บทที่ 4 วัวนม
สามสาวหันมองเจ้าของเสียง สะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ เพราะรู้กิตติศัพท์ของผู้หญิงอย่างมธุรดาดี เมธาสิทธิ์มองศัตรูไร่ใกล้เคียง แล้วกระตุกยิ้มมุมปาก
รุ่งนภาเบี่ยงกายหนีออกมายืนหลังเพื่อน ส่วนอีกคนเท้าเอวจ้องมองสีหน้าไม่พอใจ ก่อนตวัดสายตาไปหาคนต้นเรื่อง ที่ทำให้สาวๆ ต้องมาตบตีกันกลางงานวัดเช่นนี้
“ก็เพื่อนเธอมาแย่งผู้ชายของฉัน!” มะปรางค์แย้งเสียงสั่น
“ฉันไม่สนหรอก ว่าใครจะแย่งใคร ฉันสนแค่ว่าทำไมต้องหน้ามืดมาตบตีกันเพื่อแย่งผู้ชาย...” เธอหยุดคำพูดแล้วเหลือบมอง ก่อนหันกลับมาเผชิญหน้าต่อ “อย่างนายเนี่ยด้วย ไร้สาระ!”
เมธาสิทธิ์ชะงัก รู้สึกฉุนขึ้นมา แต่ไหนแต่ไร ยัยแสบนี้ก็ตั้งท่ารังเกียจเขามาตลอด ไม่รู้เพราะอะไร ทั้ง ๆ ที่ตนก็ไม่เคยไปทำอะไรให้สักหน่อย หรือเขาเรียกความสนใจจากพ่อของเธอได้มากกว่ากันแน่
รุ่งนภาเหลือบมองเพื่อนแล้วเม้มริมฝีปาก รู้สึกเหมือนถูกเข็มจิ้มตรงกลางใจอย่างไรไม่รู้ แต่ตอนนี้เธอก็ไม่กล้ามากพอที่จะเผชิญหน้ากับสามสาว
“ถ้าอย่างนั้นก็บอกให้เพื่อนเธอเลิกยุ่งกับพี่สิทธิ์ซะ!” มะปรางค์ยื่นคำขาด
“ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย ในเมื่อคุณสิทธิ์บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกับเธอสักหน่อย” รุ่งนภาแย้ง
“หรือเธออยากโดนตบ!”
มธุรดาเชิดหน้าจ้องมองแววตาแข็งกร้าว
“เธอก็อยากโดนเหมือนกันใช่ไหมมะปรางค์ คราวที่แล้วดั้งหักไม่พอมั้ง”
คำพูดนี้ทำเอาคนเคยโดนชะงัก สีหน้าเผือดลง รู้ฤทธิ์ของหมัดฝ่ายตรงข้ามดี
เมธาสิทธิ์ก้าวเข้ามาแล้วยกมือห้ามปราม
“พอเถอะครับ อย่าทะเลาะกันเพราะผมเลย” เขาบอกแล้วหันไปทางมะปรางค์ “พี่ไม่ได้คิดอะไรกับปรางค์ ที่เราจูบกันปรางค์ก็รู้ว่ามันเป็นเพราะปรางค์รถล้มมาทับพี่”
“แต่มันก็คือจูบนี่คะพี่สิทธิ์”
“แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าจูบหรอกครับ จูบมันอีกแบบ”
“แบบไหนล่ะคะ” มะปรางค์ส่งสายตา
ชายหนุ่มระบายลมหายใจ “ปรางค์จะรู้ ถ้าปรางค์มีแฟนเองครับ”
มะปรางค์เม้มริมฝีปากหน้างอลง เมื่อคำยั่วยุไม่ได้ผล รุ่งนภาลอบยิ้ม ทำให้เพื่อนรีบไปสะกิดส่งสายตาดุ ทำไมผู้หญิงพวกนี้ถึงได้ต้องมาตบตีแย่งไอ้หมอนี่กันนะ
“เรากลับกันเถอะรุ่ง” มือเพื่อนถูกรั้งให้ก้าวตาม
รุ่งนภาส่งสายตา ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาขวาง แล้วยิ้มยียวน
“ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณรุ่งครับ”
“แต่ฉันไม่ให้คุย!”
“ทำไมล่ะครับคุณมธุรดา” เขาเอียงคอมอง “หรือคุณหึง”
คนฟังควันออกหูหน้าแดงก่ำ กำหมัดพุ่งไปหาคนปากเสียในทันที ทว่าข้อมือบางกลับถูกคว้าเอาไว้อย่างรวดเร็ว มธุรดาพยายามบิดข้อมือให้พ้นการเกาะกุมแต่สู้แรงไม่ไหว เท้ายกขึ้นเพื่อยันอีกฝ่าย แต่กลับถูกกระชากร่างเข้าหากอดรัดจากด้านหลังแทน
“ปล่อยฉันไอ้วัวนม!” หญิงสาวร้องลั่น ใบหน้าแดงก่ำเพราะความไม่พอใจ
รุ่งนภามองภาพนั้นสีหน้าตื่นตระหนก เพราะไม่อยากให้ว่าที่แฟน และเพื่อนรักต้องบาดหมางกันไปมากกว่านี้
“ไม่ปล่อย ขอโทษกันก่อนถึงจะปล่อย!”
“ใครจะไปขอโทษคนอย่างนาย!”
“ถ้าไม่ขอโทษ ฉันจะแบกเธอกลับไปบ้านเอง ดีไหม...” เขาข่มขู่ ทำเอาคนดิ้นชะงักไป
“ไม่ขอโทษโว้ย! ไอ้วัวนม!”
“ดี! ถ้าขอร้องให้ปล่อย คราวนี้ฉันจะไม่ปล่อยเธอแล้วนะ!”
ปฐมมองดูสถานการณ์ ไม่กล้าเข้าไปสอด เพราะเกรงตนเองจะมีปัญหา ทางด้านคุณเมธาสิทธิ์เอง ก็สนิทกับนายใหญ่ไม่น้อย ดูท่าเหตุการณ์คราวนี้ นายใหญ่อาจชอบใจเสียด้วยซ้ำไป ที่ปราบพยศลูกสาวคนเดียวลงได้
ร่างบางถูกอุ้มพาดบ่า ทามกลางสายตาสาวๆ มะปรางค์ยืนนิ่งไม่กล้าเข้าไปยุ่ง ถึงอย่างไรก็เชื่อว่ายัยผู้หญิงอย่างมธุรดาคงไม่มีทางตรงสเป็กที่สิทธิ์แน่นอน
“ไอ้ถมช่วยฉันสิ เร็วเข้า!”
ปฐมหันรี่หันขวางสับสนไม่รู้ควรทำอย่างไร ก่อนหันไปทางเพื่อนเจ้านาย
“คุณรุ่งกลับกับผมก็ได้ครับ เพราะคุณสิทธิ์คงพาคุณดากลับบ้านนั่นแหละครับ”
รุ่งนภายิ้มเจือนๆ
“ได้ค่ะ”
ปฐมสตาร์ทรถทิ้งเจ้านายในทันที มธุรดาหน้าหวอ พยายามดิ้นรนสุดกำลัง
“ปล่อยฉัน ไอ้ทุเรศเอ้ย!” หญิงสาวยังคงโวยวายไม่หยุด
ร่างบางถูกวางไว้เบาะหน้ารัดเข็มขัด แต่เจ้าตัวกลับจะปลดหนี เขาจ้องมองแววตาดุ
“ถ้าปลดเข็มขัด รับรองเลยว่าเธอจะได้รู้จักรสจูบอันเร่าร้อน ทำเอาหัวใจแทบทะลักออกจากอก อาจทำให้หยุดหายใจไปเลยก็ได้นะ คุณมธุรดา..”
“ไอ้วัวนม!”
“ทำไมหรือครับ แม่..” เขาจ้องมองไปตรงหน้าอก “วัวนม”
“นี่นาย!” เธอรีบยกมือปิดหน้าอกตนเอง
“อ้าว! รู้ตัวเหรอเนี่ย นึกว่าไม่รู้”
“ไม่รู้อะไร!”
“ไม่รู้ตัวว่าเป็นผู้หญิงไง วันๆ เห็นทำตัวอย่างกับผู้ชาย แบบนี้ไงถึงไม่มีผัว!”
“คนอย่างฉันไม่มีผัวก็ไม่ตายหรอก ยิ่งได้ผัวแบบนาย พยอมขึ้นคานจนตายดีกว่า!”
“ระวังนะ...” เมธาสิทธิ์สบตาแล้วยิ้มเยาะ “เกลียดอะไร ได้อย่างนั้น”
ตั้งใจอ้าปากเถียง แต่จำต้องเก็บงำเอาไว้ ทั้งเพื่อน ลูกน้อง ทอดทิ้งกันไปหมด ทะเลาะกันทีไรไม่เคยเอาชนะไอ้หมอนี่ได้เลย แต่ไม่เชื่อหรอก ว่าวันของเธอจะไม่มาถึง ไอ้วัวนมมันต้องโดนดีเข้าสักวัน คอยดู
เขาผละออกห่าง แล้วเปิดประตูนั่งประจำที่คนขับ เคลื่อนรถออกจากบริเวณงาน ราวสิบหน้านาทีรถจอดบริเวณลานหน้าบ้าน เมธาสิทธิ์ตรงมาเปิดประตู ทว่าคนนั่งกลับกอดอกไม่ยอมลง
“ลงมาสิ” เขาบอก
“อยากพาฉันไปนักไม่ใช่หรือไง ฉันไม่ลง!” หญิงสาวประชด
ขายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก
“ก็เอาสิ อยากไปบ้านฉันก็ไม่บอก เดี๋ยวพาขึ้นไปถึงห้องนอนเลย เธอจะได้รู้จักว่าสวรรค์เป็นยังไงสักที!”
“ไอ้บ้า!” มธุรดาแหวกลับ แล้วกระโดดลงจากรถทันที
