บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 9 ทำงาน

ทำงาน

คอนโดหรูใจกลางเมือง@ปุยเมฆ

"ยัยเตี้ย!...เสร็จยัง? ฉันมีประชุมเช้าน่ะวันนี้ แล้วฉันก็ต้องเข้าบริษัทอีกด้วย" เสียงเข้มตระโกนบอก เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วออกมานั่งรอต้นข้าวอยู่พักใหญ่

"เสร็จแล้วค่า" พร้อมกับเปิดประตูออกมา

"ชักช้า...ลดน้ำหนักบ้างน่ะ จะได้ทำอะไรเร็วๆกว่านี้หน่อย" เสียงเอ่ยาเหน็บแนมออกมา

"คุณว่าฉันอ้วนอีกแล้วเหรอ" ต้นข้าวต่อว่าซุปตาร์หนุ่มกลับทันที

"อืม...ก็รู้ตัวเองนี้"

"ฉันไม่ได้อ้วนสักหน่อย...หุ่นแบบนี้แหล่ะ น่าฟัดจะตาย คุณอย่ามาหลงเสน่ห์หุ่นของฉันก็แล้วค่ะ อ้ายเมฆ!" ต้นข้าวเอ่ยแย้งขึ้นมา แล้วก็พูดขึ้นอย่างจริงจัง พร้อมกับยักคิ้วใส่อย่างท้าทาย

"เห๊อะ...ไม่มีทาง ฉันมันระดับไหน แล้วเธออยู่ระดับไหน ควรจะรู้ตัวเองดีน่ะ แค่หุ่นก็ยังไม่ได้ครึ่งสเปคของฉันแล้ว ยัยเตี้ย!" ปุยเมฆยืนกรานสวนกลับต้นข้าวทันที

"ใครจะไปหุ่นดี เหมือนแม่นางเอกสาวของคุณล่ะค่ะ ได้ข่าวว่าผู้ใหญ่ก็เห็นดีเห็นงามด้วยหนิ่ ถ้าจะเปลี่ยนจากคู่จิ้น มาเป็นคู่จริง ทำไมไม่ลองดูล่ะค่ะ" ต้นข้าวเอ่ยขึ้นมาอย่างประชดประชันใส่ซุปตาร์หนุ่มทันที

"นั่นมันเรื่องของฉัน...ไปได้กันแล้ว พูดมากอยู่ได้" เสียงทุ้มกล่าว แล้วเดินนำหน้าออกจากห้องไปทันที

อีกด้าน

สองพ่อลูกมาถึงที่บริษัท ปุยนุ่นเดินตามบิดาไปอย่างว่าง่าย เพราะวันนี้บิดาของเธอบอกว่ามีประชุมช่วงเช้าด้วย แล้วค่อยไปออกกองช่วงบ่าย นรวิชญ์จึงเดินไปส่งลูกสาวไว้ที่ห้องทำงานของเขาก่อน

"ปุยนุ่นรอพ่ออยู่ที่ห้องนี้ ห้ามเดินออกไปเพ่นพ่าน รอพ่อประชุมเสร็จ เดี๋ยวพ่อพาเดินดูรอบๆน่ะค่ะ" นรวิชญ์เอ่ยเสียงหวานบอกลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา

"คุณพ่อไม่ต้องห่วงนุ่นน่ะค่ะ นุ่นจะไม่ดื้อ และทำให้คุณพ่อเดือดร้อนเด็ดขาด คุณพ่อรีบไปประชุมเถอะค่ะ นุ่นอยู่ได้" ปุยนุ่นเอ่ยบอกบิดา

"พ่อไปก่อนน่ะ ถ้าน้องเข้ามาที่ห้องนี้ ก็อย่าเอ้ะอะเสียงดังล่ะ" นรวิชญ์เอ่ยสั่ง เพราะเมื่อลูกสาวและลูกชายเจอกันทีไร ลูกสาวเขาชอบมีเรื่องเม้าตลอด จนลูกชายไม่อยากกลับบ้าน

"ค่าาาา...ฮู้แล้วจ้า"

