บท
ตั้งค่า

Ep.4

“ก็แล้วแต่คุณบาบี้จะคิดค่ะ ที่ป้าบอกว่าบิ๊กบอสเป็นเจ้าของบ้านก็เพราะว่ามันมีสิทธิ์เหนือคนอื่นค่ะ เพราะคนที่จะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ต้องผ่านสายตาพิจารณาจากมันก่อน หากมันไม่ชอบมันจะเห่า หากมันเห่าใครก็ตามที่เข้ามาในบ้านหลังนี้แสดงว่าคนๆ นั้นไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะก้าวเข้ามาเดินเล่นในรั้วบ้านค่ะ”

“ฮะ! พูดจริงหรือคะป้า”

รุ้งราตรีไม่อยากจะเชื่อ ว่านี่มันคือการแนะให้คนรู้จักกับเจ้าสุนัขอย่างเป็นทางการของแม่บ้านผู้สูงวัยคนนี้ เธอว่าตนเองพิลึกพิลั่นแล้วนะ แม่บ้านร่างท้วมคนนี้ยังทำตัวพิลึกพิลั่นกว่าเธออีก จะเห็นได้จากที่นางบอกว่าเจ้าสุนัขขนฟูตัวนี้คือเจ้าของบ้าน มีอำนาจจะให้ใครมาพักในบ้านหลังนี้ก็ได้ มันเป็นเรื่องจริงหรือนี่

“โอ มันช่างเหลือเชื่อจริงๆ ค่ะป้า บาบี้ไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อนเลย แต่ก็ขอบใจมากนะเจ้าบิ๊กบอสที่นายไม่เห่าฉัน ไม่อย่างนั้นฉันคงหมดสิทธิ์ที่จะมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้แน่”

รุ้งราตรีเอ่ยยิ้มๆ แกมหวั่นๆ เพราะแววตาของเจ้าบิ๊กบอสที่มองเธอราวกับมันกำลังหิวกระหายในตัวเธออย่างนั้นแหละ แววตาของมันเปลี่ยนไปเมื่อเธอยิ้มให้มันเมื่อครู่นี้ จากเฉยชาเป็นหิวกระหาย

...โอ้ นี่เธอกำลังคิดว่ามันหิวกระหายในตัวเธอได้อย่างไรกัน คิดพิลึกอีกแล้วยัยบาบี้บ๊องเอ๊ย...

สาวน้อยเอ็ดตนเองในใจ หวังว่ามันคงจะไม่กระโดดมาขย้ำคอเธอหรอกนะ ก็ดูตามันสิจ้องเอาๆ ราวกับแววตาของหนุ่มจอมเจ้าชู้ที่เห็นสาวที่ถูกใจแล้วอยากจะฟันเจ้าหล่อนอย่างนั้นแหละ

ไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ยังไม่เคยมีแฟนอย่างเธอคิดลามกแบบนี้ได้ยังไงกันนะ คิดแล้วก็อดขำตนเองไม่ได้ ที่คิดว่าเจ้าตัวโตสี่ขากำลังมองตนเองด้วยสายตาพิศวาสแบบนั้น สงสัยเธอกับแม่บ้านสำลีคนนี้คงจะเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวแหละ เมื่อต่างคนต่างก็คิดพิลึกพิลั่นพอๆ กัน

“บิ๊กบอสถึงตัวมันจะใหญ่ท่าทางดูดุดันแต่มันเป็นสุนัขที่ใจดีมากนะคะ มันชอบปกป้องคุ้มครองคนที่มันรัก หากคุณคุ้นเคยกับมันเมื่อไหร่ คุณอาจจะหลงรักเจ้าบิ๊กบอสตัวนี้จนหัวปักหัวปำก็ได้ค่ะ”

...นั่นไงล่ะ นางคิดและพูดจาพิลึกพิลั่นออกมาอีกครั้งแล้ว แล้วเธอควรจะเชื่อตามที่นางพูดทุกคำหรือเปล่าเนี่ย...

คนชอบคิดพิลึกเหมือนกันหัวเราะออกมาเบาๆ กับคำบอกเล่าของแม่บ้านวัยชรา ก็นางพูดอย่างกับว่าเจ้าสุนัขตัวนี้มันคือหนุ่มหล่อที่แสนมีเสน่ห์ที่สาวๆ คนไหนเห็นและรู้จักแล้วจะต้องตกหลุมรักอย่างนั้นแหละ แต่พอดูรูปร่างหน้าตาของเจ้าสัตว์สี่ขานี่ดีๆ เธอก็รู้สึกว่าถ้ามันเป็นคนจริงๆ มันก็คงจะหล่อเท่ห์ไม่เบาเหมือนกันแหละ

“คิกๆ”

เสียงหัวเราะใสๆ ของหญิงสาวทำให้แม่บ้านร่างท้วมหันมายิ้มให้กับผู้อ่อนวัยกว่าพลางนึกเอ็นดู แต่ทว่าแววตาที่ผ่านโลกมามากของนางกลับเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายที่ใครๆ ก็อ่านไม่ออก

หลังจากคุยกันได้สักพัก รุ้งราตรีก็ถูกปล่อยให้อยู่ในห้องพักตามลำพังคนเดียวเพื่อเก็บข้าวของของตนเองให้เข้าที่และเปลี่ยนชุดใหม่มาอยู่ในชุดกางเกงยีนขาสั้นกับเสื้อยืดพอดีตัวสีชมพูสด เพื่อลงไปเดินเล่นบริเวณสวนสวยหลังบ้านตามที่ตั้งใจเอาไว้ และเธอก็อยากจะไปเที่ยวดูน้ำตกธารดาวที่อยู่ใกล้ๆ รีสอร์ตที่แม่บ้านได้เล่าให้ฟังเมื่อชั่วโมงที่แล้วสักหน่อย

เห็นป้าสำลีบอกว่ามันเป็นน้ำตกที่สวยงามมาก สามารถไปเที่ยวชมคนเดียวได้โดยไม่ต้องกลัวใครมาทำมิดีมิร้าย แต่ต้องกลับมาที่พักภายในครึ่งชั่วโมงหลังจากพระอาทิตย์ลับฟ้าไปแล้ว แต่ถ้าจะให้ปลอดภัยเต็มร้อยต้องกลับเข้ามาในบ้านก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน

ก่อนจะหมุนลูกบิดเปิดประตูออกไปจากห้องพัก ร่างเพรียวบางก็ยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ เมื่อนึกถึงคำเตือนของแม่บ้านวัยชราอีกครั้ง นางห้ามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังมากๆ เชียวแหละ

“คุณจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าคุณกลับมาที่พักก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน”

“ทำไมหรือคะป้า เที่ยวเลยเวลานิดหนึ่งก็ไม่ได้หรือคะ”

“อย่าสงสัยอะไรเลยค่ะ มันเป็นข้อห้ามสำหรับทุกคนที่เข้ามาพักในรีสอร์ตแห่งนี้ ถ้าหากคุณบาบี้ห่วงชีวิตของตัวเอง ก็จงทำตามที่ป้าบอกดีกว่าค่ะ เพราะหากใครก็ตามที่ฝ่าฝืนกฎ ทางเราจะไม่รับผิดชอบชีวิตและทรัพย์สินค่ะ”

ทว่ารุ้งราตรีกลับรู้สึกว่าข้อห้ามของรีสอร์ตเข้มงวดจนเกินไป ทำไมจะต้องกลับที่พักหลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วไม่ได้ เพราะหลังตะวันลับฟ้าใหม่ๆ มันก็ยังไม่มืดมาก ก็น่าจะกลับเลยเวลาที่บอกได้บ้าง เจ้าของร่างบางส่ายหน้าไปมา ก่อนจะอมยิ้มดวงตาเป็นประกายอย่างมีชีวิตชีวาทำท่ายักไหล่ก่อนจะเปิดประตูห้องออกไป

เสียงสายน้ำที่ตกกระทบหินผาดังซ่าๆ มาแต่ไกล พร้อมกับไอเย็นที่พัดปลิวมากับสายลมในช่วงปลายฤดูหนาวที่อากาศกำลังเย็นฉ่ำชื่นใจ ร่างเพรียวระหงยืนสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปจนชุ่มปอดก่อนจะค่อยๆ ก้าวเท้าเรียวไปตามทางเดินแคบๆ ที่ไปสู่น้ำตกใสสะอาดจนเห็นหมู่มัจฉาแหวกว่ายในสายธาราเป็นฝูง

ห่างไกลออกไปจากที่หญิงสาวยืนอยู่ ก็มีนักท่องเที่ยวมาเดินเที่ยวกันเป็นคู่ๆ บ้างก็ลงไปเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน บ้างก็เดินลัดเลาะไปตามสุมทุมพุ่มไม้ ‘แต่การเล่นน้ำคนเดียวก็สนุกดีเหมือนกันนะ’

รุ้งราตรียิ้มให้ตัวเองก่อนจะค่อยๆ เดินลัดเลาะไปตามโขดหินจนถึงแนวน้ำตกที่มีกระดานหินลื่นๆ รองรับเท้าเล็กที่กำลังก้าวเท้าเดินลงไปใกล้แอ่งน้ำใสที่อยู่ไม่ไกลนัก เธออยากจะไปนั่งอยู่ตรงโขดหินก้อนใหญ่ข้างหน้านั่น แล้วแกว่งเท้าเล่นในน้ำใสๆ นั่นจัง

ด้วยความพยายามของคนที่หวาดกลัวว่าตนเองจะตกน้ำ แต่อยากจะไปนั่งแกว่งเท้าในน้ำตกใสๆ แสนเย็นฉ่ำ ก็เป็นผลสำเร็จในสองสามนาทีต่อมา สาวน้อยยิ้มเริงร่าอย่างมีความสุข ที่ในที่สุดเธอก็สามารถเดินมาตามแผ่นหินที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำจนถึงโขดหินก้อนใหญ่ที่หมายตาเอาไว้จนสำเร็จ

มือเรียววักน้ำเล่นไปมา สายตาก็กวาดมองทิวทัศน์ที่สวยงามรอบๆ ตัว ขาเรียวขาวนวลผ่องก็แกว่งอยู่ในแอ่งน้ำใสไปมาอย่างสบายอารมณ์ นานๆ ทีถึงจะมีโอกาสมาเที่ยวในสถานที่เป็นธรรมชาติสวยงามแบบนี้สักครั้ง จากนาทีนี้ไปจนถึงเย็นเธอจะขอเดินเที่ยวรอบๆ น้ำตกแห่งนี้ให้หนำใจไปเลย

หลังจากนั่งแกว่งเท้าเล่นในน้ำใสเย็นฉ่ำจนหนำใจแล้ว รุ้งราตรีก็ลุกขึ้นเดินลัดเลาะไปตามแมกไม้สีเขียวขจีที่แซมด้วยดอกกล้วยไม้ป่าหลากสีเป็นระยะๆ อย่างเบิกบานใจ ราวกับได้มาเดินเล่นบนดินแดนสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน เพราะระบบนิเวศรอบๆ น้ำตกแห่งนี้ เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพฤกษานานาพันธุ์มากที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา

พันธุ์ไม้หลายชนิดที่ไม่รู้จักไม่เคยเห็น ดูเขียวสดแซมด้วยเถาวัลย์ไม้เลื้อยที่มีรากห้อยย้อยลงมา เหมือนแดนสนธยาที่เคยดูในรายการสารคดียามเย็นทางโทรทัศน์บ่อยๆ แต่ธรรมชาติที่นี่มันสวยร่มรื่นน่าอภิรมย์ยิ่งกว่านั้นหลายเท่านัก ความสวยงามของธรรมชาติ ทำให้หญิงสาวลืมข้อห้ามที่แม่บ้านสำลีเตือนเอาไว้ก่อนมาเสียสนิท

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel