บทที่ 1 คนที่เจ็บปวด
เสียงเพลงดังสนั่นออกจากลำโพงขนาดใหญ่ และแสงไฟหลากสีกระทบโดนเรือนร่างอรชรของมิลินา ขณะมองหาใครคนหนึ่งด้วยความเป็นห่วง
“อยู่ไหนของเขากันนะ” เสียงหวานบ่นอุบอิบกับตัวเองพลางสอดสายตามองหาชายหนุ่ม ด้วยความที่คนเยอะและค่อนข้างแออัดทำให้มองหาใครคนหนึ่งค่อนข้างลำบาก
“คนสวยจะไปไหนเหรอครับ” จู่ ๆ ถูกคว้าแขนเล็กอย่างไม่ทันตั้งตัว โดยชายแปลกหน้า
“ปล่อยฉัน” พยายามสลัดแขนให้หลุด ทว่าอีกฝ่ายดันเพิ่มแรงบีบแน่นกว่าเดิม
“จะไปไหน มาคนเดียวเหรอ”
“อย่ายุ่งได้ไหม ไปให้พ้น” มิลินาเอ่ยบอกอย่างหัวเสีย ก่อนกัดเข้ากับแขนของอีกคนเต็มแรง กระทั่งถูกปล่อยเป็นอิสระ จึงอาศัยจังหวะนั้นวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นสายตาคู่หวานปะทะแผ่นหลังกว้างของคนที่ตนเองตามหา นั่งดื่มเหล้าเพียงลำพังยังโซนเคาน์เตอร์บาร์ หญิงสาวไม่รอช้าย่างเท้าไปหาคนตัวโตด้วยความดีใจ
“พี่ภาสคะ”
“ใครวะเนี่ย” คนเมาไม่ได้สติหันมองคนข้างกายด้วยสีหน้างุนงง ก่อนหันมาดื่มเหล้าต่อเพื่อต้องการระบายความเจ็บปวด
“พี่ภาสคะ” มิลินาหย่อนตัวนั่งลงยังเก้าอี้ว่างข้างกายเขา มือเล็กเอื้อมแตะหัวไหล่แกร่งแผ่วเบาด้วยความเป็นห่วง
สาเหตุที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้ นั่นเพราะเพื่อนสนิทซึ่งเป็นพี่ชายของเธอแต่งงานกับผู้หญิงที่เขารักในวันนี้
เธอบังเอิญเห็นเขาที่งานวิวาห์ ก่อนแอบตามมาเงียบ ๆ ด้วยความเป็นห่วง เพราะเขาคือคนที่เธอแอบรัก แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่เคยชายตามองสักครั้งก็ตาม
“ทำไมคุณถึงไม่เลือกผม ผมแย่กว่าไอ้นายตรงไหน”
“พี่ภาสเมามากแล้ว กลับเถอะ” มิลินาพยายามจะประคองคนเมาออกจากไนต์คลับ ทว่าอีกคนผลักเธอเต็มแรงทำเอาล้มลงกระแทกพื้นอย่างจัง
“อย่ายุ่ง!”
