บท
ตั้งค่า

บทที่14. เหตุใดเป็นข้า

“กว่าข้าจะหลบผู้คนออกมาตามหาท่านก็มิใช่เรื่องง่าย คนที่ลอบสังหารท่านก็ยังจับตัวไม่ได้ ที่ข้ามาที่นี่ก็มาเพียงลำพัง ร่างของท่านนั้นข้าให้เยี่ยนฉือองครักษ์ของท่านค่อยดูแลมิให้ใครเข้าใกล้” เสียเอี๋ยนชี้หน้าตัวเองแล้วฉีกยิ้ม “ข้าคิดว่าคนที่ลอบสังหารท่านยังติดตามข้าอยู่ หากข้าพาร่างนี้กลับเมืองหลวงต้องถูกตามราวีจนอาจกลับเข้าเมืองหลวงไม่ทัน ข้าคิดว่าให้แม่นางน้อยพาท่านไป ส่วนข้าจะล่อหลอกพวกมันไปอีกทาง”

‘เจ้าหาผู้ที่ไว้ใจอื่นมิได้แล้วหรือ’ เขาไม่ต้องการให้นางต้องมาลำบากเพราะเขาอีก ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาอยู่ในชายที่มีร่างเป็นผักนี้ เขารู้สึกเวทนาตัวเองยิ่ง ร่างกายที่ขยับได้เพียงแค่กลอกตาไปมา และปลายนิ้วเพียงเล็กน้อย ที่นี่มีเด็กเล็กและติงเชาที่เจ็บป่วยไม่แพ้กัน จึงมีแต่เหมยซิงที่คอยดูแลเขาทุกอย่าง เรียกว่าพื้นที่ในร่างกายนี้ ผ่านสายตาของนางมาแล้วทั้งนั้น แม้เขาไม่ใช่เจ้าของร่างนี้ แต่ไม่รู้สึกยินดีที่ต้องให้ผู้อื่นมาคอยดูแลเช่นนี้

“ในเวลาเร่งด่วน และสถานการณ์เช่นนี้ เห็นทีว่ายากยิ่ง” เสียเอี๋ยน กลับยิ้มอย่างไม่ทุกข์ร้อน “อย่าได้กังวล ข้ามั่นใจว่านางยินดีพาร่างและดวงจิตของท่านไปเมืองหลวงเป็นแน่”

‘เพราะเหตุใด?’

บุรุษในชุดดำเหลือบตามองไปด้านหลัง รู้ว่าเด็กสาวหลบซ่อนไม่ไกลนัก เขาคลี่ยิ้มไม่คิดว่าที่นางทำเป็นการเสียมารยาท เพราะนางเป็นห่วงชายที่ขยับตัวไม่ได้คนนี้

“แม่นางน้อย ข้าขอเชิญทางนี้สักครู่เถิด”

“เอ่อ...”

เหมยซิงยิ้มแหย คิดว่าตัวเองซ่อนตัวแนบเนียนแล้วยังถูกจับได้อีก นางเดินออกมาแล้วยกมือเสยผมตัวเองแก้เขิน นิสัยเดิมตั้งแต่โลกโน้นยังนำมาใช้ในโลกนี้แม้จะอยู่คนละร่างแล้วก็ตาม

“แม่นาง” เสียเอี๋ยนเรียกขึ้นน้ำเสียงกึ่งขบขัน แต่ที่อยากหัวเราะเพราะสายตาไม่พอใจของชายผู้ขยับตัวไม่ได้ต่างหาก

“เรียกข้าเหมยซิงก็ได้” นางแนะนำตัว แต่เสียเอี๋ยนกลับเลิกคิ้วสูง

“นั้นใช่ชื่อของแม่นางน้อยแน่รึ”

“เอ๊ะ!” หญิงสาวเผลอทำตาโตแล้วแสร้งทำเป็นไม่ตกใจกับคำพูดของเขา “ชื่อของข้า ข้าต้องจำได้ซิ”

เสียเอี๋ยนโน้มตัวลงยื่นหน้าไปใกล้ใบหน้าของเด็กสาว จ้องมองในดวงตาสีนิลที่จ้องตอบอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว และหลบสายตาของเขา ซุนเว่ยหมินฮึกฮักอย่างไม่พอใจที่เห็นเสียเอี๋ยนเข้าใกล้เช่นนั้นแต่เขาขยับตัวไม่ได้ นอกจากเสียงครางอืออาในลำคอที่ทำให้เหมยซิงรีบย้ายสายตากลับมามองทางเขา

“อาหมานเป็นอะไรไปรึ” เห็นเขาพยายามขยับตัวแล้ว นางอด เป็น ห่วงไม่ได้

“เขาไม่ได้เป็นอะไรแค่เป็นห่วงเจ้า”

“เป็นห่วงข้า?” นางชี้ปลายนิ้วที่หน้าตัวเอง

เสียเอี๋ยนยิ้มให้ แต่เหมยซิงกลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนี้ประหลาดชอบกล “ข้ามีเรื่องต้องขอความช่วยเหลือจากแม่นางน้อย”

“เรื่องใดกัน”

“พาคุณชายของข้ากลับเมืองหลวง”

เหยมซิงอ้าปากค้างแต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงฉีกยิ้มอยู่เช่นเดิมคล้ายยืนยันคำพูดตัวเอง นางจึงได้สติและเอ่ยปากถามต่อ

“เหตุใดเป็นข้า”

“ก่อนอื่นข้าต้องขอเล่าก่อนว่าคุณชายของข้าก็เป็นเช่นเจ้า” เขายิ้มแบบคนที่เหนือกว่า และไม่รอให้อีกฝ่ายถามอะไรรีบชิงลงมือพูดก่อน “ดวงจิตของคุณชายข้ามาอาศัยอยู่ในร่างของชายผู้นี้...เหมือนเจ้า”

“ท่าน...ท่านรู้” เหมยซิงทำหน้าตื่นตกใจแล้วมองหน้าอาหมานสลับกับชายที่ชื่อเสียเอี๋ยนไปมาอย่างงุนงง “ถ้าเช่นนั้น...”

“เรื่องที่เจ้าสงสัยข้าตอบให้ตอนนี้มิได้” เสียเอี๋ยนรู้ว่านางจะถามอะไร “ดวงจิตของเจ้ามาจากอีกโลก แต่ร่างของคุณชายข้า และดวงจิตเพียงแค่อยู่กันคนละที่ ตอนนี้ร่างที่แท้จริงอยู่ที่เมืองหลวง ร่างนั้นหลับใหลไม่ตื่นฟื้นมาสามสิบราตรีแล้ว ดวงจิตจะอยู่นอกร่างเกินสี่สิบเก้าวันมิได้ ต้องรีบพาดวงจิตของคุณชายกลับคืนร่างให้เร็วที่สุด แต่ยามนี้ดวงจิตของคุณชายข้าอยู่ในร่างของคุณชายหานหงปิง จึงต้องพาร่างนี้ และดวงจิตกลับเมืองหลวงโดยเร็ว”

เหมยซิงไม่ได้คิดตามที่เสียเอี๋ยนพูด สมองนางหยุดคิดตั้งแต่ได้ยินสี่สิบเก้าวันแล้ว นางมาอยู่ที่นี่เกือบสองเดือน... มิเท่ากับว่า นางในโลกโน้นได้ตายไปแล้วหรือ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel