1
นรินดาลอบมองลุงเสือหรือพยัคฆ์ คุณลุงข้างบ้านที่เก็บตัวเงียบขรึมอยู่ในบ้าน และทำงานของตัวเองแบบไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร
“นั่นใครน่ะ!”
เสียงดุเข้มที่เอ่ยถามขึ้นมาทำให้คนแอบมองสะดุ้งสุดตัว พยัคฆ์หันมามองอย่างไม่ชอบใจ เขาไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวาย
“หนูดาเองค่ะ”
นรินดาออกมาจากที่ซ่อนตัว ในมือถือต้มกะทิสายบัวเดินมาตรงหน้าเจ้าของบ้าน
“มีอะไร”
แม้น้ำเสียงจะไม่ได้ดุเข้มเหมือนคราแรก แต่ก็ไม่ได้อ่อนโยนตามนิสัย เธอรู้จักกับพยัคฆ์มานานหลายปี ตั้งแต่บิดามารดาของเธอยังมีชีวิตอยู่ จนกระทั่งพวกท่านจากไปแล้วด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนที่เธอสำเร็จการศึกษาพอดิบพอดี
พยัคฆ์ในความรู้สึกของเธอคือผู้ชายพูดน้อยต่อยหนัก พูดคำไหนคำนั้น และไม่ค่อยสนใจใคร เขาไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ในขณะเดียวกันก็ไม่ชอบให้มายุ่มย่ามกับเรื่องส่วนตัวเช่นกัน
“หนูดาทำต้มกะทิสายบัวมาฝากค่ะ”
“ขอบใจนะ ความจริงไม่ต้องลำบากก็ได้”
เขาตอบเธอก็จริง แต่มือกำลังง่วงอยู่กับการใช้กบไสไม้จัดการกับโต๊ะตรงหน้าอยู่ พยัคฆ์ชอบทำงานไม้ เขาทำโต๊ะ ตู้ เตียง เก้าอี้และเฟอร์นิเจอร์เกี่ยวกับไม้ขาย ลวยลายสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ที่สำคัญก็คือเขาทำงานแต่ละชิ้นละเอียดประณีต มีเศรษฐีมีเงินหลายรายมาจ้างเขาทำงานไม้พวกนี้ ซึ่งงานแต่ละชิ้นเขาจะทำอย่างดี ถ้าไม่เสร็จก็จะไม่รับงานอื่น เรียกว่าทำออกมาได้ดีทุกงานจนลูกค้าไว้วางใจและพึงพอใจเป็นอันมาก
“ลุงเสือขยันจัง”
นรินดาชวนคุย จริงๆ เธอแอบชอบเขามานานแล้ว พยัคฆ์มาซื้อบ้านอยู่ใกล้ๆ กับเธอในหมู่บ้านแห่งนี้ซึ่งอยู่นอกเมืองค่อนไปทางชนบทเพราะอากาศดี เขาเป็นคนพูดน้อยคำมาก
เธอรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ หน้าคมสันหล่อเหลาแต่ไม่ชอบยิ้มเอาเสียเลย
คนหน้าเข้มแบบเขาเป็นคนจิตใจดี ช่วยเหลือคนอื่นและเอ็นดูสัตว์ เขาทำทุกอย่างด้วยใจไม่พูดพร่ำเหมือนคนบางคนที่ทำอะไรเอาหน้า
“มีอะไรหรือเปล่า”
เขาเอ่ยถาม ไม่ได้ยินดียินร้ายเมื่อมีใครมาชื่นชมหรือด่าว่า เขาเป็นคนไม่ค่อยแคร์ใครเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“เปล่าค่ะ”
นรินดาทำเนียนไปนั่งบนเก้าอี้ไม่ไกลจากที่เขาทำงานไม้อยู่นัก เธอปักหลักอยู่ที่เดิมไม่ยอมไปไหน พยัคฆ์เข้าใจว่าเด็กสาวชอบมาชวนคุย เขาไม่เคยไล่แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเธอมาก
“ลุงเสือหุงข้าวหรือยังคะ”
คนอยากคุยเอ่ยถาม เขาไม่ชอบคุยกับใคร เป็นคนค่อนข้างเงียบและเคร่งขรึมจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่เธอก็ตื้อ เขาไม่คุยเธอก็ชวนคุยอยู่นั่นแหละ พอเขารำคาญก็เลยต้องตอบ
“ยัง”
คำตอบสั้นๆ ได้ใจความพร้อมกับมือที่ง่วนอยู่กับงานอยู่ตรงหน้า
“บ้านของหนูข้าวสารหมดน่ะค่ะ ขอมาฝากท้องบ้านลุงเสือนะคะ”
พยัคฆ์หันขวับไปมองก็เห็นหลังของเด็กสาวไหวๆ เธอกำลังเดินเข้าไปในครัว เขาทำหน้ายุ่งวางงานในมือและเดินตามเธอไป เห็นเธอกำลังหุงข้าว และนำต้มกะทิสายบัวใส่ชาม ก่อนจะไปรื้อของในตู้เย็นออกมาทำอาหารอีกหลายอย่าง
“ลุงเสือตามสบายเลยนะคะ เดี๋ยวหนูเตรียมอาหารเย็นให้”
นรินดาไม่ได้สนใจสีหน้าเข้มดุของอีกฝ่าย เธอทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หุงข้าวทำกับข้าวเพิ่มอย่างคล่องแคล่ว
พยัคฆ์คร้านจะทะเลาะกับเด็ก เขาเลยเดินไปเก็บอุปกรณ์ไสไม้และเครื่องมืออื่นๆ ก่อนจะเดินไปอาบน้ำ
บ้านปูนชั้นเดียวมีห้องน้ำอยู่นอกห้องนอน เขาถอดเสื้อและนุ่งผ้าขาวม้าเดินไปอาบน้ำ
นรินดาชะโงกหน้าออกมาดู ก็เจอเข้ากับช่วงบนเปลือยเปล่าของเขา กล้ามเป็นมัดๆ และหยดเหงื่อที่ยังเกาะพราวไปทั่วทำให้เธอต้องหดหน้ากลบ หน้าแดงน้อยๆ ด้วยความขัดเขิน
นรินดาเร่งมือทำกับข้าว เธอทำยำปลากระป๋องเพิ่ม เจียวไข่และน้ำพริกผักลวก ก่อนจะรีบตั้งโต๊ะ
พยัคฆ์ที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วด้วยเสือยืดและกางเกงเลย์เดินออกมาที่โต๊ะอาหาร เขายอมรับว่าหิว และรู้ด้วยว่านรินดาทำกับข้าวอร่อยมาก แม้จะเป็นกับข้าวง่ายๆ แต่เธอทำได้อร่อยไม่แพ้ใคร
“ลุงเสือมาพอดีเลย หนูทำกับข้าวเสร็จแล้วค่ะ มากินพร้อมกันสิคะ”
เธอรีบตักข้าวใส่จานให้เขา เสือเป็นชายหนุ่มวัยสี่สิบสองที่คมเข้มหล่อเหลา
เธอรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่โคตรแมน ไม่เหมือนกับผู้ชายคนอื่นที่เคยเจอ อยู่ใกล้เขาแล้วเธอหัวใจเต้นแรงตื่นเต้น หลายครั้งที่เธอไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองยามได้ใกล้ชิดคนตรงหน้า ผู้ชายที่ดูมีอำนาจมีบารมีดูน่าเกรงขามอยู่ในที
แต่เธอก็รู้สึกได้ถึงความมั่นคงปลอดภัยยามเมื่อได้อยู่ใกล้กัน รู้ได้ถึงความอบอุ่นแบบที่ไม่เคยรู้สึกกับผู้ชายคนไหนมาก่อน การได้อยู่ใกล้ชิดเขาทำให้เธอรู้สึกดีอย่างที่สุด