“กลับเถอะค่ะ เดี๋ยวมิ้นต์พาไปส่ง” หญิงสาวไม่ละความพยายามจะพาคนตัวโตกลับให้ได้
“เธอมันน้องไอ้นายไม่ใช่เหรอ” คนเมาเพ่งมองดวงหน้าหวานอย่างละเอียดเพื่อความแน่ใจ
“กลับเถอะ พี่ภาสเมามากแล้วนะคะ” เธอไม่ตอบคำถามอีกคน แต่พยายามจะพยุงคนตัวโตไปด้วยกัน แต่ไม่วายถูกเขาผลักอีกรอบ คราวนี้รุนแรงกว่าเดิมทำเอามิลินาจุกท้อง
“โอ๊ย!” เธอยกแขนเรียวกุมหน้าท้อง ค่อย ๆ พยุงกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและทิ้งตัวนั่งลงข้างกายคนตัวโต โดยไม่เข้าไปวุ่นวายเหมือนรอบแรก แค่เฝ้ามองอย่างเงียบ ๆ
“ผมผิดอะไรวะมัด ทำไมคุณถึงไม่เลือกผม” กฤตภาสร้องบอกด้วยความเจ็บปวดพลางยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มจนหมด
ดวงตากลมโตมองดูอีกคนด้วยความรู้สึกปวดหนึบตรงอกข้างซ้าย การที่เห็นอีกคนเป็นอย่างนี้เธอเองก็เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าเขา แถมยังรู้สึกผิดอีกต่างหาก ที่พี่ชายเพียงคนเดียวแย่งผู้หญิงที่เขารัก
“มิ้นต์ต้องทำยังไงเหรอคะ พี่ภาสถึงจะไม่เจ็บ” เสียงหวานพึมพำขณะมองดูคนข้างกาย ทันใดนั้นหยาดน้ำใสไม่ได้นัดหมายไหลรินอาบแก้มนุ่ม
เธอไม่อยากเห็นคนที่ตัวเองรักเจ็บปวด หากมีทางไหนทำให้เขามีความสุขก็ยอม แม้ว่าเขาจะไม่เคยมองมาก็ตาม
“พี่ภาส”
หญิงสาวรีบลุกขึ้นวิ่งตามหลังคนตัวโต ที่เดินออกจากไนต์คลับด้วยสภาพโซซัดโซเซ ก่อนจะเห็นชายหนุ่มนอนแอ้งแม้งบริเวณลานจอดรถ
“นอนตรงนี้ไม่ได้นะคะ” เท้าเล็กวิ่งไปหาคนไม่ได้สติพร้อมช่วยพยุง
“ใครเนี่ย วุ่นวายชะมัด” กฤตภาสเอ่ยบอกด้วยความรำคาญ พยายามจะผลักคนตัวเล็กไปให้พ้น มิลินาไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นจึงกอดเขาแน่นหวังให้อีกฝ่ายหยุดขัดขืน
“กุญแจรถพี่ภาสอยู่ไหนคะ มิ้นต์จะขับรถไปส่ง”
“ไม่รู้โว้ย!!”
“เฮ้อ” ถอนหายใจเฮือกหนึ่งด้วยความรู้สึกเหนื่อย คนอะไรไม่รู้ตอนเมาค่อนข้างหัวดื้อ แต่ในยามปกติมักจะสุขุม
มิลินาคลำหากุญแจรถตามกระเป๋ากางเกง ก่อนจะหยิบออกมาพร้อมพาเขาไปยังรถคันหรูซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก
กว่าหญิงสาวจะพาคนตัวโตไปยังจุดหมายสำเร็จเล่นเอาเหนื่อยทีเดียว
“ตัวหนักเหมือนกันนะคะเนี่ย” ว่าแล้ว ช่วยรัดเข็มขัดนิรภัยให้เขาก่อนวิ่งไปยังตำแหน่งคนขับ
“ทำไมถึงต้องหักหลังกูด้วยวะไอ้นาย” คนเมาร้องบอกตลอดทางนั่งรถกลับคอนโด
“มิ้นต์ขอโทษแทนพี่นายด้วยนะคะ ถ้ามีอะไรที่มิ้นต์พอจะชดใช้แทนพี่นายได้ก็ยินดี” ชำเลืองมองคนข้างกายระหว่างขับรถกลับที่พัก
ระหว่างรถกำลังมุ่งหน้าสู่ปลายทาง ชายหนุ่มเอาแต่โวยวายตลอดทางพร้อมกับเพ้อถึงผู้หญิงที่รัก มิลินาใช้เวลาไม่นานก็มาถึง จากนั้นพาคนตัวโตเข้าไปด้านในคอนโดอย่างทุลักทุเล
“เฮ้อ...” พ่นลมหายใจเฮือกหนึ่งด้วยความโล่งอก หลังจากประคองเขานอนลงบนเตียงเป็นที่เรียบร้อย
“มัด...ผมคิดถึงคุณ อย่าทิ้งกันได้ไหม”
“อย่าเจ็บปวดอีกเลยนะคะ พี่ภาส” มิลินานั่งลงข้างกายคนเมา ดวงตากลมโตกวาดมองทั่วใบหน้าหล่อเหลา นิ้วเรียวลูบไล้ริมฝีปากหยักได้รูปแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยความรักเปี่ยมล้นที่มีต่อเขา
“อย่าไป” กฤตภาสคว้าท่อนแขนเล็กและกดเธอลงกับเตียงนอน ก่อนทาบกายแกร่งลงบนเรือนร่างงดงาม
“พี่ภาสจะทำอะไร...อุ๊บ” เสียงหวานกลืนหายลงในลำคอ จู่ ๆ คนเหนือร่างประกบปากหยักลงบนกลีบปากอวบอิ่มอย่างรวดเร็ว ไม่ให้เธอตั้งตัวสักนิด
“อื้อ” มิลินาพยายามขัดขืนสุดฤทธิ์ ทุบตีลงบนหลังแกร่งถี่รัวเพื่อหวังจะให้หลุดพ้นจากพันธนาการของอีกคน
จูบแรกของเธอถูกเขาปล้นไปอย่างหน้าตาเฉย ถึงจะเคยปรารถนาให้เขาเป็นคนแรก แต่ต้องไม่ใช่ตอนเขาไม่ได้สติอย่างนี้
จูบของคนตัวโตเริ่มรุนแรงมากขึ้น กระทั่งในที่สุดทำเอาสติของมิลินาเลือนราง ปลดปล่อยเรือนร่างโอนอ่อนตามการกระทำของเขาอย่างหักห้ามใจไม่ได้
“อื้อ” นัยน์ตาคู่หวานหลับพริ้มด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย ก่อนตอบรับจูบของเขาอย่างเงอะงะ
กว่าหญิงสาวจะได้สติอีกครั้ง ตอนกฤตภาสเอ่ยเรียกชื่อผู้หญิงที่เขารักหมดใจข้างใบหูขาวสะอาด
“มัดหมี่”
“ไปให้พ้น” สติพร่าเลือนก่อนหน้านี้กลับมาชัดเจนอีกครั้ง เธอออกแรงผลักคนเหนือร่างจนกระเด็นไปอีกฝั่ง
“มัดหมี่...ผมรักคุณ” คนเมาเอาแต่ละเมอถึงผู้หญิงในใจอย่างโหยหา
“อย่าโง่ไปหน่อยเลยมิ้นต์ คนที่พี่ภาสรักคือพี่มัดต่างหาก” หลังมือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาบนแก้มนุ่มนิ่ม เธอสูดลมหายใจเข้าปอดช้า ๆ พร้อมสลัดความคิดในหัวทิ้ง จากนั้นนำผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตามใบหน้าหล่อเหลา
“มัดหมี่...”
“ผู้ชายนิสัยไม่ดี ไอ้พี่ภาสคนบ้า” อดไม่ได้จะตำหนิเขา ทั้งที่เขาเพิ่งขโมยจูบแรกเธอไปแท้ ๆ แต่กลับเรียกหาถึงผู้หญิงคนนั้น
หลังจากหญิงสาวช่วยเช็ดตัวให้เขาเสร็จเรียบร้อย จึงจัดแจงให้เขานอนในท่าที่สบาย ก่อนออกจากห้อง ทิ้งให้ชายหนุ่มอยู่ตามลำพัง
ในวันต่อมา กว่ากฤตภาสจะตื่นก็เป็นเวลาเกือบเที่ยง
“โอ๊ย! ปวดหัวชะมัด” มือหนานวดคลึงขมับเบา ๆ ก่อนชะงักเมื่อเห็นเพดานห้องแสนคุ้นเคย
“นี่เรากลับมาได้ไง” เขาแทบจำอะไรไม่ได้ หลังจากไปร่วมแสดงความยินดีในงานแต่งเพื่อนสนิทกับมัดหมี่ก็ไปดื่มเหล้าต่อยังไนต์คลับเพียงลำพัง แต่จำไม่ได้กลับมาได้ยังไง
นิ้วยาวแตะลงบนริมฝีปากหยักได้รูปด้วยความรู้สึกบางอย่าง สัมผัสของใครคนหนึ่งยังคงหลงเหลือ ซึ่งตราตรึงในใจไม่จางหาย
“ความรู้สึกนี่คืออะไรกัน ทำไมถึงแปลก ๆ แบบนี้” เพราะดื่มเยอะมากเกินไป เลยจำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้ ก่อนความทรงจำเลือนรางจะผุดขึ้นในหัวราวกับว่าเขาได้จูบกับผู้หญิงคนหนึ่ง
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน”
