บทที่ 1 (ลิขิตฟ้ามายารัก)
บทที่ 1 ลิขิตฟ้ามายารัก
ณ ป่าโบราณอันสงบ อบอวลด้วยละอองสายหมอกสีรุ้งเจือจางในช่วงผลัดฤดูกาลจากฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูหนาวที่ จะอยู่ยาวนานเพียงจันทร์เต็มดวงห้าหรือหกครา หากปีนี้แค่ต้นฤดูแต่อากาศกลับหนาวเย็นลงอย่างรวดเร็ว กลางคืนอากาศเย็นจัดจนหยาดน้ำค้างจับตัวเป็นเกร็ดดุจน้ำแข็ง กลางวันอากาศกลับอบอุ่นมากขึ้นแต่มีลมพัดแรงพาฝนหิมะมาตกโปรยปรายไม่ขาดสายอันเป็นสัญญาณให้ทุกชีวิต ณ ป่าโบราณรู้ว่าอาจจะมีปรากฏการณ์ที่เกิดพายุลมแรงจัดพัดขึ้นเมื่อใดก็ได้ ทุกชีวิต จึงมักเก็บตัวอยู่ในถ้ำที่พักอาศัยอันแสนอบอุ่น
ในฤดูนี้ทุกพื้นโลกที่อยู่อาศัยของเหล่าชีวิตอมตะจะมีเกร็ดหิมะทับถมแน่นหนาอยู่ทั่วไป แม้อากาศหม่นมัวเหน็บหนาวอย่างนี้จะไม่มีผลใดต่อสุขภาพร่างกายอันเป็นอมตะของพวกเขา แต่ทุกสรรพชีวิตกลางป่าโบราณจะเก็บตัวอยู่แต่ในถ้ำหรือโพรงที่อยู่อาศัย โดยกลุ่มที่มีบริวารอยู่มากจะเข้ามาอยู่ในใจกลางภูเขาลูกใหญ่ที่ถูกนิรมิตเป็นห้องคูหาอันสวยงามตามความชอบของแต่ละกลุ่มอันเป็นมนุษย์กึ่งภูตพรายที่บางตนอาจมีสภาวะใกล้เคียงกับเทพ และทางตะวันออกของป่าโบราณแห่งนี้ เป็นที่พำนักของกลุ่มสิงหราหนึ่งในเผ่าพันธุ์ชีวิตอมตะผู้ครอบครองเทือกเขาสูงชันอันอุดมสมบูรณ์ด้วยผืนป่าและลำธาร
ป่าโบราณในโลกอมตะจะมีกลุ่มร่างแปลงหรือเหล่ามนุษย์กึ่งภูตพรายหลายกลุ่ม แต่เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆที่มีบริวารสิบหรือยี่สิบตนเป็นส่วนใหญ่ และผู้นำที่เข้มแข็งที่สุดก็มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือ กลุ่มของเลโอไนดัส ผู้มีต้นกำเนิดมาจากอัศวินผู้นำกองทัพ และมีความเก่งกล้าเหนือมนุษย์กึ่งภูตพรายตนอื่นๆ
ตามปกติเหล่ามนุษย์กึ่งภูตพรายในโลกอมตะจะเก็บตัวอยู่ในถ้ำที่พำนักยามกลางวันและใช้ร่างแปลงออกเที่ยวหาอาหารยามค่ำคืนจนเกือบรุ่งสางจึงกลับเข้าที่พำนักอาศัยเพราะอิ่มหนำสำราญกันถ้วนหน้าแล้ว และพวกเขาจะไม่กล้ำกรายเข้าไปใน เขตแดนอีกโลกหนึ่งโลกใดที่มีแสงแดดแผดจ้าเพราะแสงสว่างแรงร้อนจากดวงอาทิตย์เป็นอันตรายกับชีวิตอมตะเป็นอย่างยิ่ง จึงเป็นเสมือนกฎหรือข้อห้ามที่พวกเขาต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตลอดไป
เลโอไนดัส ผู้นำกลุ่มไลออนเนสหรือกลุ่มสิงหรา เป็นผู้นำหนุ่มที่มีชีวิตยาวนานผ่านมาหลายร้อยปี เขามาพำนักอาศัยอยู่ในป่าโบราณบนเทือกเขาสูงทางทิศตะวันออกกับเพื่อนพ้องสิบสี่ชีวิต แต่ด้วยความเข้มแข็งเก่งกล้าไม่มีใครเทียมจึงมีมนุษย์กึ่งภูตพรายหรือร่างแปลงเผ่าพันธุ์เดียวกันตนอื่นขอเข้ามาอยู่ในกลุ่มเพิ่มขึ้นจนเขามีบริวารมากกว่าสามสิบชีวิต
