บทที่ 2
ระยะทางไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปเมื่อในใจฉันมันกำลังร้อนรุ่มและเหมือนจะระเบิดออกมาให้ได้ในตอนนี้
"สวัสดีค่ะคุณนาย" ฉันเห็นคุณนายนั่งอยู่ที่โซฟากลางบ้านก็ถือวิสาสะเดินเข้าไปหาเพราะคนข้างนอกบอกให้เข้าไปได้ คุณนายกำลังจิบชาอย่างสบายใจในช่วงบ่ายของวันแบบนี้ คงเป็นกิจวัตรที่ทำประจำเพราะไม่ได้ออกไปไหน แกวางแก้วลงแล้วหันมายิ้มให้ฉันน้อยๆ
"สวัสดีหนูแบม มานั่งก่อนสิ" คุณนายทับทิมเชื้อเชิญให้ฉันนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้าม ฉันก็เข้าไปนั่งด้วยความเกรงๆอยู่ในที โซฟานี่คงตัวละหลายล้าน สิวจะขึ้นก้นไหมเนี่ย
"คุณนายคะ หนูเข้าเรื่องเลยนะคะ แม่บอกว่าติดเงินคุณนายห้าล้าน ไม่จริงใช่ไหมคะ คือ หนูคิดว่าแม่น่าจะเข้าใจผิด ว่ายืมเงินคุณนายมา"
"ใช่"
นั่นสิ ใช่จริงๆด้วย ฮะ!
"คะ"
ฉันสวนกลับทันที ฉันไม่รู้หรอกว่าหน้าตัวเองเป็นยังไงตอนนี้ ที่แน่ๆมันคงแย่มากเลยแหละ เพราะคุณนายแกมองแล้วยกยิ้มด้วยท่าทางขำขัน
"แม่เราติดเงินฉันห้าล้าน เป็นเรื่องจริง"
คุณนายย้ำอีกที ให้ตาย นี่มันเรื่องจริงเหรอ โอ้ยจะเป็นลม
"แล้ว แล้วแม่เอาเงินไปทำอะไรคะ ทำไมคุณนายถึงให้แม่ยืมเงินเยอะขนาดนั้นบ้าหรือเปล่าเนี่ย" ฉันชะงักไปนิดหนึ่งเมื่อหลุดคำพูดไม่น่าฟังออกมา "ขอโทษค่ะ หนูแค่ตกใจ"
"หึหึ เธอนี่ เหมือนพ่อไม่มีผิดเลยนะ ธนนท์เขาก็มุทะลุแบบนี้แหละ" นอกจากคุณนายแกจะไม่ได้โกรธที่ฉันเสียมารยาทใส่ แกยังหัวเราะใส่แล้วยังบอกฉันเหมือนพ่ออีกแน่ะ
"คุณนาย หนูไม่รู้ว่าแม่เอาเงินไปทำอะไรมากมายขนาดนั้น แต่หนูจะหามาคืนแน่ๆ อย่ายึดบ้านเราเลยนะคะ"
"จะหาจากไหนเหรอ ห้าล้านน่ะ" คุณนายยกชาขึ้นจิบแล้ววางลงอย่างสบายใจ ทำไมใจเย็นขนาดนี้เนี่ย
"หนูกำลังหางานทำค่ะ ถ้าหนูได้งานทำ หนูจะเอาเงินมาผ่อนจ่ายให้นะคะ" ฉันรีบยื่นข้อเสนอ
"เท่าไหร่ล่ะ ที่ว่าจะผ่อนจ่าย" น้ำเสียงกับท่าทางใจเย็นของคุณนายมันทำให้ฉันสับสนนะเนี่ย แล้วยังรอยยิ้มแบบมีเลศนัยนั่นอีก มันคืออะไรกัน
"คือ หนู..." ฉันจะบอกได้ยังไง ก็งานยังหาไม่ได้ ไม่รู้ว่าเงินเดือนจะได้เท่าไหร่ ยังไม่ได้หักลบค่าใช้จ่ายเลยด้วยซ้ำ จะบอกได้ยังไงว่าให้เดือนละเท่าไหร่
"เดือนละแสน ไหวไหม"
"ฮะ! แสนนึง คุณนาย หนูจะไปหาจากไหนให้คะ เดือนละตั้งแสน เงินเดือนเด็กจบใหม่แค่หมื่นห้ายังไม่รู้จะได้หรือเปล่าเลย ไหนจะค่าใช้จ่ายอย่างอื่นอีก ถ้าจะเอาแสนนึง หนูต้องไปขายตัวแล้วค่ะ" ฉันแทบจะตะโกนใส่ ยอมรับว่าเสียมารยาทแต่เพราะตกใจก็เลยพูดออกไปแบบนั้น
"ก็ดีนะ ความคิดดี งั้นขายตัวสิ"
"คุณนาย!" ทำไมพูดออกมาหน้าตาเฉยแบบนั้นล่ะ "หนูไม่ตลกนะคะ" ฉันแหวใส่คุณนายทับทิมไปอีกดอกด้วยความโมโห
"ฉันก็ไม่ตลกนะ ขายตัวให้ฉันสิ ฉันจะจ้างเธอเอง เดือนละสองแสนเป็นไง สองปีก็หมดแล้ว" คุณนายยกยิ้มอีกครา
ให้ตายช่างเป็นรอยยิ้มที่น่ากลัวจริงๆ
"ที่ว่าขายตัวให้นี่หมายถึงให้หนูทำงานให้ใช่ไหมคะ" ฉันถามไปแบบหยั่งเชิงเพราะไม่คิดว่าคุณนายแกจะอยากซื้อตัวฉันไปทำแบบที่ปากว่าจริงๆ "แลกกับงานอะไรคะ ทำไมถึงให้หนูเยอะขนาดนั้น"
"แลกกับการแต่งงานกับลูกชายฉัน ทำยังไงก็ได้ ให้เขากลับมาเอาใจใส่กับงานของบริษัท ทำได้ไหม"
"ฮะ! แต่งงาน คือๆ หนูทำอย่างหลังได้ แต่ทำไมหนูต้องแต่งงานด้วยคะ หนูไม่เข้าใจ" มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ฉันสับสนไปหมดแล้ว
"ฉันเห็นเธอมาตั้งแต่เกิด ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนชอบเอาชนะเหมือนพ่อเธอ ฉันเลือกเธอถ้าจะให้เนียนก็ต้องแต่งงานไม่งั้นเจ้าปีคงไม่ยอมให้เธอเข้าใกล้ แค่เธอร่วมมือกับฉัน ฉันจะให้เพิ่มอีกสองล้าน เธออยากไปเรียนต่อไม่ใช่เหรอ แค่สองปีฉันมีคนที่อยากให้เจ้าปีแต่งงานด้วยอยู่แล้ว เป็นลูกสาวเพื่อนของฉัน แต่ตอนนี้เขาไม่สะดวก เธอเป็นตัวหลอกที่ดีที่สุดอย่างน้อยๆก็ช่วยกันผู้หญิงคนอื่นออกจากเจ้าปีก่อนว่าที่ลูกสะใภ้ฉันจะมา ทำได้ไหม"
