บท
ตั้งค่า

บทที่๕...กระวนกระวายใจ (๑)

ซีน่อนผิวปากอย่างมีความสุขขณะเดินเลือกของในซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ที่พัก โดยมีบอดี้การ์ดในชุดธรรมดาตามอยู่ห่างๆ เพราะชายหนุ่มไม่ต้องการเป็นจุดสนใจถ้ามาขนาบข้าง อย่างไรเรื่องที่เขามาเมืองไทยก็ปิดเป็นความลับอยู่แล้ว

ขณะที่กำลังจะหยิบขนมก็มีมือหนึ่งมาคว้าเอาไว้พอดี หันไปมองก็พบหญิงเชื้อสายเอเชียแต่เขาไม่แน่ใจว่าเป็นคนไทยหรือเปล่าค้อมศีรษะพลางเอ่ยขอโทษเป็นภาษาอังกฤษ

“ขอโทษค่ะ เชิญคุณหยิบก่อนเลย” ร่างสูงที่ถือคติให้ผู้หญิงก่อนก็ผายมือให้หล่อน

“เลดี้เฟิร์ส” เพียงเท่านั้นเธอก็เอื้อมมือไปหยิบถุงขนมมาถือไว้แล้วเดินจากไป เขาจึงได้หยิบของลงตะกร้าค่อยไปจ่ายเงินที่ด้านหน้า

เสร็จแล้วก็เดินออกมาพร้อมอมยิ้มในมือหนึ่งอัน แกะมาอมเพื่อให้หายอยากบุหรี่ ประวัติของอลิสาบอกว่าเธอไม่ชอบผู้ชายสูบบุหรี่ เพราะฉะนั้นอยู่ที่ไทยเขาจึงต้องห้ามตัวเองอย่างเด็ดขาด ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อแผนทั้งนั้น

“คุณมาเที่ยวเหรอคะ” ออกมาข้างนอกก็เจอผู้หญิงคนเดิมดักรอ เขาพยักหน้าแล้วยิ้มให้หล่อนเล็กน้อย

“ใช่ คุณล่ะ”

“ฉันทำงานอยู่ที่ไทยค่ะ แต่เป็นคนจีน” เป็นคนของประเทศมหาอำนาจทางเอเชียนี่เอง เขาคิดว่าประเทศนี้กำลังแผ่ขยายไปทั่วโลก ทุกประเทศมักจะมีย่านไชน่าทาวน์ และพวกเขาก็ชอบจับกลุ่มกันเป็นก้อนไม่ค่อยคบค้าสมาคมกับใคร

ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยนักศึกษาประเทศนี้ค่อนข้างน่ากลัว ขยันเรียนและยังมีพรรคพวกเดินเป็นกลุ่มเกือบยี่สิบคน ไม่มีใครเข้าใกล้ได้เพราะคบกันเอง ไม่สานสัมพันธ์กับคนอื่น

“ผมมาจากอิตาลี” บอกขณะเดินกลับโรงแรม ไม่ค่อยอยากสนทนาด้วยเท่าไหร่แต่ฝ่ายหญิงดูท่าจะตื้อไม่เลิก

“ฉันสเตฟานี ลี่ค่ะ” แนะนำตัวโดยหวังให้เขาเอ่ยชื่อบ้าง ซึ่งถ้าไม่ตอบกลับคงเป็นการเสียมารยาท

“ซีน่อน” เธอพยักหน้าแล้วยิ้มเมื่อรู้จักชายหนุ่ม ทว่าพอถึงโรงแรมก็จ้องเอ่ยลากันทั้งที่ไม่ได้พูดคุยมากกว่านั้น

“น่าเสียดาย พอดีผมมีธุระ” หันไปบอกพลางทำหน้าเสียดายที่ไม่น่าเชื่อถือสักนิด

“ถ้าคุณต้องการเพื่อนเที่ยว นี่เบอร์ฉัน” มองเศษกระดาษที่เขียนเบอร์โทรศัพท์ชัดเจน เขารับมาแล้วยิ้มให้หล่อนก่อนเข้าไปลิฟต์ ค้อมศีรษะลงเล็กน้อยแล้วประตูก็ปิดลงพร้อมใบหน้าเรียบเฉย

ขยำกระดาษก่อนที่ประตูจะเปิดเมื่อถึงชั้นของตนเอง บอดี้การ์ดโค้งทำความเคารพเจ้านาย เขาจึงยัดเศษกระดาษแผ่นนั้นให้

“ไปตรวจสอบเจ้าของเบอร์ว่าเกี่ยวข้องอะไรกับแก็งเอเลแกนซ่าไหม แล้วมารายงานฉันทันที” บอกเสียงเข้ม ฝ่ายนั้นก็รับคำอย่างแข็งขันปล่อยให้เจ้านายอยู่ตามลำพังในห้องพักสุดหรูที่พี่ชายเตรียมไว้ให้

คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย จากเซ้นส์บางอย่างทำให้ซีน่อนคิดว่ามันไม่ปกติ ผู้หญิงคนนั้นหวังอะไรบางอย่างจากเขาแน่นอน แต่ที่อยากรู้มันคืออะไรต่างหาก

มือหนาคว้าโทรศัพท์แล้วกดโทรออกหาหญิงสาวที่ไม่ได้เจอหน้ามาสองวัน เขาไปดักรอเธอที่หน้าบ้านก็ได้ข่าวว่าอลิสาออกไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ หล่อนทำเหมือนกับว่ากำลังหลบหน้ากัน หนุ่มมากเสน่ห์เริ่มคิดหนักกลัวว่าแผนจะไม่สำเร็จ

ทั้งที่แววตาก็บ่งบอกถึงความหลงใหล ทำไมการกระทำกลับไปคนละเส้นทางเช่นนี้ เขาไม่เข้าใจสาวเอเชียเลย ถ้าคบคนประเทศเดียวกันหรือแถบยุโรปคงได้ทำกิจกรรมบนเตียงหลายรอบแล้ว เพราะแฟนคนแรกเขาก็ได้เธอก่อนจะตกลงคบกันเสียอีก

แล้วทำไมกับคนนี้ถึงได้ยากนัก เป็นสถิติในการจีบหญิงนานที่สุดของเจ้าพ่อมาเฟียแห่งเมืองโรนีโต้

“เมินกันอย่างนั้นเหรอ” ทั้งที่ควรจะโกรธแต่กลับสนุกซะอย่างนั้น ชายหนุ่มกดโทรอีกครั้งแต่ผลก็เป็นเหมือนเดิม

ไม่เคยมีใครเมินเขาทั้งที่เพิ่งถูกสารภาพความรู้สึก หล่อนแตกต่างออกไปจนกลายเป็นความท้าทายซะแล้ว

“ว่าไงคาร์ดอส” กำลังจะโทรออกแต่มีสายโทรเข้าจากต่างประเทศซะก่อน จำต้องรับเพราะคิดว่าคงมีธุระสำคัญ ใบหน้าคมเคร่งเครียดทันทีราวเปลี่ยนเป็นคนละคน

“เรื่องนั้นฉันให้นายจัดการเลย ถ้ามันทำคาสิโนเราป่วนก็น่าจะรู้ว่าสมควรโดนอะไร” บอกราวเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ได้ใคร่สนใจชีวิตนั้นเท่าไหร่ เพราะถือเป็นคำเตือนตั้งแต่ก่อนเข้าคาสิโนแล้วว่าถ้าล้ำเส้นนั้นหมายถึงชีวิต

ใช่ว่าการวางมือจากงานใต้ดินจะต้องใจดีกับคนที่คิดจะหาผลประโยชน์จากตน ถ้าไม่ถึงคาดจริงเขาก็ไม่อยากยุ่งกับชีวิตของใครหรอก

ซีน่อนไปรออลิสาที่ทำงานของหล่อน อีกไม่นานคงถึงเวลาเลิกเขาจะใช้โอกาสนี้ไปส่งเธอถึงบ้าน และเชื่อว่าหญิงสาวคงไม่ปฏิเสธ ยืนพิงรถเบนซ์ที่พี่ชายให้ยืมขณะรออยู่ด้านหน้า คนเดินผ่านไปมาต่างหันมองด้วยความสนใจ

หนุ่มต่างชาติอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตพับแขน ไม่มีเนกไทให้อึดอัด สวมกางเกงสแลคและรองเท้าหนัง แน่นอนว่ามันเป็นของพี่ชายที่เขายืมมาสวมให้ดูภูมิฐาน ร่างสูงไม่ได้เตรียมชุดมามากนักเพราะอย่างไรก็ซื้อใหม่อยู่แล้ว

สภาพอากาศของเมืองไทยไม่เอื้อให้ใส่เสื้อแขนยาว มันร้อนจนตัวเขาแดงไปหมด แต่วันนี้อากาศค่อนข้างดีกว่าปกติ เหมือนสวรรค์เป็นใจให้พวกเขาได้พูดคุยทำความเข้าใจกันและกัน

