บทย่อ
นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง *เราเตือนท่านแล้ว*
ตอนที่ 1
ลุงยักษ์
9 นิ้ว
นวนิยายสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น
ผู้เขียน
อาลีจันโด
ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือ
หรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ
เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น
ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล
และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา
อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
……….
นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา
ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์
ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง
ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง
*เราเตือนท่านแล้ว*
ลุงยักษ์
9 นิ้ว
พ.ศ. 2562
ที่บ้านไม้หลังใหญ่ ตั้งอยู่ในชนบทแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี รอบๆ โอบล้อมไว้ด้วยป่าอ้อยเขียวขจี
“แนน… เอ็งอยู่แถวนี้หรือเปล่า แม่มีธุระจะใช้”
เสียงนางประไพผู้เป็นมารดาของฉันดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือที่ฉันยกขึ้นแนบหู ชื่อจริงของฉันคือ ‘แนนโน๊ะ’ แต่แม่มักจะเรียกสั้นๆ ว่า ‘แนน’
“แม่… มีอะไรจ๊ะ”
ฉันถามกลับมายังต้นสายที่โทรมา
“แนน… แม่วานแกเอากับข้าวไปให้น้าเดือนทีเถอะ”
แม่สั่งมาทางโทรศัพท์
‘น้าเดือน’ ที่ถูกเอ่ยถึงก็คือน้องสาวของแม่ บ้านของน้าเดือนอยู่ห่างออกไปจากบ้านของแม่ราวๆ สามกิโลเมตร
แม่ฉันเป็นคนชอบเข้าครับทำกับข้าว วันไหนที่แม่ทำขนมหรือกับข้าวเมนูพิเศษ แม่จะนึกถึงน้าเดือนเสมอ
ทุกวันนี้น้าเดือนอยู่กับลูกชายในวันสิบขวบ เพราะว่า ‘น้าทศ’ ซึ่งเป็นสามีของหล่อนไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน จำต้องทิ้งให้น้าเดือนกับลูกสาวในวัยเพียงเจ็ดขวบ อาศัยอยู่กันตามลำพังในบ้านไม้หลังเล็กกลางไร่อ้อย
ในเวลาต่อมา
ฉันขับรถมอเตอร์ไซค์กลับมาบ้าน เพื่อเอากับข้าวและขนมที่แม่เตรียมไว้ให้ ใส่ลงในถุงหิ้ว ขับรถมอเตอร์ไซค์ออกมาจากบ้าน จุดหมายคือบ้านของน้าเดือน
สิบนาทีกว่าๆ
ฉันมาถึงบ้านไม้ชั้นเดียว ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าอ้อยเขียวขจี เป็นบ้านหลังย่อมครึ่งอิฐครึ่งปูน พื้นด้านล่างเทปูน แล้วแบ่งกั้นเป็นห้องโถงกว้างและห้องนอน ด้านหลังเป็นห้องครัว ที่รู้ดีก็เพราะว่าฉันเคยมาที่นี่บ่อยๆ
แต่ฉันสังเกตว่าการมาถึงในวันนี้… ต่างไปจากทุกครั้ง เพราะว่าประตูบ้านถูกปิดเอาไว้ ฉันจึงต้องจอดรถมอเตอร์ไซค์เอาไว้ข้างรั้วหน้าบ้านแล้วเดินเข้ามา ทำให้คนในบ้านไม่ได้ยินเสียงตอนที่ฉันมาถึง
ฉันเดินเข้ามาถึงประตูด้านใน มีต้นหูกวางแผ่กิ่งก้านร่มครึ้มขึ้นมาเสมอหลังคา
ที่ม้าหินอ่อนสีขาวใต้ต้นไม้ มีขวดกระทิงแดงเปล่าวางทิ้งเอาไว้
ฉันเหลือบมองไปข้างบ้าน จึงเห็นรถซาเล้งคันหนึ่งจอดเอาไว้ และรู้ว่าเป็นรถของ ‘ลุงยักษ์’ ชายวัยห้าสิบปี อดีตทหารพรานคนหนึ่งที่ย้ายเข้ามาซื้อที่ดินแปลงเล็กๆ เพื่อปลูกกระท่อมและปลูกผักสวนครัวขาย ลุงยักษ์อาศัยอยู่ท้ายหมู่บ้านมานานเกือบสองปี
ลุงยักษ์เป็นผู้ชายตัวใหญ่ เนื้อตัวกำยำล่ำสันไปด้วยมัดกล้าม รูปร่างยังดูหนุ่มแน่นเกินวัย ใบหน้ายังมีเค้าโครงหล่อเหลาของวัยหนุ่มฉกรรจ์ ถ้าใครที่ไม่รู้อายุของแกมาก่อน คงคิดว่าลุงยักษ์คนนี้อายุราวๆ สี่สิบต้นๆ
ลุงยักษ์เป็นคนขยัน นอกจากจะทำสวนกล้วยและปลูกผักสวนครัวขาย แกยังทำงานรับจ้างทั่วไป ประเภทงานเบ็ดเตล็ด ทั้งรับจ้างตัดหญ้าและซ่อมแซมบ้าน เป็นทั้งช่างไฟและช่างประปา
ผู้คนแถวนี้รู้จักลุงยักษ์เป็นอย่างดี ฉันเดาว่าคงเป็นเพราะค่าบริการที่แกคิดไม่แพง และยังให้บริการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
อย่างวันนี้น้าเดือนคงเรียกลุงยักษ์มาซ่อมแซมอะไรสักอย่าง จึงเห็นรถซาเล้งของแกจอดไว้ข้างบ้าน ภายในรถมีอุปกรณ์เครื่องมือช่างเต็มไปหมด
อันที่จริงเกี่ยวกับลุงยักษ์คนนี้ มีคนแอบซุบซิบว่าลูกค้าของแกส่วนใหญ่จะเป็นสาวแก่แม่ม่ายและผู้หญิงที่อยู่บ้านลำพัง
มีอะไรน่าสงสัยในประเด็นนี้?

