ลูกชิ้นปลา

83.0K · จบแล้ว
เพชรน้ำงาม
40
บท
1.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

15 ปี ที่ผมตามจองล้างจองผลาญมันตั้งแต่อนุบาลหนึ่งจนจบม.6 ผมขอประกาศตรงนี้เลยว่า สักวันผมจะเอาไอ้วาฬมาทอด!!!

นิยายรักโรแมนติกนิยายYaoiนิยายรักรักแรกพบโตมาด้วยโรงแรม/มหาลัยรักหวานๆโรแมนติกดราม่า

ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด

"ยังไงวันนี้กูก็ต้องเอาคืนไอ้วาฬให้ได้!!" ผมพูดอย่างแน่วแน่และกล้าหาญก่อนจะทุบโต๊ะเพื่อปลุกระดมความหวังให้ตัวเองและเหล่าพองเพื่อน!

ตุบ!

"โอ๊ยเชี่ยเจ็บ!" ไม่น่าโง่เลยกู!

"มึงยังไม่เลิกคิดอีกหรอวะ นี่มันวันสุดท้ายของการเรียนแล้วนะเว้ย" ผมหันไปมองหน้าไอ้ผิง หรือไอ้ขนมผิงจิงเกอร์เบลฉายามัน

"ผิงเพื่อนรัก ผิงเพื่อนสี้ ผิงสุดเลิฟ....มึงคิดว่ากูจะลามืองั้นหรอวะ" ผมตบบ่ามันเบาๆ ก่อนจะกำหมัดแน่น

"ถึงวันนี้จะเป็นวันประกาศจบการศึกษาแต่กู! แครอทคนนี้! จะไม่ยอมลามือจนกว่าจะได้แก้แค้นมัน! กูจะตามไปจองล้างจองผลาญมันทุกชาติไป ฮ่าๆ! ฮ่าาาาๆๆ อุว่ะฮ่าๆๆๆ อุ..อ้วกกก" โอ้ย หัวเราะดังไปหน่อย

"อ่ะ น้ำ" ผมรับน้ำมาดื่มแก้คอแห้ง

"ขอบใจไอ้ผิง อุ้ย! พรวดดด! เหี้ยไม่ใช่ไอ้ผิงนี่หว่า"

"เออ! กูไม่ใช่ไอ้ขนมผิงจิงเกอร์เบล! กูชื่อทิกเกอร์! แม่ง...พ่นน้ำเต็มหน้ากูเลย" ผมยิ้มแหยๆ ให้ไอ้เกอร์ ก็แม่ง...โผล่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง

"ว่าแต่มึงหายไปไหนมาไอ้เกอร์"

"ก็ไปถามเรื่องไอ้วาฬให้มึงนี่ไง...จะฟังป่ะ"

"ทำงานดีมากเกอร์เพื่อนรัก!" ไอ้เกอร์หัวเราะชอบใจก่อนจะเดินมานั่งใกล้ๆ พวกผม

"กูรู้มาแหละว่าหลังจากจบพิธีการศึกษาพวกไอ้วาฬมันจะไปกินเหล้ากัน" หือ?

"แล้วมึงไปรู้มาจากไหนวะ?"

"เออเรื่องของกูเหอะน่า...ไง ไอ้แค มึงอยากเอาคืนมันไม่ใช่หรอ มีแผนป่ะ" ผมลูบเคราตัวเองให้เหมือนกับคนแก่ในหนังที่คิดแผนชั่วร้าย

ปิ้ง!

"คิดออกละ!"

"ทำเสียงเหมือนการ์ตูนซะด้วย" ผมตบปากไอ้ผิงที่มันแซวไปทีหนึ่งก่อนจะกระซิบ

"มึงว่าแผนนี้ดีป่ะ.... พวกเราก็ไปนั่งกินเหล้าข้างโต๊ะพวกมัน พอเผลอๆ ก็ขโมยเหล้าแม่งเลย!"

"....."

"....."

"เป็นไง เจ๋งป่ะ! พอเราขโมยเหล้ามันมา มันก็จะไม่ได้แดกต้องสั่งเพิ่ม พอสั่งเยอะๆ ก็จะหมดตังค์เยอะไง.... แล้วพวกมันก็จะจน! ไม่มีตังค์จ่ายค่าเหล้า ต้องไปล้างจาน ถูกใช้ดเหมือนหมูเหมือนหมา...ฮ่าๆๆ แค่คิดภาพไอ้วาฬนั่งร้องไห้กับกองจานท่วมหัวกูก็สะใจแล้ว!" ผมนี่มันฉลาดจริงๆ เลย!!

แครอทหัวเราะกับความฉลาดของสมองปราดเปรื่องของตัวเองโดยไม่ได้หันมามองเพื่อนทั้งสองคนที่ทำหน้าเอือมระอา

'แผนปัญญาก่อนอีกละ'

'เมื่อไหร่มันจะเลิกคิดเรื่องปัญญาอ่อนวะ'

'เราควรห้ามมันมั้ย?'

'ไม่เอาอ่ะ กูอยากแดกเหล้า ตามๆ น้ำไปก่อน'

'เออโอเค กูก็อยากแดกเหล้า'

'ดิล'

"ไง แผนกูใช้ได้ป่ะ!"

แปะๆๆ

"เยี่ยมมากเลยแคเพื่อนรัก! กูไม่เคยเห็นใครฉลาดเท่ามึงมาก่อน!"

"ใช่แล้วแคเพื่อนเลิฟ! มึงนี่มันอัจฉริยะจริงๆ กูรอดูไอ้วาฬร้องไห้หน้ากองจานแทบไม่ไหวแล้ว"

"ใช่มั้ยล่ะ กูนี่มันโคตรเก่ง ฮ่าๆ"

อารมณ์ดีจริงๆ เว้ยยยย!!

.

.

.

.

.

3 ทุ่ม

"เย้!!" เสียงตะโกนร้องเชียร์ของพวกไอ้วาฬดังลั่นไปทั่ว ผม ไอ้ผิง ไอ้เกอร์ยืนแอบที่ประตูห้องน้ำก่อนจะมองหน้ากัน

"โต๊ะของเราอยู่ข้างโต๊ะพวกมันเลยแค กูจองไว้ละ"

"โอเค๊!" ผมค่อยๆ กระดึบๆ ไปตามทางที่มืดมิดจะมีแสงก็ตอนที่สปอร์ตไลท์มันผ่านหน้าไปเท่านั้น

"โอ๊ะๆ เอวกูๆๆ"

"แล้วมึงจะก้มต่ำทำไมล่ะโว้ย"

"ก็เพลงมันบอกให้ก้มต่ำๆ อ่ะ" กูผิดตรงไหนที่กูเป็นคนมีจังหวะ

ปัก!

เพราะว่ามัวแต่ทะเลาะกับไอ้ผิงนั่นแหละเลยซวยสะดุดขาโต๊ะเลยแม่ง!

หมับ

"เป็นไรมั้ย" ใครจับกูไว้วะ ขอบคุณมากที่ดึงกูไว้ไม่งั้นกูล้มหัวฟาดพื้นหมดหล่อแน่

"ขอบคุณครับ"

ไหนขอดูหน้าวีนบุรุษหน่อยซิ...

".....เหี้ย!!"

ไอ้บ้าเอ้ย! วีรบุรุษอะไรล่ะ! นี่มันไอ้วาฬเป้าหมายของผมแท้ๆ!

"มึงมาอยู่นี่ได้ไงวะ!"

"กูมากินเหล้า แล้วมึงอ่ะ" เออกูลืม...เพราะมันมาอยู่นี่ไงกูเลยตามมันมา โอ๊ยไอ้แคสมองมึงเอ๋อแล้วรึไง

"กะ กู....กู....."

"พวกกูก็มากินเหล้า" ดีมากไอ้เกอร์ มึงแก้สถานการณ์ได้ดีมาก

"แล้วโต๊ะพวกมึงอยู่ไหนอ่ะ" ผมชี้ไปที่โต๊ะข้างๆ พวกมันหลังไอ้โอหรือไอ้โอเลี้ยง เพื่อนไอ้วาฬถาม

"บ้าละ นั่นโต๊ะพวกกู...เห็นป่ะ นั่นไง" ผมหันขวับไปมองทันทีก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นเพื่อนไอ้วาฬอีกหลายคนไปนั่ง

"ไอ้ผิง! ไหนมึงบอกว่ามึงจองแล้วไง!"

"กู......ยังไม่ได้จ่ายตังค์อ่ะ"

ฮึก

เวรกรรม

สุดท้ายผมก็ถูกรวบหัวรวบหางมานั่งที่โต๊ะไอ้เวร(วาฬ)นี่ไปซะได้

แผนของกูที่จะขโมยเหล้ามันเละไม่เป็นท่า!"ง

"เชี่ยแคมึงทำใจเย็นๆ นี่แค่ผิดพลาดนิดเดียวเอง"

"ฮึกๆ กระซิกๆๆ กูเสียจัยยยยย"

"อ่ะๆ กินเหล้าแล้วลืมมันซะ" ผมมองแก้วเหล้าในมือแล้วหลั่งน้ำตาออกเป็นสายเลือดอย่างกับควบคุมได้เหมือนในหนังยุทภพ

"กูไม่มีเงินค่าขนมแล้ว แง้งงงงง"

"กูเลี้ยง" ผมหันไปมองไอ้คนข้างๆ ที่มันกระซิบพูด

"บ้านมึงรวยรึไงไอ้วาฬ!"

"อือ" หน็อย! เกลียดแม่งชิบหาย ทำไม๊ ทำไมมันถึงรวยวะห้ะ! นอกจากจะรวยแถมยังหล่อบรรลัยอีก ละครเวทีของโรงเรียนก็ได้เป็นพระเอกในขณะที่ผมเล่นเป็นต้นไม้! คะแนนสอบก็ได้ที่หนึ่งตลอดในขณะที่ผมตกแล้วตกอีกจนครูต้องถีบให้เลื่อนชั้น! คะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็อยู่อันดับหนึ่งคณะแพทย์มหาวิทยาลัยชื่อดังในขณะที่แม่เอือมระอากับผมจนตัดสินใจยอมไม่ให้ผมเรียนต่อเพราะสอบเท่าไหร่ก็ไม่ติดที่ไหนเลย!

ตุบ!

"เออมึงรวยนักใช่มั้ย! กูจะแดกให้มึงไม่มีตังค์จ่ายแล้วต้องไปล้างจานที่ร้านเลย อึก!" พูดจบก็กระดกน้ำเมาในมืออึกใหญ่ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ผมจะกินจนมันไม่มีตังค์จ่ายเลยคอยดู!!

.

.

.

(วาฬพากย์)

"โทษทีนะไอ้วาฬ เพื่อนกูทำอะไรไม่คิดอีกแล้ว" ผมมองไอ้ผิงเล็กน้อยก่อนจะเหลือบมองไอ้แครอทที่นั่งฟุบไปหลังดื่มได้สามแก้ว

"ตอนแรกกูตั้งใจจะดูว่ามันจะดื่มได้แค่ไหน ปากบอกจะกินจนกูไม่มีตังค์จ่าย...เพิ่งสามแก้วก็คอพับแล้ว" ผมลูบเส้นผมคนที่หลับอยู่อย่างเบามือ ไอ้แคหัวเราะคิกคักทั้งที่ยังหลับแต่เหมือนชอบใจ

"มันหลับก็ดีแล้วพวกกูจะได้กินเหล้าอย่างสบายใจ" ไอ้เกอร์ถอนหายใจก่อนจะมองผมที่นั่งลูบแก้มไอ้แคเล่น

"มึงไปแกล้งแรงมันเดี๋ยวมันตื่นมึงก็อดแกล้งมันหรอก"

"นานๆ ทีกูจะมีเวลาเล่นกับมัน มึงก็รู้ว่าช่วงนี้กูยุ่งเรื่องสอบ" ที่จริง ผม ไอ้ผิง ไอ้ไทเกอร์ก็เป็นเหมือนเพื่อนสนิทกันนั่นแหละครับ เมื่อก่อนตั้งแต่มัธยมต้นพวกนี้มันถูกไอ้แคปั่นหัวให้มาแกล้งผมสารพัด นานเข้าพวกผมก็สนิทกันไปเองบางวันก็มาดื่มเหล้ากันบ่อยๆ ไม่ได้แอบสนิทกันหรอกครับ ก็สนิทอย่างเปิดเผยนี่แหละมีแค่ไอ่เตี้ยคนเดียวที่โง่ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขา

"แล้วเรื่องสอบเป็นไงวะ มึงสอบติดที่หนึ่งเลยนะทำไมไม่เข้ามหาวิทยาลัย"

"อย่างที่กูเคยบอก พอพ่อกูเสียที่หมูบ้านกูเหมือนเสียการควบคุม กูอยากกลับไปดูแลที่ดอย"

"เลยทิ้งโอกาสของตัวเอง...เห้อ เสียดายแทนมึงนะสอบติดแต่ไม่ได้เรียน ดูเพื่อนกูดิ้" ไอ้ผิงหันมามองไอ้แคแล้วส่ายหน้าไปมา

"อยากเรียนชิบหายแต่สอบไม่ติดสักที่"

"อือ.....คนเรามันเก่งแตกต่างกัน" ใช่ครับ ถึงไอ้แครอทจะไม่เก่งเรื่องเรียนแต่มันเก่งมากเรื่องเล่นกับใจคนน่ะ

"มึงหลงมันเกินไปละ" ไอ้โอหัวเราะเบาๆ ก็จะไม่ให้ผมหลงได้ยังไงครับ

"ก็แครอทอันนี้มันน่ารักขนาดนี้....ไอ้เบบี้แครอท"

"เห้อ!"

เราดื่มกันอยู่นาน ไอ้แครอทเมาจนตื่นมาดื่มอีกรอบจนเมาไปอีกครั้ง จนกระทั่งตอนนี้เที่ยงคืนกว่าแล้วและเพื่อนๆ ก็เริ่มทยอยกลับ ไอ้ผิงไอ้เกอร์ก็ได้สาวแล้วหายวับไปเลย

"มึงจะทำยังไงกับเบบี้แครอทมึงอ่ะ แดกหรอ" ผมตบปากไอ้โอเบาๆ

"พูดอะไรน่าเกลียด"

"เอ้า....เออๆ กูมันความคิดทุเรศ แล้วมึงจะทำยังไง"

"กูคงพามันกลับบ้านอ่ะ"

"บ้านมัน?"

"บ้านกู"

"มึงก็รู้จักบ้านมันนิทำไมมึงไม่ไปส่งมันที่บ้าน"

"พ่อแม่มันทำงานกลางคืน ตอนกลางคืนไม่อยู่บ้านหรอกถ้ากูไปส่งมันที่สภาพเมาๆ แบบนี้เกิดมีโจรโรคจิตมาปล้นข่มขืนมันจะทำยังไง"

"มึงก็ช่างคิดเนาะ" ก็กูเป็นห่วงของกูนี่หว่า

สุดท้ายผมก็ต้องอุ้มมันกลับมาที่ห้องนอนของผม... ห้องเล็กๆ ที่มีฟอนิเจอร์ไม่มากแต่อบอุ่น อีกวันเดียวผมก็ต้องย้ายไปแล้วซินะ...กลับไปอยู่ที่บ้านของตัวเอง....

"คิกๆๆ" ผมมองไอ้คนที่นอนหลับละเมอแล้วเผลอยิ้มออกมา ไอ้แครอทมันจะรู้มั้ยนะว่ามันน่ารักขนาดไหน

พอกลับมาถึงก็พามันนอนที่เตียง เช็ดตัวให้สักหน่อยแล้วนอนเฝ้ามัน

ผมชอบมันครับ ไม่รู้ว่าตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีการมีมันวุ่นวายในชีวิตก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมอยากตื่นมาใช้ชีวิตในทุกวัน ครอบครัวของผมไม่ได้ร่ำรวยมากเราเป็นชาวสวนในหมู่บ้านเล็กๆ บนดอย กว่าจะเก็บผลไม้ ชามาขายได้ต้องใช้ระยะเวลานานแต่พ่อแม่ก็พยายามจนมีเงินมาปลูกบ้านพัก สร้างสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวมาชม พัฒนาไร่ชา สวนผลไม้จนเริ่มดังทำให้คนในหมู่บ้านมีเงินค้าขายดี เป็นที่รู้จักมากขึ้นคนในหมู่บ้านเลยยกให้พ่อของผมเป็นพ่อใหญ่บ้าน แต่เมื่อหลายปีก่อนพ่อของผมล้มป่วยลง ทำให้ผมเลือกจะเรียนหมอเพราะอยากรักษาพ่อ แต่ว่า...ก็ไม่ทัน

ไม่กี่เดือนก่อนพ่อของผมเสียไปแล้ว ตอนนี้ผมเหลือตัวคนเดียวเพราะแม่ก็จากไปหลายปี คนในหมู่บ้านเริ่มค้าขายลำบากเพราะไม่มีคนคอยพัฒนา ผมเลยอยากกลับไปช่วยทุกคนที่นั่นอย่างน้อยผมอยู่ในเมืองมาตั้งแต่เด็ก น่าจะรู้ดีกว่าชาวบ้านว่านักท่องเที่ยวต้องการอะไร

นี่คงเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้อยู่กับคนที่ผมชอบ...

คนที่เข้ามาในชีวิตของผมตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้....

"มึงวิ่งเล่นในใจกูมาเป็นสิบปี เหนื่อยรึเปล่าวะไอ้แค"

ขอบคุณนะที่เมาแล้วหลับฟุบไปทำให้กูได้อยู่กับมึงในวันสุดท้าย...หวังว่าตื่นมาเราคงแยกย้ายกันด้วยดี หรือไม่ อย่างน้อยกูก็ได้เจอมึงก่อนจะกลับไปบนดอย...

100%

#โปรดติดตามตอนต่อไป..