บทที่ 1 ตอนที่ 3
เรื่องนี้คุณหญิงกัญญาเองไม่เคยปริปากพูด แต่ก็ไม่เชิงปิดบังเสียทีเดียวเหมือนไม่อยากเอ่ยถึงมากกว่า เพราะหลายครั้งท่านมักจะหลุดปากค่อยแคะหล่อนเกี่ยวกับเรื่องในอดีตอยู่เสมอ
ตอนเด็กๆ หล่อนยังไม่เข้าใจ พอโตขึ้นมาก็เรียนรู้จากคำบอกเล่าของคนอื่นๆ ในบ้าน ซึ่งบางคนก็อยู่ในช่วงเหตุการณ์นั้นด้วยเพราะทำงานให้คุณหญิงมานาน โดยเฉพาะป้าพิมพ์...และป้าใจและป้าณี แม่บ้านและแม่ครัวรุ่นใหญ่
ทั้งสามเล่าให้หล่อนฟังและหล่อนก็นำมาปะติดปะต่อจนได้ความ...
คุณหญิงและสามีแต่งงานกันเพราะทางผู้ใหญ่เห็นชอบ ทั้งที่ในตอนนั้นคุณหญิงอายุยังน้อย วัยเพียงสิบเจ็ดปีเศษ และสามีอายุยี่สิบห้าปี เมื่อแต่งงานกันได้เพียงปีเดียวคุณหญิงก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดฏสินตร์เป็นทายาทสืบสกุล
ทั้งคู่อยู่กินกันปกติ โดยสามีของคุณหญิงมีบริษัทรับเหมาก่อสร้าง จึงมักต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยๆ เพื่อดูงาน ทางด้านคุณหญิงก็ไปด้วยบ้างในบางครั้ง แต่ส่วนมากจะอยู่ดูแลลูกรวมถึงกิจการร้านเบเกอร์รี่เล็กๆ
หลายปีผ่านไปทุกอย่างราบรื่นด้วยดีมาตลอดจนกระทั่งฏสินตร์อายุได้สิบเจ็ดปี เรื่องร้ายก็เกิดขึ้น...สามีของคุณหญิงพาเมียน้อยเข้ามาอยู่ในบ้าน เกิดเหตุทะเลาะเบาะแว้งกันรุนแรงถึงขั้นลงไม้ลงมือจนคุณหญิงได้รับบาดเจ็บนอนโรงพยาบาลอยู่เป็นอาทิตย์
เมื่อออกจากโรงพยาบาลทางผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายจึงตกลงให้ทั้งคู่หย่าร้างกัน โดยสมบัติทั้งหมดต้องยกให้คุณหญิงเนื่องจากไม่ได้เป็นคนผิด ฝั่งสามีก็เลือกผู้หญิงคนใหม่ที่ทราบภายหลังว่าเป็นแม่หม้ายมีลูกติดอายุเพียงสามขวบ และย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่นโดยไม่มีใครทราบนับแต่นั้นมา
ฝ่ายคุณหญิงยังอาลัยในความรักต่อสามี ถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ ตรอมใจและคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง โดยฏสินตร์รับรู้เหตุการณ์ทั้งหมดมาโดยตลอด และต้องกลายเป็นหัวหลักของครอบครัวทั้งที่อายุยังน้อยไปโดยปริยาย คุณหญิงป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ต้องพบจิตแพทย์เพราะรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัวไม่ได้
คนสองคนที่ใช้ชีวิตร่วมกันมาเป็นสิบกว่าปี จู่ๆ เพียงเวลาไม่กี่เดือนก็ต้องเลิกร้างกันไปเพราะมีมือที่สามซึ่งแทรกตัวเข้ามาเพียงไม่นาน แม้จะได้รับผลประโยชน์มหาศาลแต่มันก็ชดเชยทดแทนความเจ็บปวดในหัวใจของคุณหญิงไม่ได้เลย
ท่านยังออกตามหาสามีอันเป็นที่รักด้วยความคิดถึง กระทั่งสืบรู้ที่อยู่ของผู้หญิงคนนั้นแต่เมื่อไปถึง...กลับพบเพียงเด็กน้อยซึ่งถูกทิ้งให้อยู่กับยายแก่ๆ สภาพน่าอเนจอนาถใจคุณหญิงจึงรับมาเลี้ยงดูด้วยความเวทนา
ลึกๆ ก็หวังใช้ประโยชน์จากเด็กคนนี้ ว่าในอนาคตแม่ของเด็กคงตามมาหาและได้รู้ว่าเด็กอยู่ที่ไหน เมื่อนั้น...ท่านก็คงได้พบกับสามีอีกสักครั้งหนึ่ง
พรพระจันทร์เอง...เมื่อได้รับรู้เรื่องราวเหล่านั้นก็เข้าใจคุณหญิงและลูกชายอย่างลึกซึ้ง ว่าพวกเขาเจ็บปวดมากมายแค่ไหน ต้องใช้เวลานานตั้งเท่าไหร่กว่าจะเรียนรู้การใช้ชีวิตโดยขาดเสาหลักไปอย่างกะทันหัน แต่จะมีใครรับรู้หรือไม่ว่าหล่อน...ก็ได้รับบาดแผลจากเรื่องเหล่านั้น และระทมใจตราบเท่าทุกวันนี้ เช่นกัน...
