บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ลองของ

พายุชำเลืองมองผู้หญิงตรงข้ามเป็นระยะๆ เขารู้ว่าเธออาย แต่นักการตลาดอย่างเขาก็สามารถเก็บรายละเอียดของหล่อนได้ครบตามความเคยชิน หล่อนคงเพิ่งเข้ามาสถานที่แบบนี้ครั้งแรก

“น้องเก็จ ลองสักชุดไหม” กิ่งพะยอมหันมาถาม หลังจากที่ตัวเธอสั่งเตียงนอนน้ำพร้อมกับชุดคอสเพลย์นางแมวยั่วสวาทไป

“คะ” หญิงสาวร้องเสียงสูง หลุดไปจากภวังค์ เธอกำลังคิดถึงคำพูดของกิ่งพะยอมเมื่อครู่ หากเธอได้ลองเรียนรู้จากหนุ่มคนตรงหน้า ความรู้สึกจะเป็นอย่างไรกัน

“ถ้าฉันชวนคุณออกไปข้างนอก ฉันต้องจ่ายเท่าไรคะ” หญิงสาวหลุดปากถามออกไปตามความคิดที่หมุนวนในสมอง สองคนที่นั่งอยู่ด้วยอึ้งไม่แพ้กัน เมื่อครู่ยังเห็นเธอนั่งอายหน้าแดงอยู่เลย

“อุ้ย น้องเก็จ...ตอนแรกเห็นเงียบๆ เรียบร้อยๆ มาแรงเหมือนกันนะคะ” กิ่งพะยอมอดแซวไม่ได้ หันไปมองหน้าชายหนุ่มอย่างขอโทษ นางเองก็พยายามชวนพายุอยู่หลายหน แต่เขาก็ยังยืนยันว่าเขาเป็นหนุ่มออฟฟิศ งานที่ทำคนละส่วน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับบาร์ของที่นี่อย่างสิ้นเชิง

เมื่อเห็นชายหนุ่มยังเงียบ กิ่งพะยอมก็เป็นคนบอกอีกครั้ง

“แต่น้องพายุเขาไม่รับหรอกจ๊ะ คนนี้เขาเป็นนักการตลาดที่มาเสนอขายผลิตภัณฑ์และปิดยอดขายเท่านั้น”

หญิงสาวมองชุดที่ชายหนุ่มสวมอย่างชั่งใจก่อนที่จะถามออกไป “ต่างกันด้วยหรือคะ”

“พอดีว่าผมเปียก ก็เลยต้องใส่ชุดแบบนี้ออกมา ต้องขอโทษที่ทำให้คุณคิดแบบนั้น” ชายหนุ่มตอบคำถามเป็นครั้งแรก

“แล้วถ้าฉันชวนคุณไปเสนอขายผลิตภัณฑ์ลีลารักด้านนอก นักการขายอย่างคุณจะไปหรือเปล่า” หญิงสาวถามออกไปอีกครั้งอย่างท้าทาย มาการิต้าสองแก้วทำให้ความกล้าของหล่อนมากขึ้น

“รบกวนโทรติดต่อผมในเวลางานนะครับ” ชายหนุ่มวางนามบัตรลงบนโต๊ะให้หญิงสาวอีกครั้ง เขาหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึงเรื่องที่ผ่านมาก่อนหน้านี้

“คุณกิ่งพะยอมครับ รายการที่สั่งมาทั้งหมดของมีอยู่ในสต๊อก ทางเราจะดำเนินการจัดส่งให้ในวันพรุ่งนี้นะครับ วันนี้ผมขออนุญาตลากลับ ต้องขับรถเข้ากรุงเทพอีก”

“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์มาเจอพี่ถึงที่นี่ พี่เข้ากรุงเทพไม่ได้จริงๆ”

“ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ของผม ต่อให้เป็นเชียงรายผมก็ไปครับ”

“ขอบคุณอีกครั้งค่ะน้องพายุ”

“ขอตัวเลยนะครับ” ชายหนุ่มบอกพร้อมยกมือไหว้ ก่อนที่จะลุกออกไป

หลังจากที่ชายหนุ่มเดินออกไป กิ่งพะยอมก็หันมาหาหญิงสาวอีกครั้ง

“ตกลงพี่ลองเรียกเด็กประจำของพี่ให้มานั่งคุยเป็นเพื่อนน้องเก็จสักคนนะ ให้สบายใจแล้วค่อยกลับ”

“ไม่ดีกว่าค่ะพี่กิ่ง ขอบคุณมากนะคะ เก็จอยากไปนั่งปล่อยอารมณ์อยู่คนเดียวมากกว่า จะได้ทบทวนว่าชีวิตเก็จจะยังไงต่อกันแน่ เดินหน้าทวงเขาคืน หรือว่าถอย”

“พี่ว่าน้องสามารถทำสองอย่างได้พร้อมๆ กันนะ” กิ่งพะยอมไม่วายเหนี่ยวรั้ง

“ขอให้ผ่านคืนนี้ไปก่อนนะคะ แล้วเก็จจะโทรหาพี่กิ่ง พี่ยังอยู่พัทยาตลอดหรือเปล่าคะ”

“แน่นอนจ๊ะ ธุรกิจของพี่อยู่ที่นี่ และความสุขของพี่ก็อยู่ที่นี่เช่นกัน พี่จะเข้ากรุงเทพแค่เสาร์หรืออาทิตย์เท่านั้นละจ๊ะ”

“ขอบคุณอีกครั้งค่ะพี่กิ่ง” หญิงสาวล้วงหยิบกะเป๋าสตางค์ออกมา

“ไม่ต้องหรอกน้องเก็จ พี่จัดการเอง”

“ไม่ได้หรอกค่ะ”

“เอาน่า...ถือว่าพี่เลี้ยงต้อนรับน้องใหม่ก็แล้วกัน มาเปิดโลกใหม่ จะได้รู้ว่าผู้หญิงไม่ใช่ของตายสำหรับผู้ชายอีกต่อไป”

“ค่ะพี่...เก็จขอตัวนะคะ”หญิงสาวบอกพร้อมกับยันตัวลุกออกจากที่นั่ง เสียบกระเป๋าสตางค์ใบยาวเข้าในกระเป๋าเหมือนเดิม ก้าวเท้าออกไปจากตรงนั้น

หญิงสาวออกมายืนตั้งสติอยู่นอกร้าน มือหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมาและกำแน่นอย่างครุ่นคิด เธอเลือกที่จะค้นกดค้นหาโรงแรมริมหาดสงบๆ สักแห่ง เพราะไม่อยากเข้าบ้านและแบกความเดือดร้อนไปให้คนในครอบครัว เวลานี้เธอต้องการเวลาสำหรับตัวเอง และสถานที่แห่งนั้นก็ต้องปลอดภัยมากพอที่เธอจะนั่งริมหาดได้อย่างปลอดภัย

แต่ในที่สุดเธอก็ต้องเลื่อนโทรศัพท์ออกจากหน้า และหย่อนมันลงที่กระเป๋าเหมือนเดิม ทุกที่แม้จะปลอดภัย แต่คงจะไม่เหมือนบ้านของตัวเอง เธอมีบ้านเก่าของมารดาอยู่ที่ริมหาดวงศ์อำมาตย์พัทยาเหนือ ที่นั่นคงปลอดภัยสำหรับเธอมากที่สุด เพราะรอบข้างของบ้านล้วนเป็นโรงแรมวีไอพีที่มีหาดส่วนตัว หนึ่งในนั้นเป็นโรงแรมดังของน้องเขย ที่อยู่ข้างๆ กันกับบ้านหลังงามของเธอ

ฝนหยุดตกไปนานเกือบชั่วโมง ทิ้งไว้เพียงรอยน้ำให้เห็น พัทยาคงตกไม่หนักเท่ากรุงเทพ ไม่อย่างนั้นคงได้เห็นน้ำเจิ่งนองอยู่บนพื้น

หญิงสาวขับรถออกไปจากตรงนั้น ผ่านโรงแรมหรูหราระดับห้าดาวของน้องเขย ที่นั่นมีระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยม แต่เธอก็เลือกขับเลยเข้าบ้านที่ถูกเปิดไฟรั้วเอาไว้ ยังดีที่เธอมีกุญแจสำรองติดรถไว้ตลอด จึงไม่ต้องไปรบกวนน้องยามดึก บ้านเก่าที่น้องสาวขอให้พนักงานของโรงแรมมาดูแลให้เสมอ ทุกสิ่งรอบบ้านยังดูเหมือนคนอยู่บ้านทุกวัน

แต่พอถึงบ้านพัก ความเงียบเหงาก็เรียกร้องให้เธอเดินออกมาอีกครั้ง ในที่สุดหญิงสาวก็ตัดสินในเดินทอดน่องตามแนวไฟสลัวริมหาดส่วนตัวมาเรื่อยๆ

เก็จมณีหันรีหันขวางอยู่ริมหาด เมืองที่เต็มไปด้วยแสงสี เธอย่อตัวลงนั่งบนผืนทรายที่ยังเปียกชุ่ม มันไม่ได้มากพอที่จะทำให้เธอเปียก เพราะน้ำสามารถแทรกผ่านผืนทรายได้เร็ว และลมก็พัดพาเอาไอความชื้นจากหน้าดินไปอีกทาง

หญิงสาวทอดสายตามองความเวิ้งว้างเบื้องหน้า ทะเลก็ไม่ต่างกับชีวิตของเธอมากนัก ถึงแม้จะมีสิ่งแวดล้อมรอบกายมากมาย แต่ก็ไม่สามารถยึดเกาะอะไรไว้ได้เลย แม้แต่ผืนทรายที่อยู่คู่กัน เหมือนกับชีวิตคู่ ผู้ชายที่คบกันมาและร่วมฝ่าฟัน วันหนึ่งเกิดมีพอใช้จ่าย แต่ความอู้ฟู่ก็พัดพาความไม่รู้จักพอมาด้วย เขาคงไม่ได้คิดถึงคนที่ร่วมฝ่าฟันมาด้วยกัน คงไม่ได้คิดถึงคำสัญญาที่ให้ไว้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel