บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 ความหวังที่ริบหรี่

ตอนที่

5

ความหวังที่ริบหรี่

ณิชาพาอัญญารินทร์ไปนั่งที่ม้านั่งในมุมสงบของโรงพยาบาล เธอพยายามอธิบายอาการของสโรชาให้เพื่อนรักฟัง

“หลิน อาการแบบนี้เรียกว่าภาวะความจำเสื่อมแบบย้อนหลัง มันเป็นไปได้ที่ความทรงจำของผิงจะหยุดอยู่แค่ช่วงเวลาที่ผิงรู้สึกปลอดภัย มีความสุข หรือเป็นช่วงเวลาที่ผิงอยากจะจดจำที่สุด

“แต่ทำไมต้องเป็นมาริช ผู้ชายที่ทำให้ผิงต้องเจ็บปวดที่สุด” อัญญารินทร์ถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคับแค้นใจ

“ฉันไม่รู้ ฉันไม่สามารถตอบได้” ณิชาตอบตามตรง

“แต่สิ่งที่ฉันรู้คือ แกต้องไม่ยอมแพ้”

ณิชาเลื่อนตัวเข้ามาใกล้เพื่อนรักมากขึ้นแล้วใช้มือจับมือของอัญญารินทร์ที่กำแน่นจนสั่นเทา “หลิน แกเป็นหมอนะ แกย่อมรู้ดีว่าสมองคนเราซับซ้อนแค่ไหน”

“แล้วจะให้ฉันทำยังไงนิชา” น้ำเสียงของอัญญารินทร์อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

“ความพยายามของฉัน มันจะดูไร้ค่าหรือเปล่า”

“มันไม่ไร้ค่า” ณิชาบอกด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น” การที่ผิงฟื้นขึ้นมาได้ก็เพราะแกไม่ใช่เหรอหลินแกต้องเชื่อในความรักของแก”

“แต่ผิง จำฉันไม่ได้เลย” อัญญารินทร์พูดเบาๆ ราวกับคำพูดนั้นทำร้ายตัวเธอเอง

“ความจำอาจจะหายไป แต่หัวใจอาจจะยังอยู่” ณิชาพูดพร้อมกับสบตาเพื่อนอย่างแน่วแน่

“แกต้องทำให้ผิงเห็นว่าความรักของแกแข็งแกร่งกว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แกต้องให้เวลากับผิงและแกเองด้วย”

อัญญารินทร์มองเข้าไปในดวงตาของเพื่อนรัก เธอเห็นความจริงใจและความห่วงใยที่ณิชามีให้ หัวใจที่เคยห่อเหี่ยวเริ่มพองโตขึ้นอีกครั้ง

“แกคิดว่าฉันจะทำได้ไหม” อัญญารินทร์ถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง แต่ก็แฝงไปด้วยความกลัว

“ถ้าไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใคร” ณิชาพูดพร้อมกับคลายมือออก แล้วลุกขึ้นยืน “ความรักของแกคือยาที่ดีที่สุดสำหรับผิงแล้วหลิน แต่แกต้องเป็นคนจ่ายยาเอง”

คำพูดของณิชาเป็นเหมือนแสงสว่างเล็กๆ ที่ส่องเข้ามาในความมือมิดในใจของอัญญารินทร์ เธอเงยหน้าขึ้นมองตามแผ่นหลังของเพื่อนที่เดินจากไปช้าๆ ความสิ้นหวังที่เคยเกาะกินใจเริ่มจางหายไป ถูกแทนที่ด้วยความมุ่งมั่นและพลังใจที่กลับคืนมา

ใช่เธอเป็นหมอ และเธอจะรักษาคนรักของเธอด้วยความรักของเธอเอง เธอจะไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าเส้นทางข้างหน้าจะยากลำบากแค่ไหนก็ตาม

หลังจากบทสนทนากับณิชา อัญญารินทร์กลับมาที่ห้องของสโรชาด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เธอตัดสินใจว่าจะไม่ยอมแพ้และจะทำทุกวิถีทางเพื่อทวงคืนความรักของเธอ แม้จะรู้ว่าความทรงจำของสโรชาเกี่ยวกับเธอได้เลือนหายไปแล้วก็ตาม

ในขณะที่เธอกำลังนั่งอยู่ข้างเตียงของสโรชาและลูบผมของเธออย่างอ่อนโยน ประตูห้องก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว ปรีชาและมลฤดีพ่อกับแม่ของสโรชาเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโล่งใจและห่วงใย

“ผิง!!! ลูกฟื้นแล้วเหรอ” มลฤดีรีบเดินเข้าไปหาลูกสาวแล้วโอบกอดเธอไว้แน่น ส่วนปรีชาก็ยืนมองลูกสาวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขที่ลูกสาวฟื้นขึ้นมา

“แม่ ผิงคิดถึงแม่” สโรชาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอกอดแม่ของเธอไว้แน่นราวกับกลัวว่ามันจะเป็นความฝัน อัญญารินทร์ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันระหว่างความดีใจที่สโรชาฟื้นขึ้นมาและเจ็บปวดที่สโรชาจำเธอไม่ได้

“แม่ก็คิดถึงลูกเหมือนกัน ลูกไม่เป็นอะไรแล้วนะ” มลฤดีพูดพร้อมกับกอดลูกสาวไว้แน่น

มลฤดีมองไปที่อัญญารินทร์ด้วยสายตาที่ไม่พอใจนัก

“หลินเธอออกไปก่อนได้ไหม พวกเราอยากคุยกับผิงส่วนตัวเฉพาะในครอบครัว”