ผู้นำกลุ่มสิงหรามีรูปลักษณ์บุรุษงดงามราวเทพบุตรเป็นที่สะดุดตาต่อผู้พบเห็นด้วยสีผมน้ำตาลเข้มส่องประกายสีทองอร่ามและสีดวงตาคมกล้าสีทองอำพันเจิดจรัส ลักษณะนิสัยสุขุมลุ่มลึกเยือกเย็นที่เกือบจะเรียกได้ว่าเย็นชาเป็นบุคลิกน่าเกรงขามละม้ายเหมือนดั่งสิงโตเจ้าป่า จึงทำให้เขาได้รับฉายาจากเพื่อนในโลกอมตะว่า ไลออนเนส หรือ สิงหรา และเป็นที่เกรงขามต่อมนุษย์กึ่งภูตพรายหรือเหล่าชีวิตอมตะที่มีร่างแปลงกลุ่มอื่นๆในโลกชีวิตอมตะนี้
ผู้นำกลุ่มสิงหรามีสาวสวยเป็นคู่ครองอยู่สามคน โดยมี ลิซ่ากับลันทาเป็นคู่อยู่มานานนับร้อยปี จนกระทั่งมีซิมเวย์สาวสวยงามสะพรั่งที่เขาช่วยให้รอดจากเงื้อมมือเหล่าบริวารปีศาจร้ายที่มักจะเข้ามาแสวงหาความสุขจากหญิงสาวทุกกลุ่มในโลกชีวิตอมตะ มิให้พวกปีศาจพาหล่อนไปยังโลกมืดของพวกมัน และพาหล่อนเข้ามาอยู่ในกลุ่ม ซึ่งต่อมาหล่อนได้ทำให้เขาลุ่มหลงในตัวหล่อนจากจริตมารยาอิสตรีผู้มีเล่ห์เหลี่ยมจัด
ซิมเวย์เป็นหญิงสาวผู้มีรูปลักษณ์สวยเย้ายวน ผิวขาวผ่องของหล่อนส่งให้เรือนร่างอวบอิ่มงามสะคราญเป็นที่เสน่หาของบุรุษ แต่ในท่าทีร่าเริงสดใสแบบสาววัยกำดัดซิมเวย์กลับมีวิสัยกล้าคิดกล้าพูดกล้าทำอย่างต้นกำเนิดจากมนุษย์หญิงสาวของโลกยุคใหม่ที่ให้อิสระเสรีแก่สตรีเท่าเทียมบุรุษ โดยความกล้าแสดงออกของหล่อนกลายเป็นที่ชื่นชอบของบุรุษผู้เก่งกล้าอย่างเลโอไนดัส และภายหลังลิซ่ากับลันทาต้องจำยอมสละตำแหน่งคู่ครองของผู้นำกลุ่มให้แก่หล่อน เพราะตั้งแต่ซิมเวย์เข้ามาอยู่ร่วมกลุ่ม ผู้นำหนุ่มเลโอไนดัสแทบไม่เหลียวแลคู่ครองเก่าสองคนอีกเลย
“เจ้าจะไปจริงๆหรือลิซ่า”
“จริงสิ และนี่ก็เป็นเวลาเหมาะที่สุดแล้ว หิมะตกอย่างนี้ ไม่มีใครสนใจจะออกมาข้างนอกหรอก” ร่างแปลงสุนัขป่าของ ลิซ่ากับลันทาส่งกระแสจิตสนทนากัน
ทั้งสองแฝงตัวหลบออกมาจากถ้ำคูหาที่อาศัยในเวลาที่ทุกคนกำลังพักผ่อน ยิ่งมีหิมะตกโปรยปรายยิ่งไม่มีใครสนใจใคร พวกเขามักจะหลบอยู่ในคูหาของใครของมัน การออกมาของทั้งสองจึงไม่มีใครพบเห็น เป็นการตัดสินใจของลิซ่าที่ต้องการจากไป หล่อนทนไม่ได้กับสภาพที่เห็นชายคนรักเคลียคลออยู่กับหญิงจอมมารยาสาไถย
“เจ้าตัดสินใจแน่แล้วหรือลิซ่า”
“ข้าตัดสินใจแน่แล้ว แต่เจ้าล่ะลันทา จะตามข้าไปจริงๆหรือ”
ร่างแปลงสุนัขป่าขนสีเทาอ่อนหางเป็นพวงยาวขาวสะอาดก้าวเดินอยู่ข้างหน้าหยุดหันกลับมามอง พลางจ้องตาและส่งกระแสจิตถามร่างแปลงที่ตามมาด้วยกัน
“จริงสิ ข้าอยู่ที่นี่ไม่ได้ ถ้าไม่มีเจ้า แล้วเราควรจะไปที่ไหนกันล่ะ ป่าโบราณของโลกเราดูกว้างขวางอยู่ก็จริง แต่มีผู้นำกลุ่มเก่งกล้าอยู่ไม่กี่กลุ่มเอง และไม่มีใครเก่งเท่ากลุ่มของเลโอไนดัสไม่ใช่หรือ”
ร่างแปลงสุนัขป่าตัวสีเหลืองอ่อนแต้มขาวส่งกระแสจิตตอบและถาม นางจำเป็นต้องตามลิซ่ามาด้วยความคุ้นเคยการมีลิซ่าอยู่ด้วยเหมือนมีพี่เลี้ยงอยู่ข้างกาย หากขาดพี่เลี้ยงหล่อนก็อยู่กับกลุ่มสิงหราไม่ได้
“ข้าจะไปอยู่กับกลุ่มจิ้งจอกขาวหรือกลุ่มวูลฟ์ไวท์ทางป่าโบราณฟากตะวันตก กลุ่มนี้ก็มีผู้นำกลุ่มที่เข้มแข็งเหมือนกัน ผู้นำวูลฟินของกลุ่มวูลฟ์ไวท์เป็นบุรุษที่มีชีวิตยาวนานเช่นกันกับเลโอไนดัส และเขาถือกำเนิดมาจากบุรุษจิตใจกล้าหาญเปี่ยมด้วยความเมตตาและรักสงบ”
“กลุ่มสิงหราก็เป็นกลุ่มที่รักสงบ และเลโอไนดัสก็เป็นผู้นำกลุ่มที่ดีไม่ใช่หรือ”
“ข้ารู้ แต่เวลานี้ เขามีซิมเวย์อยู่แล้ว เขาให้ความสนใจนางมากกว่าเจ้ากับข้า ข้าไม่ต้องการอยู่เป็นคู่แข่งหรือแย่งชิง เขากับใคร”
“ก็เขาทั้งเก่งทั้งรูปงามและใจดี นอกจากซิมเวย์แล้วก็ยังมีผู้หญิงในกลุ่มอีกหลายคนสนใจเขา และพวกนางก็คอยโอกาสจะเข้าถึงตัวเขาเพื่อจะเลื่อนขั้นเข้ามาเป็นคู่ครองของเขาเหมือนอย่างเจ้ากับข้า”
“และนับวันจะยิ่งวุ่นวาย การทะเลาะเบาะแว้งกับพวกนางทำให้ข้าเบื่อหน่าย”
“โดยเฉพาะซิมเวย์กับเคธี่ พวกนางต่างไม่มีมารยาทหรือเกรงใจเจ้ากับข้าที่เป็นคู่ของเลโอไนดัสมาก่อน ข้าเกลียดซิมเวย์ที่นางคอยกันท่าไม่ให้เราได้เข้าถึงเลโอไนดัส แต่ยิ่งรำคาญเคธี่ที่คอยหาโอกาสเข้าหาเลโอไนดัสยามที่พวกเราเผลอ ซิมเวย์ คงกลัวเคธี่เข้ามาแย่งการเป็นที่หนึ่งของนางไปจึงคอยจับผิดให้เป็นเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่บ่อยๆ”
“ข้าอยากมีชีวิตที่เงียบสงบอย่างที่กลุ่มของวูลฟ์ไวท์เป็นอยู่ ผู้นำกลุ่มวูลฟินเป็นบุรุษรักสันโดษ กลุ่มของเขามีผู้หญิงน้อยเกินกว่าจะก่อให้เกิดความวุ่นวาย ข้ารู้มาว่าหัวหน้าวูลฟินไม่สนใจในอิสตรีนัก หากก็ไม่ได้รังเกียจจะรับเข้ากลุ่ม ส่วนใหญ่จะอยู่ร่วมกันอย่างเพื่อนพี่น้องเสียมากกว่า ข้าจึงคิดว่ากลุ่มของ วูลฟินจะให้สิ่งที่ข้าต้องการได้ แล้วเจ้าล่ะ ลันทา แน่ใจแล้วหรือว่าจะไปกับข้า”
“ข้าอยู่ในการดูแลของเจ้ามาตลอด ข้าไม่มีใครที่นี่นอกจากเจ้า เจ้าเป็นเหมือนพี่สาวของข้า ไม่ว่าเจ้าจะไปอยู่ที่ไหนข้าก็ขอตามไปอยู่ที่นั่นกับเจ้าด้วย”
“ทั้งที่ต้องไปจากเลโอไนดัสหรือกลุ่มที่เจ้าเคยอยู่รึ”
“บางทีข้าอาจจะมีความสุขกับกลุ่มจิ้งจอกขาวของผู้นำ วูลฟินที่รักสันโดดนั่นเหมือนอย่างเจ้าก็ได้ ข้าเองก็เบื่อความวุ่นวายที่นี่เช่นกัน”
“ก็ตามใจ แต่ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหน ข้าก็จะดูแลเจ้าอย่างดี”
สองชีวิตภูตพรายของหญิงสาวในร่างแปลงสุนัขสวยงามเดินมุ่งหน้าไปตามทิศทางอันเป็นจุดหมายได้สักพัก ลมเริ่มพัดแรงมากขึ้นพร้อมนำพาฝนหิมะโปรยปรายลงมาเป็นละอองหนามากขึ้น อันเป็นสัญญาณเตือนให้ร่างแปลงทั้งสองรู้ว่าอีกไม่นานจะมีหิมะตกหนัก สองร่างต่างเร่งฝีเท้าวิ่งฝ่าฝนหิมะเข้าหาที่พักกำบังเพื่อความปลอดภัย