ประตูธนาคารด้านหลังเปิดออกทำให้คนรอยืดกายอย่างรวดเร็ว คาดหวังให้เป็นหล่อนแต่ก็ไม่ใช่ ไม่เคยต้องมารอผู้หญิงนานขนาดนี้มาก่อน

จนกระทั่งเห็นเกริกเปิดประตูออกมาก่อน ตามด้วยอลิสาที่ค้อมศีรษะให้ชายหนุ่มเป็นการขอบคุณที่เปิดประตูให้เธอ ทำเอาคนมองนิ่งไปชั่วขณะ จากที่ไม่ชอบหน้าชายผู้นั้นอยู่แล้วก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

“ซีน่อน” หล่อนหันมาสบตากับเขาพอดี ร่างสูงก้าวเข้ามาหาเมื่อเห็นว่าหล่อนกำลังจะจะขึ้นรถของหัวหน้า ความอึดอัดในใจทำให้ไม่สามารถควบคุมสีหน้าให้เป็นปกติได้ จับแขนเรียวเอาไว้เพื่อไม่ให้หล่อนหนีหน้าตน

“ทำไมไม่รับสายผม” ถามเสียงเข้ม แต่บุคคลที่สามก็แทรกมาก่อนทำให้บรรยากาศยิ่งขมุกขมัวมากกว่าเดิม

“คุณยังไม่กลับประเทศไปอีกเหรอ” ตวัดสายตามองอย่างไม่ชอบใจ ถ้าอยู่อิตาลีคงให้ลูกน้องลากชายคนนี้ออกไปแล้ว ทว่าเมืองไทยทำแบบนั้นไม่ได้ และเขาก็ไม่ต้องการทำตัวอันธพาลต่อหน้าหล่อนด้วย

“เรื่องของเรา ผมมั่นใจว่าคุณคิดเหมือนกันและผมก็ยังยืนยันคำเดิมว่าชอบคุณ” เกริกถึงกับพูดไม่ออกที่มีชายอื่นมาบอกรักหญิงที่ตนหมายปองต่อหน้าต่อตาแบบนี้

อลิสาอึ้งไม่คิดว่าชายหนุ่มจะพูดตรงขนาดนี้ จนเป็นเธอเองที่เขินกับคำสารภาพของเขาอีกครั้ง

“ผมให้เวลาคุณ แต่มันไม่ได้หมายถึงให้คุณตัดสัมพันธ์ของเรา ผมยังอยากได้ยินคำตอบที่ชัดเจนจากปากคุณ” มองใบหน้าคมที่มีความจริงจังทำเอาสาวเจ้าอ่อนระทวย ความรู้สึกของเขาที่กล้าพูดออกมาตรงๆ ทำให้หล่อนประทับใจ

เกริกโมโหจนตัดสินใจเข้าไปต่อย แต่มีหรือที่หนุ่มซึ่งเก่งกาจด้านการต่อสู้จะไม่รู้ทัน เขารับหมัดนั้นไว้ด้วยมือข้างเดียวไม่หันไปมองด้วยซ้ำ ก่อนจับแขนอีกข้างแล้วบิดข้อมืออีกฝ่ายไปข้างหลัง ส่งผลให้เจ้านายหนุ่มเจ็บจนต้องร้องโวยวาย

“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” ร้องลั่นเป็นภาษาอังกฤษ พนักงานหลายคนมองดูด้วยความตกใจไม่เว้นอลิสา

“แล้วผมจะรอ” ปิดการสนทนาด้วยประโยคเดียว ก่อนที่จะปล่อยเกริกให้เป็นอิสระแล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว

อภิชญาและฝนแก้ววิ่งเข้ามาหาคนทั้งสอง มองตามหนุ่มฝรั่งด้วยแววตาทึ่ง ในใจต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหล่อมาก ขณะที่เกริกจ้องอย่างอาฆาตไม่เคยอับอายต่อหน้าลูกน้องสักครั้ง เขาโกรธจนอยากตะบันหน้าหล่อนั่นสักครั้ง

อลิสาตกอยู่ในอาการคิดหนัก เธอลองห่างเขาตามคำบอกของ ธยาน์แล้ว แต่มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย กลับยิ่งคิดถึงมากกว่าเดิมซะอีก

หรือควรยอมรับความจริงที่ตอนนี้หลงรักซีน่อนจนถอนตัวไม่ขึ้น

“มองโทรศัพท์อยู่นั่นแหละ จะโทรก็โทรเลยสิ” ละอองเข้ามาเห็น จึงบอกน้องสาว รู้ดีว่าอีกฝ่ายคิดถึงใครอยู่ เพราะหลายวันที่ผ่านมาอลิสาไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่

ทั้งที่พยายามหลบหน้าซีน่อนแต่กลับเป็นตัวเองที่กระวนกระวายเพราะไม่เห็นชายหนุ่ม คนในบ้านไม่อยากเข้าไปยุ่งปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของหล่อน ไม่รู้ว่าสาวธนาคารกลัวอะไรจึงปฏิเสธการสานสัมพันธ์กับหนุ่มอิตาลี

“ไม่ได้จะโทรสักหน่อยพี่ละออง” ปฏิเสธแล้วมองทางอื่นแทนการจ้องโทรศัพท์ ที่ไม่มีท่าทีว่าคนตัวสูงจะติดต่อมา ทั้งที่ปกติเขาจะโทรหาเธอตลอด ทว่าพอมีเรื่องกับเกริกก็หายไปอย่างไร้วี่แวว

หรือเขาจะเลิกติดต่อเธอแล้ว

“คิดถึงเขาก็โทรไปเลย จะมาหลบหน้าทำไม” น้องสาวหันไปมองพี่ แล้วนิ่งคิดสักพัก

“คิดถึงอะไรกัน” ยังปฏิเสธปากแข็ง จนละอองต้องถอนหายใจเสียงดัง อาการแบบนี้ทำไมจะดูไม่ออก อยู่ในช่วงตกหลุมรักแต่ท่าทีคิดไม่ตก

หล่อนเดาว่าน้องคงกลัวรักระยะไกล เพราะแฟนคนแรกที่เลิกกันสาเหตุก็เนื่องมากจากไปเรียนต่อต่างประเทศจึงห่างหาย และเลิกกันในที่สุด

อาจเป็นไปได้ว่าน้องสาวกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

“ตาฟ้องซะขนาดนี้ ถึงพี่จะชอบคุณซีน่อนแต่เห็นว่าเขาชอบ อลิสหรอกนะเลยจะหลีกทางให้ เพราะฉะนั้นจับเขาให้อยู่หมัดล่ะ ดูท่าทางจะรวยไม่เบา” ประโยคท้ายหยอกล้อน้องจนหล่อนต้องค้อนวงใหญ่

เท่าที่ดูจากเพื่อนของชายหนุ่มคิดว่าคงมีฐานะ และซีน่อนอาจไม่ต่างกัน งานที่เขาทำก็อยู่บริษัทใหญ่ผลตอบแทนไม่ใช่น้อย แต่มันไม่สำคัญหรอก เรื่องที่หล่อนวิตกกังวลมันไม่ใช่เงินทองสักหน่อย

ถอนหายใจเสียงดังแล้วตัดสินใจโทรหาคนที่ตนกำลังคิดถึงสร้างความพึงพอใจแก่ละอองจนต้องยิ้มออกมา รอไปสักพักไม่มีใครรับสายจนมันตัดไปเอง หล่อนเริ่มใจไม่ดีเสียแล้ว

“ไม่รับเหรอ” ถามด้วยความสงสัย

“อือ” รีบกดโทรออกอีกครั้ง เริ่มกลัวว่าเขาจะจากไปเพราะรำคาญการเล่นตัวของหล่อน แต่ไม่นานปลายสายก็รับ

‘ฮัลโหล’ เสียงแหบทำให้คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน

“คุณไม่สบายเหรอ” ก่อนจะได้ยินเสียงเขาไอ จึงกระจ่างแล้วว่าทำไมชายหนุ่มไม่รับสาย คงกำลังพักผ่อนจนไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์

‘อือ เมื่อวานผมท้องเสียเพื่อนเลยซื้อยามาให้กิน ตอนนี้นอนอยู่ห้องคนเดียว’ สาวธนาคารคิดหนัก แล้วรีบเดินไปหาน้าเขียวอย่างรวดเร็ว

“ส่งที่อยู่คุณมาได้ไหม เดี๋ยวฉันไปหา” พูดจบก็ตัดสาย ก่อนเขาจะส่งที่อยู่มาให้ทางไลน์ หล่อนรบกวนน้าชายทำอาหารสำหรับคนป่วยแล้วเตรียมผลไม้เพื่อนำไปให้หนุ่มต่างชาติที่อยู่ลำพัง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel