บท
ตั้งค่า

Ep.2

“สัญญาก็ได้ค่ะ ว่าหนูจะไม่เอ่ยชื่อของผู้ชายคนนั้นให้ใครฟัง” แม้ว่าจะยังไม่ค่อยเข้าใจเจตนารมณ์ของผู้เป็นพ่อว่าทำไมถึงเอ่ยชื่อผู้ชายคนนั้นให้ใครฟังไม่ได้ และทำไมจะต้องเก็บชื่อของผู้ชายคนนั้นไว้เป็นความลับมากถึงขนาดนั้น แต่รุ้งราตรีก็เลือกที่จะเก็บความสงสัยนั้นไว้กับตัวเอง หวังว่าไม่นานเธอคงจะรู้คำตอบในทุกๆ เรื่องที่คาใจ

รุ้งราตรีก้มมองกระเป๋าเดินทางใบโตแล้วถอนหายใจยาวออกมาเฮือกใหญ่ ตั้งแต่เล็กจนโตเธอใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมืองหลวง ไม่เคยที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างจังหวัดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่รู้เหมือนกันว่าการไปทำงานแทนบิดาในครั้งนี้ ในจังหวัดที่อยู่เกือบเหนือสุดของประเทศไทยเธอจะทนทำงานอยู่ที่นั่นได้นานสักกี่วัน

รีสอร์ตแสนร่มรื่นตรงหน้า ปกคลุมไปด้วยพฤกษานานาพันธุ์ที่ออกดอกสวยงามสะพรั่งหลากสี ท่ามกลางสายลมหนาวที่กำลังพัดโชยเย็นสบายในยามสายของวันนี้ บ้านพักแต่ละหลังในสไตล์อิงลิชคันทรี ที่แทรกอยู่ในแมกไม้ใหญ่สีเขียวขจีดูโออ่าหรูหราน่าอยู่ราวกับวิมานในฝันในสายตาของสาวน้อยร่างเพรียวบาง ที่กำลังกวาดสายตามองสถาปัตยกรรมและสวนสวยที่งดงามสุดพรรณนาไปรอบๆ ตัว

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนที่เป็นเจ้าของรีสอร์ตแห่งนี้คงจะร่ำรวยมากๆ แต่ไม่มีใครรู้ว่าอภิมหาเศรษฐีที่เป็นเจ้าของสิ่งก่อสร้างที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติแสนสมบูรณ์คนนี้เป็นใคร เพราะคนที่ควบคุมดินแดนราวกับภาพฝันนี้เป็นเพียงตัวแทนเท่านั้น สาเหตุที่หญิงสาวรู้เพราะบิดาของเธอเป็นคนบอกเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเมื่อไม่นานมานี้เอง

ร่างอรชรขาวผ่องอมชมพูที่มีทรวงอกอวบอึ๋มเกินตัวด้วยวัยสาวสะพรั่ง ถอนหายใจยาวๆ เมื่อนั่งแท็กซี่มาจนถึง อรุณดารา รีสอร์ต

รุ้งราตรีไม่ต้องการให้รถของรีสอร์ตไปรับ เธอต้องการจะเดินทางไปไหนมาไหนด้วยตนเอง เฉกเช่นเดียวกับเด็กสาวทั่วไปที่ใช้ชีวิตแสนธรรมดา ไม่ยึดติดกับความสะดวกสบายที่บิดาของเธอพยายามจะหยิบยื่นให้ แม้ว่าจะเกิดมาในครอบครัวระดับกลางเข้าขั้นร่ำรวย แต่รุ้งราตรีก็ใช้ชีวิตติดดินยิ่งกว่าพวกบ้านนอกที่ทำตัวไฮโซซื้อของแพงๆ มาใช้เพื่อยกระดับฐานะของตนเองเสียอีก เธอชอบแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงยาวคล้ายชุดแขกผสมกับชุดแม้วทางภาคเหนือของไทย ชอบสะพายกระเป๋าโนเนมที่ถักด้วยมือ ชอบสวมรองเท้ายี่ห้อถูกๆ คู่ละไม่กี่ร้อยบาทที่มีสายผูกเส้นเล็กๆ ส้นสูงไม่เกินสามนิ้ว หญิงสาวชอบปล่อยผมสีน้ำตาลเข้มที่เป็นเงาดุจแพรไหมซึ่งยาวจนถึงบั้นเอวคอดกิ่วให้แผ่กระจายเต็มแผ่นหลังแบบบาง

เส้นผมดกหนาที่ทิ้งตัวอย่างมีน้ำหนักเคลียคลอรอบกรอบหน้าเรียวรูปไข่ ถูกคาดทับด้วยเส้นผมที่ถักเปียเป็นรูปหัวใจไขว้ไปทางด้านหลังแลดูสวยงามเสริมให้ใบหน้าอ่อนเยาว์เปล่งปลั่งดูสวยซึ้งหวานล้ำเกินคำบรรยาย สองสิ่งบนใบหน้าเรียวสวยที่บอกว่าเธอไม่ใช่สายเลือดไทยแท้ๆ ก็คือ ดวงตาคมสีเข้มเป็นเอกลักษณ์และจมูกโด่งเชิดเรียวเล็กไปทางโซนตะวันตก สาวน้อยยืนหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ ตัวด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่แต้มบนใบหน้างดงามสดใสตลอดเวลา เธอกำลังรู้สึกประทับใจกับธรรมชาติที่สวยงามตรงหน้า

ตอนที่ได้รับคำสั่งจากบิดาตอนแรกก็รู้สึกไม่ค่อยชอบใจนักหรอก แต่พอได้มาเยือนวิมานแสนสวยราวกับภาพฝันนี้ด้วยตาตัวเอง หญิงสาวก็รู้สึกชอบมันขึ้นมาทันที พลันสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับเจ้าสุนัขตัวโตขนฟู ดูเผินๆ มันก็คล้ายสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ แต่ดูชัดๆ อีกทีมันเหมือนหมาป่ามากกว่า แล้วใครนะช่างกล้าเอาสุนัขหน้าตาท่าทางดุร้ายเช่นนี้มาเลี้ยง หญิงสาวนึกสงสัย

เจ้าสัตว์สี่ขารูปร่างเพรียวสง่ากำลังจ้องเขม็งมาทางผู้มาใหม่ด้วยแววตาวาววับน่ากลัว ท่าทางของมันดูทระนงองอาจราวกับสุนัขป่าเมืองหนาวที่ดำรงชีวิตด้วยการล่าเนื้อ แต่เจ้าตัวโตที่เห็นนี้ คงไม่คิดที่จะกินเนื้อมนุษย์เป็นอาหารหรอกนะ พลันรุ้งราตรีก็นึกถึงความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา

...ให้ตายเถอะ สัตว์โลกที่เธอกลัวมากที่สุดไม่กี่ชนิดหนึ่งในนั้นก็คือสุนัขแปลกถิ่นนี่แหละ...

สุนัขที่เลี้ยงเองกับมือหญิงสาวไม่ค่อยกลัวนัก แต่สุนัขทุกตัวไม่ว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ที่ไม่เคยคุ้นกับมันเธอกลัวทั้งนั้น เพราะความทรงจำเลวร้ายเกี่ยวกับพวกสุนัขแปลกถิ่นเมื่อครั้งยังเด็ก ยังฝังจำอยู่ในใจไม่เคยลืม

เมื่อครั้งหนึ่งตอนที่เธออายุประมาณสิบขวบ ขณะที่กำลังปั่นจักรยานไปเที่ยวหาเพื่อนในชุมชนแห่งหนึ่งแถบชานเมืองด้วยจักรยานสองล้อคู่ใจ สุนัขหลายตัววิ่งกรูกันเข้ามาหาเธออย่างประสงค์ร้าย พวกมันทั้งเห่าทั้งพยายามกระโดดงับเท้าขณะที่เธอพยายามปั่นล้อถีบให้เร็วสุดฤทธิ์ เสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวดังไปแปดบ้าน จนชาวบ้านพากันแตกตื่นออกมาดูและช่วยกันปาก้อนหินใส่พวกสุนัขจรจัดเหล่านั้นจนมันวิ่งหนีไป แต่ความกลัวในวันนั้นก็ยังจำฝังใจมาจนถึงนาทีนี้ โดยเฉพาะนาทีที่เธอกำลังเผชิญหน้ากับเจ้าสุนัขน่ากลัวตัวนี้

เหตุการณ์ในอดีตคราวนั้นทำให้รุ้งราตรีไม่คิดที่จะไว้ใจสุนัขตัวใดๆ ในโลก ที่เธอไม่เคยเอาข้าวให้มันกินอีกเลย ร่างเล็กพยายามหยุดอยู่นิ่งๆ พยายามที่จะจ้องตามันด้วยแววตาที่เป็นมิตร พยายามยิ้มให้เจ้าสัตว์หน้าดุ เธอเคยดูรายการโชว์การแสดงของสุนัขที่ได้รับการฝึกฝนมาบ้างเหมือนกัน ที่ครูฝึกเขาบอกว่า หากเราเจอสุนัขแปลกถิ่น พยายามอย่าเข้าไปใกล้มัน เพราะพวกสัตว์จะหวงอาณาเขตของมันมาก และพยายามอย่าวิ่งหนีหากอยู่ในระยะเผาขน แต่ให้เดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ ด้วยท่าทางปกติทำเป็นไม่สนใจมันจะดีกว่า

เท้าเล็กๆ จึงค่อยๆ ก้าวเดินเข้าไปยังตึกสูงข้างหน้าซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นตึกสำนักงานของรีสอร์ต และเจ้าสุนัขตัวนั้นก็ไม่ได้ตามเธอมาจริงๆ เมื่อหันกลับไปมองมันอีกครั้ง เจ้าสัตว์สี่ขาสีขาวแซมเทาก็หายไปจากตรงนั้นแล้ว และเบื้องหน้าก็มีร่างสูงสง่าของผู้ชายคนหนึ่งในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำที่สอดชายเสื้อไว้ในกางเกงยีนสีเข้มมีเข็มขัดคาดทับอีกที หุ่นของผู้ชายคนนี้ดูดีกว่านายแบบหลายคนเสียอีก แต่ไม่ใช่แค่รูปร่างของเขาเท่านั้น ใบหน้าที่คมสันของเขายังหล่อเข้มมีเสน่ห์ชวนมอง ท่าทางของเขาดูเป็นมิตร ชายหนุ่มส่งยิ้มมุมปากมาให้ด้วยประกายตาชื่นชมเธออย่างเปิดเผย

ดวงตาช่างสำรวจมองการแต่งตัวของผู้ช่วยสาวด้วยความทึ่งจัด และได้ข้อสรุปว่าเจ้าหล่อนมีความเป็นเอกลักษณ์ในตนเองสูงมาก แต่งตัวไม่สนโลกแบบนี้ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มอมทองคู่สวยมีแววฉลาดเฉลียวทันคน จมูกเล็กที่โด่งเชิดนิดๆ บ่งบอกถึงความดื้อรั้นในตนเอง แต่จุดเด่นทั้งหมดที่ดึงความสนใจเธมมากที่สุดก็เห็นจะเป็นใบหน้าสวยหวานแปลกๆ ของสาวมาดเซอร์คนนี้

“สวัสดีครับเลดี้ คุณช่างเป็นสุภาพสตรีที่งดงามมาก ผมเธม เป็นผู้ดูแลรีสอร์ตแห่งนี้ครับ คุณคงเป็นลูกสาวของคุณเรืองฤทธิ์”

ร่างสูงค้อมศีรษะให้เล็กน้อยเมื่อเอ่ยทักทายหญิงสาวอย่างสุภาพ เพราะว่าเคยเห็นหญิงสาวในรูปถ่ายที่ลูกน้องคนสนิทเอามาให้ดู ก่อนที่สาวน้อยจะเดินทางมาก่อนหน้านี้แล้วนั่นเอง จึงทำให้เธมหนุ่มหล่ออารมณ์ดีจำเธอได้ตั้งแต่แรกเห็น

ผู้ชายคนนี้หน้าตาดีเป็นบ้าเลย แต่ก็ไม่ใช่สเป็คชายในฝันของเธอหรอก เพราะเขาดูหล่อเนี้ยบจนเหมือนเพื่อนเกย์บางคนของเธอเสียมากกว่า แต่เขาก็ดูดีมีเสน่ห์ใช้ได้ทีเดียว รอยยิ้มที่แต้มบนใบหน้าคมสันที่ส่งมาทำให้สาวน้อยรูปร่างเพรียวบางต้องส่งยิ้มกลับไปทักทายชายหนุ่มตามมารยาท

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel