ตอนที่ 2 ทำประโยชน์ก่อนตาย
“ปัดโธ่เว้ย!” เขามองไปรอบ ๆ พื้นที่เดาว่าเธอจะไปทางไหนแล้วก็มีเสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้น เขาหันขวับไปมองเห็นปิ่นมุกสะบัดตัวดิ้นสุดแรงลูกน้องสองคนต้องจับล็อคแขนฉุดกระชากตัวกลับมา ธาดามุ่งตรงเข้าไปจิกผมหญิงสาวขึ้นจนหน้าหงาย
“อยู่ดีๆไม่ชอบ ๆ หาเรื่องนักนะมึง เอาอีนี่ไปที่ห้องกู กูจะเฝ้ามันเอง!!”สายตาคมแข็งกร้าวน่าเกรงขาม ปิ่นมุกแววตาวูบไหวหวาดกลัวจนตัวสั่น มือหนาเหวี่ยงหัวเธอออกแล้วเดินดุ่มนำไปที่ห้องพักปิ่นมุกโดนลูกน้องลากตัวตามไปส่งที่ห้องของธาดา
“ออกไป!”ธาดาตวาดไล่หญิงบริการออกจากห้อง ลูกน้องเหวี่ยงปิ่นมุกเข้าไปในห้องเธอเซถลาล้มกระแทกพื้น ธาดาปิดประตูห้องเสียงดังด้วยความโมโหในมือเขาถือเข็มขัดสีดำเส้นยาวหน้าตาขึงขังเดินย่างเข้ามาใกล้ ปิ่นมุกกระเถิบตัวถอยห่างหวาดกลัว กายหนาย่อตัวลงลงคว้าข้อเท้าเรียวจับหมับดึงกระชากตัวเธอเข้ามาใกล้แล้วนั่งทับขาเรียว เขาจับสองมือบางมารวบแล้วมัดด้วยเข็มขัดหนังเส้นยาว
“ปล่อยฉันไปเถอะ อย่างน้อยนายกับพี่ภูก็เคยเป็นเพื่อนรักกัน”ปิ่นมุกเสียงสั่นมองหวั่น ๆ
“เพื่อนทรยศอย่างมัน กูไม่นับเป็นเพื่อน!”ธาดาเสียงแข็งมัดข้อมือเธอเสร็จ ก็หยิบผ้าขนหนูมามัดข้อเท้าเธอต่อ ปิ่นมุกดีดขาออกไม่ยอมเขาต้องออกแรงจับกดผูกมัดไว้แน่น ก่อนจะลุกขึ้นมองเหยียดยิ้มร้ายแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์มานั่งดื่มบนโซฟา ปิ่นมุกนั่งบนพื้นถูกพันธนาการไว้จนกระดิกไม่ได้
“พี่ภูทำเพราะมีเหตุผล นายน่าจะฟังบ้าง”
“หุบปาก ถ้าไม่อยากถูกมัดปากด้วย!”เขาหันขวับเสียงเหวี่ยงพร้อมกับชี้หน้าเธอ ปิ่นมุกสะดุ้งหวาดกลัวไม่กล้าสบตาค่อย ๆ ถดตัวเขยิบเข้าไปพิงผนังห้องน้ำหดขางอนั่งหน้าเศร้าน้ำตาหยด
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง
ธาดาดื่มเบียร์หมดไปสามขวดคลานขึ้นบนเตียงเอนตัวนอนหงายสบายใจ ปิ่นมุกชะเง้อมองเขาแล้วทำท่าทางอึกอัก ธาดาเห็นว่าเธอทำท่าแปลกจึงพูดมาลอย ๆ
“ไม่ต้องหาทางหนี ยังไงก็หนีไม่พ้นหรอก”
“ฉันปวดฉี่”ปิ่นมุกเสียงอ่อนอายที่ต้องพูด
“อะไรนะ?”
“บอกว่าปวดฉี่ไง!”
“ก็ไปฉี่สิ”เขาเหล่มองหางตายกสองมือประสานใต้หัวหลับตาจะนอน
“จะไปยังไง มัดทั้งมือทั้งขาขนาดเนี้ย”ปิ่นมุกมองเคืองที่เขาจะชิ่งหลับทั้งที่ปวดปัสสาวะแทบอั้นไม่ไหว
“หาทางเอาแล้วกัน ถ้าเข้าห้องน้ำไม่ได้ก็ฉี่ราดตรงนี้”เขาหรี่ตามองทำไม่สนใจ ปิ่นมุกหายใจแรงขุ่นเคืองค่อย ๆ เอาหลังดันผนังยันตัวลุกขึ้นมองเขาอย่างเกรี้ยวกราด
“โรคจิตเปล่าว่ะ ถ้าอยากให้ฉี่จะฉี่บนเตียงนี่แหละ”ปิ่นมุกโมโหกระโดดเหยง ๆ ไปที่เตียงนอน ร่างหนาสะดุ้งลุกพรวดมองเคือง
“เฮ้ย! เป็นเหยื่อหรือเป็นเจ้านายกันแน่ว่ะ วุ่นวายฉิบหาย”เขาโวยวายอย่างหงุดหงิด เดินอ้อมเตียงมากระชากตัวเธอขึ้นพาดบ่าแกร่ง ปิ่น
“ทำดี ๆ ไม่เป็นหรือไง!”ปิ่นมุกหน้าเหวอร้องโวยวายทุบมือลงหลังเขาด้วยความโมโห ร่างบางโดนอุ้มเข้าไปในห้องน้ำแล้วปล่อยมือให้เธอร่วงลงพื้น ปิ่นมุกไหลลงด้านล่างเท้าที่ถูกมัดไว้ทำให้หาหลักยืนไม่ได้จะหงายหลัง หญิงสาวหลับตาปี๋คิดว่าต้องร่วงกระแทกพื้นแต่ธาดาเข้ามาโอบตัวเธอดึงขึ้นมากอดไว้ได้ทัน
“ไอ้บ้า! ฉันเกือบหัวฟาดพื้นตาย”ปิ่นมุกหน้าเหวอตกใจตาเบิกโพลง
“ตายก็ดี จะได้ไม่ต้องวุ่นวาย มึงหนีมากูกับลูกน้องต้องเหนื่อยตามล่าขนาดไหน กูจะฆ่ามึงแต่อากูห้ามไว้ไม่งั้นมึงได้ตายตั้งแต่ตอนที่กูเจอตัวไปแล้ว!”เขาตะคอกใส่หน้าตาขึงขังหงุดหงิดที่เธอสร้างปัญหาให้ต้องเหนื่อยไม่หยุดหย่อน
“ฆ่าเลยสิ ฆ่าให้ตายไปเลย ฉันก็เบื่อที่ต้องอยู่อย่างหวาดกลัวแบบนี้เหมือนกัน!”หน้าสวยโกรธจัดถลึงตาเชิดหน้าท้าทาย ธาดาบีบแก้มเนียนแน่นจนเธอปากเบี้ยว
“อย่าปากดี อย่าคิดว่ากูไม่ทำ จะฉี่ก็ฉี่ เร็วๆด้วย!”เสียงทุ้มตวาดใส่หน้าหญิงสาวแล้วกระชากแกะเข็มขัดออกจากข้อมือบาง ก่อนจะเดินออกไปนอกห้องน้ำโดนไม่ปิดประตู ร่างหนาเดินหัวเสียไปหยิบเบียร์ในตู้เย็นมาเปิดดื่มอีกขวดแก้เซ็ง
ปิ่นมุกรีบปลดลงกางเกงปัสสาวะแล้วก้มลงไปแกะผ้าขนหนูที่รัดข้อเท้า เอื้อมมือหยิบแก้วน้ำบ้วนปากรองน้ำจากก๊อกเทยาสระผมของรีสอร์ทบีบใส่เขย่าให้ละลายผสมกับน้ำ เมื่อปัสสาวะเสร็จก็รีบใส่กางเกงลุกขึ้นย่องไปชะเง้อมองธาดาที่ยืนดื่มเบียร์อยู่หน้าโทรทัศน์ เท้าเรียวก้าวออกมาข้างนอกเบา ๆ กำลังจะเปิดประตูห้องพัก
“เฮ้ย!” ธาดาหันมาเห็นพอดีจึงรีบวิ่งเข้าไปจะจับตัว แต่ปิ่นมุกสาดน้ำยาในแก้วราดลงพื้นแล้วหันไปปลดล็อคประตูห้อง ธาดาลื่นน้ำยาจนล้มหัวขมำเข่ากระแทกพื้นดัง “บลัก”
ปิ่นมุกเปิดประตูได้ก็วิ่งไม่คิดชีวิต ธาดาตั้งหลักได้ก็วิ่งพุ่งออกไปตามอย่างรวดเร็ว ลูกน้องเห็นปิ่นมุกวิ่งหนีออกมาจากห้องก็ตกใจรีบวิ่งจากวงเหล้าตามตัวหญิงสาว ธาดาวิ่งเร็วตัดหน้าลูกน้องแล้วพุ่งตัวกระโจนคว้าปิ่นมุกจนทั้งคู่เสียหลักล้มกลิ้งฝุ่นตลบบนพื้น เนื้อตัวถลอกปอกเปิดเจ็บแสบแขนขา ธาดาลุกขึ้นกระชากแขนเรียวอย่างแรง
“มึงโดนดีแน่!”เขาจ้องตาเขม็งโกรธสุดขีด ปิ่นมุกหน้าเสียหายใจหอบเหนื่อยก้มหน้ามองพื้นดินยอมรับสภาพอย่างเลี่ยงไม่ได้
ปิ่นมุกโดนจับเหวี่ยงเข้าห้อง ธาดาปิดล็อคประตูแน่นหนาแล้วหยิบมีดพกในกระเป๋าขึ้นมาดีดใบมีดคมกริบเงาวับเล่นแสงไฟ ปิ่นมุกหน้าซีดหายใจไม่ทั่วท้อง ร่างหนาเดินย่างสามขุมมาอย่างใจเย็น ใบหน้าหล่อเหี้ยมของเขาราวเสือที่จ้องตะครุบเหยื่อ ปิ่นมุกกลืนน้ำลายฝืดขอบตาร้อนผ่าวถอยหลังไปเรื่อย ๆ จนแผ่นหลังชนกับผนังห้องสายตาหวานหลุบตาลงต่ำทำใจคราวนี้เขาคงฆ่าเธอจริง ๆ
“อยากตายนักใช่ไหม เชือดข้อมือให้ตายช้า ๆ หรือที่คอกระตุกไม่กี่ทีก็จบ”เขามองอย่างเลือดเย็น เอาสันมีดแตะข้อมือเรียวแล้วยกสันมีดรูดต้นคอระหง ปิ่นมุกกลัวจนตัวสั่นเหลือบมองปลายมีดที่แตะลงผิวแม้จะบางเบาแต่หากเชือดลงผิวหนังมันก็ทำให้เกิดแผลเหวอะหวะ
“...........”
“เชือดข้อมือดีกว่า พยศนักก็ตายแบบช้า ๆ”ธาดากระตุกยิ้มมุมปากหน้าคมดูดุโหดเหี้ยม ปิ่นมุกกำมือแน่นแล้วยกข้อมือยื่นให้เขา
“จะทำก็ทำเลย........”เสียงหวานสั่นเครือ ปิดเปลือกตาลงน้ำตาไหลลงแก้มเนียนริมฝีปากบางเม้มจนปากสั่นเนื้อตัวสั่นเทาเตรียมตัวตาย ธาดาจ้องมองหน้าสวยกวาดมองเรือนร่างบางก่อนจะเขยิบกายหนาเข้าแนบชิดปลายจมูกโด่งสันเขี่ยแก้มเนียนที่ชุ่มด้วยน้ำตา ปิ่นมุกลืมตามองใบหน้าหล่อที่อยู่ใกล้ชิดมองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย
“ก่อนตายต้องทำประโยชน์ก่อน”เสียงทุ้มแหบพร่า ลากจมูกโด่งคลอเคลียดวงหน้าสวย กายกำยำเบียดกระแซะแนบเนื้อบดเบียดเรือนร่างบาง
“ต้องการอะไร”
“คนสวยทำอะไรได้บ้าง”ธาดากดเสียงต่ำแกล้งหายใจรดต้นคอเรียวกายบางขนลุกชัน หากเป็นชายอื่นเธอคงขยะแขยง ทว่านี่คือธาดาชายที่เธอแอบมองมานานแต่ไม่อาจเปิดเผยใจเพราะธาดาเป็นเพื่อนรักของภูผาที่ทุกคนเข้าใจว่าภูผาเป็นผัวเธอ
