ล่ารักร้ายหัวใจวุ่นรัก

62.0K · จบแล้ว
พวงชมพู
40
บท
1.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“เด็กโง่! หลับตาซะ เธอควรจะพักได้แล้ว” ไนท์พูดพร้อมกับเอื้อมมือลูบหัวฉัน ก่อนเขาจะค่อยๆ โน้มหน้าลงมาฝังจมูกเอาไว้ที่แก้มซ้ายของฉันอย่างแผ่วเบา และทำทีท่าว่าจะกลับไปนอนที่โซฟา จนฉันต้องรีบคว้าชายเสื้อที่หลุดลุ่ยของเขาเอาไว้ก่อน “มีอะไร” “แล้ว...แก้มซ้ายล่ะ” ถามเองอายเองแบบนี้ สู้ไม่ถามออกไปเลยยังจะดีซะกว่านะเนี่ย “เอาไว้หายดีเมื่อไหร่จะหอมให้ทั่วหน้าเลยดีมั้ย นอนได้แล้วยัยโง่” ไนท์ทิ้งท้ายเอาไว้ ก่อนจะกดริมฝีปากลงมาที่ปากของฉันหนักๆ หนึ่งทีแล้วรีบผละออกไปอย่างรวดเร็ว เหมือนกลัวว่าตัวเองจะอดใจไม่ไหวยังไงยังงั้น นิสัยแย่มากเลย มาทำให้ฉันอยากแล้วจากไปแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกันเล่า ว่าแต่เมื่อไหร่แผลจะหายสักทีน้า! อ๊ายย นี่ฉันคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย

นิยายรักนิยายรักโรแมนติก

บทนำ

[ณ หลุมฝังศพแห่งหนึ่ง]

ผู้คนมากมายต่างยืนรายล้อมหลุมศพแห่งใหม่ที่เพิ่งจะถูกดินฝังกลบเมื่อไม่กี่นาทีก่อนด้วยความเสียอกเสียใจเป็นอย่างมาก สายลมเย็นเยือกพัดโบกสะบัดไปมา ราวกับวิญญาณคนตายต้องการสื่อให้ทุกคนในตระกูลได้รับรู้ว่า นอกจากผู้จ้างวานให้มาขุดหลุมกับพระจีนที่มาทำพิธีอย่างตั้งอกตั้งใจ กำลังมีสิ่งหนึ่งที่แปลกปลอมเข้ามา...

มันมาแล้ว!

“ฮือออ~ คุณปู่ขาาา~ ทำไมอายุสั้นแบบนี้กันนะ ฮึกๆ คุณปู๊!!” ร่างบางในชุดเสื้อยืดตัวจิ๋วกับกางเกงยีนขาสั้นยาวพอดีเข่ากำลังกอดหลุมศพร่ำไห้พร้อมทั้งคร่ำครวญด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น ท่ามกลางสายตาตื่นตกใจของคนทั้งตระกูลที่ต่างก็กำลังมองดูการกระทำของหญิงสาว ด้วยความงุนงงไปตามๆ กัน

“เด็กนั่นใครกัน ใช่คนในตระกูลเรารึเปล่า” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นในขณะที่ฉัน ‘เวนิส’ กำลังร้องห่มร้องไห้ราวกับเพิ่งจะรู้ว่าญาติตัวเองเสียอยู่ข้างๆ หลุมศพของชายชราวัยแปดสิบปี

จริงอย่างที่ยัยเจ๊ปากแดงนั่นว่า ฉันไม่ใช่คนในตระกูลนี้อย่างแน่นอน แต่ก็นะ...นี่มันงานพาร์ตไทม์ของฉันเชียวนะยัยป้าบ้า จะตะโกนเรียกให้ทุกสายตาหันมามองฉันทำไมกันเล่า!

สรุปเรื่องมันเป็นไงมาไงอย่างงั้นเหรอ พูดแล้วชีวิตฉันมันน่าสงสารนะจะเล่าให้ฟังหลังเสร็จพิธีฝังศพคุณปู่คนนี้ก็แล้วกัน

“นี่จ้ะค่าจ้างสำหรับงานนี้ ขอบคุณหนูมากนะจ๊ะ” หญิงชราวัยกลางคนในชุดสูทสุดหรูราคาแพงที่บ่งบอกให้รู้ถึงสถานะทางบ้านที่ดูท่าว่าน่าจะรวยพูดขึ้น พร้อมกับยื่นซองสีขาวที่ข้างในบรรจุสมบัติล้ำค่าที่จะทำให้ฉันประทังชีวิตรอดไปได้อีกวันมาให้

“ขอบคุณนะคะ”

ฉันยกมือไหว้อย่างเก้ๆ กังๆ แล้วรับซองเงินนั้นมาถือไว้ ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นร่างสูงในชุดเสื้อยืด กางเกงยีนขายาว ที่ยืนเอามือเท้ารถสปอร์ตสีดำคันหรูรอท่าอยู่ก่อนแล้ว รอยยิ้มแห่งความสุขมาเยือนทันทีที่รู้ว่าเจ้าของใบหน้าเย็นชานั้นเป็นใคร

“นะ...ไนท์! วันนี้นายมารับฉันด้วยตัวเอง ดีใจจังเลย” ฉันยิ้มร่าพร้อมทั้งโบกมือทักทายร่างสูงตรงหน้าด้วยความดีใจ แต่ก็ไม่ลืมที่จะก้มหัวอำลาผู้ว่าจ้างก่อนเดินจากมาหาร่างสูงด้วยรอยยิ้มแห่งความปลื้มปีติยินดีดี๊ด๊าเป็นการใหญ่

เรือนผมสีเทาอ่อนๆ ที่เขาบอกว่าเพิ่งจะย้อมมาหมาดๆ นั่นดูมีเสน่ห์จนสายตาของฉันไม่อาจจะละเว้นได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว ไหนจะริมฝีปากบางเฉียบที่ไม่เคยยิ้มให้ได้เห็นเลยสักครั้งนั่นอีก ทำไมเขาถึงได้หล่อแบบนี้นะเนี่ย

“หุบปากแล้วขึ้นรถสักที เสียเวลาชะมัด!”

ไนท์พูดเสียงเรียบ ก่อนจะขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่ายโลกเหมือนอย่างเคย ทำไมต้องเย็นชากับฉันด้วยก็ไม่รู้ นี่เราเป็นแฟนกันจริงๆ รึเปล่าเนี่ย เขาไม่เห็นจะเคยพูดดีกับฉันสักครั้งเลย ตั้งแต่ฉันฟื้นขึ้นมา...

ในขณะที่เดินทางไปสู่สนามแข่งรถซึ่งเป็นสถานที่ที่แฟนหนุ่มจอมเย็นชาของฉันชอบมากยิ่งกว่าบ้านของตัวเองหรือข้าวสามมื้อ เรามาทำความรู้จักกับชะตาชีวิตที่น่าเศร้าของฉันกันดีกว่านะคะ เรื่องราวมันเป็นไงมาไงไม่รู้ ฉันจำได้แค่เพียงว่าตัวเองประสบอุบัติเหตุ แต่จำไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นที่ไหนและเกิดขึ้นได้ยังไงซะด้วยสิ

พอฟื้นตื่นมาตาแป๋วๆ อีกที หมอก็บอกว่าหัวฉันกระแทกอย่างแรงส่งผลให้สมองเสื่อมสูญเสียความทรงจำชั่วคราว แถมยังได้รับรู้ความจริงที่ว่าตัวเองมีแฟนแล้ว ซึ่งก็คือร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาเจ้าของผมสีเทาเงางามมีนามว่าไนท์ เป็นของแถมต้อนรับการกลับมาจากทัวร์นรกอีกต่างหาก (โชคดีจริงจริ๊ง) เขาบอกว่าเราเป็นแฟนที่รักกันมากปานจะกลืนกิน แต่สิ่งที่เขาแสดงออกมากับฉันมันดูไม่เหมือนว่าเราทั้งคู่เป็นคนรักกันตรงไหนเลยสักนิด หนำซ้ำถ้าเรารักกันจริงๆ ล่ะก็นะ...ทำไมฉันถึงได้จำเรื่องราวอะไรระหว่างเราไม่ได้เลยล่ะ

น่าแปลกนะว่ามั้ย ไนท์บอกว่าวันที่เกิดเหตุเราทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องที่เขาสารภาพว่าฉันอ้วนเกินไป ทำให้ฉันโกรธจนหน้ามืด วิ่งเอาตัวไปโขกปูนซีเมนต์พื้นถนนเพื่อประชดชีวิตที่รันทดของตัวเอง มันน่าเชื่อตรงไหนเนี่ย เรื่องที่เขาเล่ามาทั้งหมดมันยังมีหลายช่วงหลายฉากหลายคำพูดที่ฉันยังคงสงสัยและอยากถาม แต่พอตั้งท่าจะถามเขา...

“นี่ไนท์! ฉันกับนายเรารักกันมากมั้ย แล้วก่อนที่ฉันจะความจำเสื่อมนั่นน่ะเรา...”

“บอกกี่ครั้งแล้วฮะ! ว่าให้หุบปากเวลาที่ฉันกำลังใช้สมาธิ”

ก็เป็นอีแบบนี้นั่นแหละ ฉันว่าฉันไม่ได้คิดไปเองหรอกนะว่าเขากำลังมีบางอย่างปิดบังฉันอยู่ เขาไม่เห็นจะแสดงออกว่ารักฉันเลยสักนิด

ยกตัวอย่างเช่น งานแต่ละอย่างที่เขาสรรหามาให้ฉันทำ มีตั้งแต่รับจ้างทวงหนี้ ยามรักษาความปลอดภัย รับจ้างงมหอย จนมาถึงล่าสุดนี่แหละ! รับจ้างร้องไห้ตามงานศพ!! ใช้อะไรคิด ใบหน้าที่ขาวเนียนใสราวกับลูกผู้ดีมีเงินใช้เหลือเฟือแบบฉันเนี่ยนะ ผมลอนยาวสีน้ำตาลเลยกลางหลังบ่งบอกถึงการดูแลรักษามาอย่างดีเยี่ยม ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้ม ปากนิดจมูกหน่อยแบบฉันเนี่ยนะ!! ถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นแฟนฉัน แถมยังหน้าตาหล่อล่ะก็นะ ฉันคงหนีไปจากหมอนี่ตั้งแต่วันแรกที่ฟื้นคืนชีพแล้วล่ะ คิดแล้วมันเศร้า ไม่เล่าแล้วดีกว่าาาา~

[สนามแข่งรถ SS]

ใช้เวลาเพียงชั่วอึดใจเดียว บวกกับการขับท้าทายความตายของไนท์ เราทั้งคู่ก็มาถึงสนามแข่งรถอันเลื่องชื่อจนได้ โดยที่ฉันยังอยู่ครบสามสิบสอง แต่ทว่าใจกลับร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไนท์พาฉันมาที่นี่ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง แต่ก็ไม่เคยอนุญาตให้ฉันลงจากรถเลยสักครั้ง ไม่เข้าใจความคิดของหมอนี่เลยให้ตาย

“เฮ้อ~ นึกว่าฉันจะไม่รอดซะแล้วสิ”

“นั่งรออยู่ในนี้เดี๋ยวฉันมา ถ้ากลับมาไม่เจอ เธอโดนดีแน่ๆ เข้าใจที่พูดมั้ย” ไม่ไหวแล้วนะ

นี่เขาคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่บอบบางแต่หน้าตารึยังไงไม่ทราบ ร่างกายฉันมันสวรรค์สร้างมาจากสิ่งที่พระเจ้าประทานมาให้นะ ไม่ได้ทำมาจากเศษเหล็กเศษหินซะเมื่อไหร่กันเล่าเจ้าบ้า!! ชิชะ! ทำไมฉันถึงได้มีความรู้สึกว่าถ้าตัวเองใจกล้าด่าคำพวกนี้ออกไปให้เขาได้รับฟังจะรู้สึกดีนะ ทำไมกันนะ

พรึบ!!

“ถามว่าเข้าใจที่พูดมั้ย!”