อัญญารินทร์รู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาดลงกลางใจ เธอรู้ดีว่าพ่อกับแม่ของสโรชาไม่ชอบเธอ แต่การถูกไล่ออกมาแบบนี้ยังคงสร้างความเจ็บปวดให้กับเธออย่างแสนสาหัส เธอยังไม่ทันจะได้พูดอะไร มลฤดีก็หันมามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและไม่พอใจ

“ฉันบอกให้เธอออกไปก่อน เธอคือคนที่ทำให้ลูกสาวของฉันเกือบตาย” มลฤดีพูดด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว “ลูกสาวฉันไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ”

คำพูดนั้นเป็นเหมือนคมมีดที่กรีดลึกลงไปในใจของอัญญารินทร์ เธอรู้ดีว่าสโรชาจำเธอไม่ได้ แต่การถูกย้ำเตือนด้วยคำพูดที่รุนแรงเช่นนี้ยิ่งทำให้เธอเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก อัญญารินทร์ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

แต่แล้ว...สโรชาก็หันมามองเธอด้วยสายตาที่สงสัย “แม่...ผู้หญิงคนนี้เป็นใครเหรอคะ เห็นมาหาผิงหลายครั้งแล้ว”

คำถามนั้นทำให้ทุกคนในห้องตกใจ อัญญารินทร์มองสบตาสโรชาด้วยความหวัง “ผิงนี่พี่หมอหลินไงคะ เรากำลังสร้างบ้านด้วยกันและกำลังจะได้อยู่ด้วยกัน เรารักกันมากเลยนะ”

สโรชามองอัญญารินทร์อย่างสับสน เธอกลัวเล็กน้อยกับสายตาที่เต็มไปด้วยความหวังนั้น “ฉันขอโทษนะคะ ฉันไม่รู้จักคุณจริงๆ” สโรชาบอกปัดแล้วหันไปกอดแม่ของเธอไว้แน่น

มลฤดีมองอัญญารินทร์ด้วยรอยยิ้มเยาะ “ได้ยินไหมหลิน ลูกสาวฉันบอกเองว่าไม่รู้จักเธอ ออกไปได้แล้ว”

อัญญารินทร์มองหน้ามลฤดีด้วยน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เธอรู้ดีว่าเธอไม่ควรอยู่ต่ออีกแล้ว การอยู่ตรงนี้มีแต่จะทำให้เธอเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก อัญญารินทร์ทำได้เพียงโค้งคำนับเบาๆ ให้กับปรีชาและมลฤดี แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ

เสียงร้องไห้สะอื้นดังขึ้นมาในลำคอสะท้อนความเจ็บปวดที่ยากเกินจะทนได้ หัวใจของเธอแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าเธอไม่มีสิทธิ์ในตัวสโรชาอีกต่อไปแล้ว

หลังจากที่ออกจากห้องของสโรชาด้วยหัวใจที่บอบช้ำ อัญญารินทร์ตัดสินใจที่จะไม่ยอมแพ้ เธอเชื่อถือในคำพูดของณิชาที่ว่า “ความรักของแกคือยาที่ดีที่สุดสำหรับผิงแล้ว” เธอจะทำทุกวิถีทางเพื่อเรียกความทรงจำของคนรักกลับมาให้ได้

เธอกลับไปที่คอนโดมิเนียมเพื่อรวบรวมของที่ระลึกที่เต็มไปด้วยเรื่องราวความรักของพวกเธอทั้งสองคน ทั้งตั๋วหนังเรื่องแรกที่ไปดูด้วยกัน การ์ดอวยพรในวันเกิด และแหวนคู่ที่เธอมอบให้สโรชาในวันครบรอบสามปี ทุกอย่างถูกนำมาบรรจุในกล่องใบเล็กๆ อย่างตั้งใจเพื่อนำไปให้สโรชาดูในโรงพยาบาล

เมื่อเธอกลับมาถึงโรงพยาบาลอีกครั้งพร้อมกับกล่องแห่งความทรงจำนั้น หัวใจของเธอก็เต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง ความรู้สึกที่ผสมปนเปกันระหว่างความหวังและความหวาดกลัว ทำให้มือของเธอที่กำกล่องนั้นไว้แน่นจนสั่นเทา เธอหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องของสโรชา สูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อรวบรวมความกล้า

“ผิง พี่มาแล้วนะ พี่จะทำให้ผิงจำได้” เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ เปิดประตูเข้าไป

อัญญารินทร์ค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปในห้องพักฟื้นของสโรชาอย่างช้าๆ ภาพที่เห็นทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะ สโรชากำลังนั่งอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย สายตาที่เคยเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น บัดนี้กลับว่างเปล่าเมื่อมองมาที่เธอ

“คุณกลับมาทำไมอีกค่ะ” สโรชาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “เราไม่ได้รู้จักกันนะ คุณแม่บอกว่าคุณกับผิงไม่ได้รู้จักกันและไม่ได้เป็นแฟนกันอย่างที่คุณพูดออกมา”

คำพูดนั้นเป็นเหมือนคมมีดกรีดลึกลงไปในใจของอัญญารินทร์เธอรู้ดีว่าสโรชาจำเธอไม่ได้ แต่การถูกย้ำเตือนด้วยคำพูดที่รุนแรงเช่นนี้ยิ่งทำให้เธอเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel