ตอนที่ 1
"ลาออก"
เสียงอุทานดังลั่นห้องครัว แต่สีหน้าคนที่พูดคำว่าลาออกกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านใดๆ แม้แต่น้อย
"แกจะบ้าหรือไง รสา งานสมัยนี้ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ นี่แค่คิดหรือว่าทำแล้ว" ชิดชนกถามซ้ำอีกที เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เพื่อนรักพูดนั้นเป็นแค่ความคิดที่อยู่ในใจ
"ฉันยื่นใบลาออกไปแล้วเมื่อเช้า" รสาเอ่ยเสียงดังฟังชัด ยืนยันว่าสิ่งที่พูดเป็นเรื่องจริงและตัดสินใจดีแล้ว
"ปราบรู้หรือยังว่าแกลาออกจากงาน หรือว่าเห็นด้วย"
ชิดชนกวางงานในมือลงแล้วหันมารอฟังอย่างใจจดใจจ่อ หรือว่าเพื่อนรักวางแผนชีวิตอื่นที่ตนไม่รู้ และปรึกษาหารือกับคนรักที่คบกันมานานอย่างปราบเรียบร้อยแล้ว
"หรือว่าแกวางแผนจะแต่งงานไปเป็นแม่บ้านให้ไอ้ปราบ"
"ฉันยังไม่ได้บอกปราบ" รสาเอ่ยโดยไม่สบตาเพื่อนสาว
"ทำไมไม่บอก หรือแกมีปัญหาอะไรที่ทำงาน"
ชิดชนกและรสาเป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ทั้งคู่เรียนจบคณะบริหารมาจากมหาวิทยาลัยมีชื่อของประเทศไทย
รสาโดดเด่นเรื่องความสวย เรียนเก่ง และเป็นนักกิจกรรมตัวยง จึงเป็นที่สนใจของหนุ่มๆ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องหรือแม้แต่หนุ่มๆ ต่างสถาบัน
แต่หนึ่งเดียวที่สามารถคว้าหัวใจรสาคนสวยมาครองก็คือผู้ชายที่ชื่อ ปราบ ยุทธิชัย วิศวกรหนุ่มอนาคตไกล
หลังจากที่เรียนจบทุกคนต่างก็แยกย้ายไปทำงานที่ตนเองถนัด ชิดชนกมารับช่วงสืบทอดกิจการร้านขนมไทยของครอบครัว
ซึ่งปัจจุบันเธอใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยโฆษณาให้ร้านเป็นที่รู้จัก จึงมีลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรที่เริ่มรู้จักมากขึ้น อีกทั้งได้ครูดีอย่างมารดาของเพื่อนรัก ให้สูตรขนมไทยโบราณมาทำขายในร้าน ร้านขนมของชิดชนกจึงติดอันดับเป็นร้านที่มีชื่อเสียงได้อย่างไม่ยาก
ส่วนรสา ทันทีที่เรียนจบบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสิ่งพิมพ์ที่หญิงสาวไปฝึกงานด้วยในเทอมสุดท้าย ก็ตอบรับเข้าทำงานทันทีซึ่งความสามารถที่โดดเด่น และความขยันขันแข็งในหน้าที่การงาน ทำให้ก้าวหน้าในอาชีพนี้ในเวลาอันรวดเร็ว
ปราบก็เช่นกัน มีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งรับเข้าทำงานด้วยเงินเดือนสูงลิบลิ่ว แต่มีข้อเสียคือต้องออกต่างจังหวัดบ่อยครั้ง จึงทำให้เวลาในการพบหากับรสาน้อยลงไปกว่าเดิม
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา ปราบทำให้เพื่อนร่วมรุ่นทุกคนเห็นว่า ความรักที่มีต่อรสามั่นคงแค่ไหน และที่สำคัญทุกคนต่างเฝ้ารองานวิวาห์ของทั้งคู่ อย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว
"ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่เบื่ออยากหาอะไรใหม่ๆ ทำ" รสาฝืนยิ้มพยายามทำตัวให้เหมือนว่าไม่มีอะไรผิดปกติ
"ปราบรู้เรื่องนี้หรือเปล่า” ชิดชนกถามคำเดิม
"ฉันไม่จำเป็นต้องบอกปราบทุกเรื่องก็ได้นี่ เอาเป็นว่าบอกนกคนแรกแล้วกัน” รสาหยิบใบตองมาเจียนเป็นทรงกลมและเริ่มเย็บจับจีบเพื่อใช้กับขนมในร้าน
ผิดปกติแน่แล้ว …
ปกติแล้วรสากับปราบคุยกันทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องสำคัญเช่นนี้ยิ่งต้องควรคุยกัน ทั้งคู่วางแผนว่าจะแต่งงานในปีหน้า และเริ่มสร้างอนาคตด้วยการเก็บเงินก้อนร่วมกันบ้างแล้ว ดังนั้นถ้ารสาลาออกจากงานเรื่องนี้ปราบควรเป็นคนแรกที่รู้
"แกมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า หรือว่ายังไม่หายงอนเรื่องวันนั้นอีก"
"วันไหน" รสาเงยหน้าถาม
"ก็วันนั้นไง ที่แกกับปราบไปงานวันเกิดชุติมาสาย พอฉันถามแกก็บอกว่าปราบมารับช้า หรือว่าวันนั้นไอ้ปราบมันยังไม่ขอโทษแก"
"เปล่า ไม่ใช่เรื่องนั้น" รสาปฏิเสธเสียงดังอย่างลืมตัว
“ถ้าไม่ใช่แล้วทำไมไม่บอก หรือว่าแกงอนตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้” ชิดชนกรุกต่อทันที
"มันนานไปหรือเปล่า สองอาทิตย์แล้วนะจะงอนกันไปถึงไหน วันนั้นแกก็หนีกลับก่อนนั่งอยู่ไม่ถึงชั่งโมงก็หายตัวไปเสียแล้ว ฉันถามปราบก็บอกว่าไม่เห็น นึกว่าแกไปห้องน้ำไปยืนรออยู่เป็นชั่วโมงก็ไม่เจอ"
ชิดชนกเท้าความถึงเหตุการณ์สุดท้ายที่ทั้งสามเจอกันในงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนร่วมรุ่น ซึ่งจัดที่ร้านอาหารชื่อดังในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านใจกลางกรุง
ซึ่งในวันนั้นปราบและรสาดูจะมีปัญหากันนิดหน่อย แต่เมื่อชิดชนกถามก็ไม่มีใครบอกว่าเรื่องอะไร และต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปทักทายคนอื่น
ชิดชนกไม่เห็นรสาตอนงานใกล้เลิก เพราะนัดกันไว้ว่าจะกลับพร้อมกัน ปราบบอกเพียงแค่ว่าไม่เห็นและคิดว่ารสาไปเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อชิดชนกไปยืนรอกลับไม่พบเพื่อนสาวและมีคนบอกว่ารสาออกไปจากงานนานแล้ว
"ฉันเหนื่อยก็เลยกลับก่อน" รสาไม่สบสายตาคนถาม จะว่าไปไม่อยากพูดถึงคืนนั้นด้วยซ้ำ
"มีอะไรกันแน่ ทำไมต้องกลับก่อน แล้วทำไมไอ้ปราบไม่รู้ว่าแกไปไหน”
“วันนั้นฉันเหนื่อย ความจริงไม่อยากไปด้วยซ้ำ แต่ปราบมารับก็เลยต้องไป ตอนอยู่ในงานฉันเหนื่อยง่วงด้วยหิวอีกต่างหากก็เลยกลับก่อน อีกอย่างเห็นปราบกำลังสนุก แกก็กำลังเมาท์เพลินก็เลยไม่อยากขัดจังหวะ”
"แล้วถึงบ้านกี่โมง" ชิดชนกถามต่อ
"ฉันไม่ได้ดูเวลา ไม่รู้ว่ากี่โมงตอนถึงบ้าน แกจะถามอะไรหนักหนาเนี่ย" รสาแสร้งทำเป็นว่าหงุดหงิดลุกขึ้นเดินหนี
"เออๆ ไม่ถามก็ได้ แล้วจะเอาไงต่อกับชีวิต" ชิดชนกหยุดถามในสิ่งที่ค้างคาใจเวลานี้ หันมาสนใจสิ่งที่เพื่อนเลือกแทน
"ไม่เอาไง ระหว่างที่รอสัมภาษณ์ฉันจะมาเป็นพนักงานในครัวร้านขนม แกจะรับฉันไหม" รสาส่งยิ้มหวานให้เจ้าของร้านที่ยืนงงกับสิ่งที่ได้ยิน
"แกบอกเองไม่ใช่เหรอว่าออร์เดอร์ช่วงนี้เยอะ เด็กก็ลาออกไม่มีคนช่วยเย็บใบตองรองขนม ฉันมาช่วยในระหว่างที่รอสัมภาษณ์งานก็แล้วกัน นี่ไง ฝีมือรสา เร็ว สวย รับรองว่าคิดค่าแรงไม่แพงแค่ขนมกลับบ้านวันละกล่อง แล้วก็ข้าวน้ำอีกสามมื้อ ตกลงตามนี้นะ"
"เข้าท่า" คราวนี้ชิดชนกยิ้มออก
"งั้นช่วยจ่ายค่าแรงเป็นอาลัวสักจานสิ ไม่ได้กินมานานแล้ว”
ชิดชนกเดินไปจัดขนมของโปรดให้ตามคำขอ รสาถอนหายใจเบาๆ ด้วยความโล่งอกที่เรื่องทุกอย่างเป็นไปตามที่ต้องการ
ขอให้เรื่องเก่าหยุดไว้แค่นี้ และสิ่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นเป็นเรื่องดีของเธอบ้างเถอะ
