิงสาวที่หันมองตามเสียงโกรธจัด รีบเดินไปยังรถยนต์สตาร์ทรถขับออกไปอย่างเร็ว ข้าราชการหนุ่มทำได้แค่เพียงส่ายหัวน้อยๆ กับการกระทำของหล่อน
บ้านนายแบบหนุ่ม
"วาไปไหนมาครับผมกลับมาจากทำธุระข้างนอกไม่เจอคุณเลย" ผู้จัดการหนุ่มถือแก้วน้ำส่งให้นายแบบหนุ่ม เมื่อเห็นเขานั่งพักที่โซฟา
"วาเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาลครับ"
"คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมไปถึงโรงพยาบาลครับ" เขาถามด้วยสีหน้าตกใจอย่างเป็นห่วง
"เกิดเรื่องนิดหน่อยครับ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว นะไม่ต้องเป็นห่วงนะ" เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม
"เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณไม่โทรบอกผม" ผู้จัดการหนุ่มยังมีสีหน้าตกใจไม่หาย
"ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เกิดเรื่องระหว่างทางนิดหน่อยพอดีได้คุณธีร์ช่วยไว้ครับ"
เมื่อชายหนุ่มได้ยินชื่อของข้าราชการหนุ่มก็รู้สึกใจแป้วขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก 'ทำไมต้องเป็นคนชื่อธีร์ด้วย ทำไมไม่เป็นตัวเรา' เขาบ่นในใจ
"นะเป็นอะไรรึเปล่าครับ สีหน้าไม่สู้ดีเลย" วาเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าเครียดๆ
"อ๋อ เปล่าครับผมเป็นห่วงวาน่ะ" เขากล่าวอย่างอายๆ เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกภายในจิตใจ
"หรอครับ ขอบใจมากนะนะที่เป็นห่วงและอยู่ข้างวามาตลอด" นายแบบหนุ่มกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะขอตัวขึ้นห้องนอน ปล่อยให้ผู้จัดการหนุ่มยืนยิ้มอย่างมีความสุขอยู่ในห้องรับแขก
เวลาผันผ่านจากวันแล้ววันเล่าความสัมพันธ์ของนายแบบชื่อดังกับข้าราชการหนุ่มเริ่มงอกงามดั่งต้นรักที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ที่ถูกหมั่นรดน้ำพรวนดินอย่างสม่ำเสมอไม่ขาดช่วง ส่งผลให้ต้นรักแตกกิ่ง ก้านสาขามากมายอย่างรวดเร็วด้วยการประคบประหงมของมือทั้งคู่ แม้บางครั้งมีลมแรง น้ำท่วมขังหรืออากาศที่ร้อนระอุ ทั้งสองต่างช่วยกันประคับประคองต้นรักให้ปลอดภัยได้ตลอดรอดฝั่ง
"วาครับเดี๋ยวผมเสร็จงานแล้ว ผมจะไปรับนะครับ คงถึงเวลาที่คุณถ่ายงานเสร็จพอดีครับ"
"ครับธีร์ วันนี้งานน่าจะเสร็จไวครับวารอได้ครับ" เขาตอบคนต้นสายด้วยรอยยิ้มเช่นนี้ทุกครั้ง
ระหว่างที่คนสองคนกำลังมีความสุขกับความรักที่เพิ่งก่อตัว ทางผู้จัดการหนุ่มที่นั่งฟังการสนทนาของนายแบบหนุ่ม ต้องอยู่กับการแอบรักที่เพิ่มความเจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อข้าราชการหนุ่มอย่างธีร์ เริ่มมีบทบาทในชีวิตของเพื่อนรักเขามากขึ้น เขาต้องทำเหมือนว่าไม่เป็นอะไรทั้งที่ใจเจ็บปวดเหลือเกิน ความรักและความปรารถนาดีต่อนายแบบหนุ่มของเขายังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง บัดนี้ได้แปรสภาพเป็นรักอันบริสุทธิ์ไปเสียแล้ว โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนจากอีกคนเพราะเขาเองรู้ดีว่า ถึงอย่างไรเพื่อนรักคงไม่สนใจเขาเป็นแน่ เพื่อไม่ให้ความรักที่มีต่อนายแบบหนุ่มเปล่าประโยชน์นะเลยแปรสภาพเป็นการช่วยเหลือดูแลเอาใจใส่ในหน้าที่การงานของวาให้ดีที่สุดในความคิดของเขาตอนนี้ คนที่เขารักมีความสุขนะเองก็มีความสุขเช่นกัน
"นะ... นะครับ... นะ..." ผู้จัดการหนุ่มสะดุ้งตามเสียงเรียกของเพื่อนรัก
"ครับ… ครับวา มีอะไรเหรอครับ"
"งานเสร็จหมดแล้วใช่มั๊ยครับ วันนี้"
"ครับหมดแล้วครับวา จะไปทำธุระกับคุณธีร์ต่อเหรอครับ"
"ใช่ครับ นะกลับบ้านก่อนก็ได้นะ เดี๋ยววาว่าจะซื้อกับข้าวเข้าบ้านหลังจากเสร็จธุระกับคุณธีร์ครับ นะอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั๊ยครับ วันนี้วาให้นะพักวันหนึ่ง นะเหนื่อยกับงานนอกบ้านแล้วยังต้องทำงานในบ้านอีก ไม่ว่าจะเก็บกวาดบ้าน ทำกับข้าวให้วากินทุกวัน วันนี้วาเลยจะเป็นฝ่ายทำให้นะกินบ้างดีมั๊ยครับ" คำพูดของเพื่อนรักทำเอานะผู้จัดการหนุ่มยิ้มไม่หุบ
"ตามแต่วาเลยครับ ผมกินได้ทุกอย่างครับ" เขากล่าวพลางส่งยิ้มให้วา
ขณะเดียวกันข้าราชการหนุ่มก็เดินทางมาถึงสตูดิโอถ่ายภาพ ชายหนุ่มยกมือไหว้เจ้าหน้าที่ทุกคนอย่างเคย ทุกงานทุกที่ที่ไปกับนายแบบหนุ่ม จนกองถ่ายแบบต่างรู้จักธีร์ ข้าราชการหนุ่มไฟแรงผู้มีอนาคตไกลคนสนิทของวา ทุกคนต่างรัก เอ็นดูและยอมรับธีร์ไม่แพ้กันกับวา นายแบบหนุ่มชื่อดังเลย ถึงแม้ข้าราชการหนุ่มจะใช้เวลาหลังเลิกงานคอยตามรับส่งนายแบบหนุ่มก็ไม่เคยกระทบกับงานที่เขาทำ การคบหาดูใจของคนทั้งสองคนไม่ใช่แบบหลบๆ ซ่อนๆ ทั้งคู่เปิดเผยความสัมพันธ์ ทำให้คนในสังคมต่างยอมรับพร้อมทั้งสนับสนุนในความรักครั้งนี้
"คุณนะสวัสดีครับ" ข้าราชการหนุ่มไม่ลืมทักทายผู้จัดการส่วนตัวของคนที่เขารัก
"สวัสดีครับคุณธีร์ วันนี้เต็มยศเลยนะครับ"
"อ๋อ พอดีวันนี้มีประชุมใหญ่น่ะครับเลยต้องเต็มยศน่ะครับ" เขากล่าวอย่างมีไมตรี
"ไปกันยังครับธีร์วาพร้อมแล้วครับ นะเปลี่ยนใจไปซื้อของกับเราสองคนได้นะครับ" เขากล่าวกับชายหนุ่ม แล้วหันไปถามผู้จัดการหนุ่มอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ยังคงได้รับการปฏิเสธเช่นเดิม คนทั้งสามจึงแยกทางไปทำธุระตัวเองต่อไป ส่วนนะกลับบ้านเพื่อไปเตรียมจัดตารางงานให้เพื่อนรักของเขาเช่นทุกครั้ง
ตลาดสดกลางใจกรุงซึ่งเป็นตลาดที่นายแบบหนุ่มกับผู้จัดการหนุ่มมาจับจ่ายหาซื้อวัตถุดิบไปปรุงอาหารอยู่เป็นประจำ พ่อค้าแม่ค้า ต่างรักใคร่วามากส่งผลให้เขาได้ของฟรีกลับบ้านอยู่บ่อยๆ ด้วยความที่เป็นคนที่เกรงใจคนวามักจะปฏิเสธอยู่ตลอดแต่เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ขายไม่ยอมเขาจึงรับของเหล่านั้นด้วยความรักความเข้าใจของทุกคนในตลาด
"วันนี้จะทำอะไรกินดีครับวา"
"วาว่าเราลองมาทำยำเล็บมือนาง ฉู่ฉี่ปลากะพง ส้มตำผลไม้ ผัดพริกแกงหมูใส่ถั่วฝักยาว ต้มซี่โครงไก่มะระ และก็แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายใส่มะเขือดีมั๊ยครับ" เขาร่ายรายชื่ออาหารอย่างตั้งใจทำให้อีกฝ่ายถึงกับตาโต
"โห เมนูวันนี้เยอะจังครับ จะกินหมดเหรอครับวา"
"วันนี้วาตั้งใจจะชวนคุณทำอาหารให้นะเขากินน่ะครับ เขาทำให้วากินมาตลอด วันนี้เลยอยากทำให้เขากินบ้างน่ะครับ คุณต้องช่วยวานะครับ นะๆๆ" นายแบบหนุ่มทำเสียงออดอ้อนเหมือนเด็กเล็กๆ ใส่ข้าราชการหนุ่ม ทำให้อีกคนอดยิ้มกับท่าทางของเขาเสียมิได้ ซ้ำยังอยู่กลางตลาดซึ่งมีผู้คนมากมายต่างจับจ่ายซื้อของ ส่งผลให้หลายๆ คนที่ได้ยินเหตุการณ์ดังกล่าวต่างหันมามองและอมยิ้มให้คนทั้งคู่มากมาย ข้าราชการหนุ่มอายหน้าแดงส่วนนายแบบหนุ่มไม่ต่างกัน ทั้งสองคนต่างเขินอายกับท่าทางของตัวเองที่ทำให้คนอื่นๆ พากันมองด้วยรอยยิ้ม
จึงรีบพากันไปมุมอื่นเพื่อรีบซื้อของที่จะนำไปปรุงทำอาหารอยู่นาน ต่างเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุด บ้างก็นำวัตถุดิบมาเทียบกับใบหน้าสวยๆ ของคนตัวเล็ก อย่างเช่นมะเขือเทศมาเทียบกับแก้มแดงๆ มะนาวเทียบกับดวงตาคู่สวย พริกเทียบกับเรียวปากงามและอีกมากมายอย่างสนุกสนาน
ทางฝั่งข้าราชการหนุ่มก็ไม่น้อยหน้า นำชมพู่มาเทียบกับจมูกโด่ง มะละกอเทียบกับใบหน้า ผักกาดเทียบผมบนหัว ทั้งคู่ดูมีความสุขเหมือนเป็นส่วนเติมเต็มซึ่งกันและกัน ทั้งยังส่งความสุขให้กับผู้พบเห็น ได้มีรอยยิ้มกันถ้วนหน้าทั้งตลาด จากปากทางตลาดจนท้ายตลาด ทั้งคู่ก็ยังสนุก กุ๊กกิ๊ก หยอกล้อ ป้อนน้ำกัน ซับเหงื่อให้แก่กัน ช่างดูน่ารักจนใครๆ ในตลาดต่างอิจฉาความรักที่กำลังเบ่งบาน
ทั้งคู่ใช้เวลากับการซื้อหาวัตถุดิบเกือบๆ 2 ชั่วโมง จนตลาดสดจะกลายเป็นตลาดแห่งความรักกันเลยทีเดียว