เมื่อนรวิชญ์เดินออกจากห้องไปแล้ว ปุยนุ่นจึงเดินสำรวจดูบริเวณรอบห้องทำงานของบิดา และนั่งลงที่โชฟาตัวยาว แล้วเอนตัวนอนเล่นมือถือรอบิดาประชุม

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"อาไปร์ครับ!...อ้าวไม่อยู่เหรอ?" พัสกรเอ่ยกับตัวเองเมื่อเดินเข้ามาภายในห้องทำงานของนรวิชญ์ แต่ต้องพบกับความว่างเปล่า

ชายหนุ่มกำลังจะเดินออกกลับไป แต่สายตาดันไปสะดุดเข้า กับร่างบางที่นอนหลับสนิทอยู่บนโชฟา ท้าวยาวเดินไปหาอย่างช้าๆ กลับต้องมนต์สะกดทันที เมื่อได้เห็นใบหน้าร่างบางครั้งแรก ร่างสูงนั่งชันเข่าอยู่ตรงหน้า จ้องมองใบหน้าหวานอยู่พักใหญ่

แกร๊ก!

เสียงเปิดประตูจากคนข้างเข้ามาเสียก่อน พัสกรรีบลุกยืนขึ้นทันที

"พ่อครับ! เห็นแม่บอกว่า..."เสียงทุมเอ่ยออกมา แต่ก็ต้องตกใจเพราะคนที่อยู่ในห้องไม่ใช่บิดาของเขา "พี่พัด!...พี่อยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วคุณพ่อผมไปไหน" ปุยเมฆเอ่ยถามขึ้น

"พี่ก็จะมาตามอาไปร์นี้แหล่ะ แต่..." พัสกรกำลังจะอธิบาย แต่ทว่า

"หาว!...เสียงดังอะไรกัน...คนกำลังนอนสบายเลย"เสียงหวานหาวเสียงดัง พร้อมกับบิดขี้เกียดพร้อมกับมองไปตามเสียง "เมฆ!..." เสียงดีใจ และวิ่งไปสวมกอดซุปตาร์หนุ่มทันที "คิดถึงที่สุดเลย...เมฆรู้ไหม นุ่นเบื่อมากเลย ที่ต้องอยู่แต่บ้าน นุ่นอยากทำงาน เมฆให้นุ่นไปกองด้วยน่ะ"

"นุุ่น...ปล่อยเมฆก่อน"เสียงทุ่มเอ่ยบอก "ไม่ได้นุ่นไปที่กองกับเมฆไม่ได้" ปุยเมฆรับปฏิเสธทันที พร้อมกับพยายามแกะมือของเธอ

"ทำไม! เมฆกลัวใครรู้เหรอว่าเราเป็นอะไรกัน" ปุยนุ่นเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจในตัวน้องชาย

"ก็ใช่น่ะสิ"

ต้นข้าวที่เดินมาตามหลัง มองดูปฏิกิริยาของคนทั้งสองอย่างงุนงง บวกกับอาการของซุปตาร์หนุ่ม ที่ดูพูดจาอ่อนหวานกับหญิงสาวตรงหน้า ทำให้พัสกรและต้นข้าวต่างจ้องมองอย่างไม่เข้าใจ

"ต้นข้าว...เป็นยังไงบ้าง ทำงานกับซุปตาร์" พัสกร เอ่ยทำลายสถานการณ์ลง

"ก็สบายดีค่ะ"

"เห้อะ...ภาระมากกว่าสิไม่ว่า" ปุยเมฆกล่าวเหน็บแนมทันที และหันไปมองทางต้นข้าวที่จ้องมองมาทางตน

"นายว่าอะไรน่ะเมฆ" พัสกรเมื่อได้ยินที่ปุยเมฆพูดขึ้นมา จึงเอ่ยถามขึ้น

"ไม่มีอะไรครับ...ในเมื่อคุณพ่อไม่อยู่ ถ้างั้นผมไปประชุมก่อนน่ะครับ" ปุยเมฆกำลังหันหลัวจะเดินออกจากห้องไป แต่ก็ต้องยืนนิ่งเสียก่อน

"เดี๋ยวสิเมฆ" ปุยนุ่นเอ่ยเรียกไว้ก่อน

"อ๋อ...ผมลืมบอกไปน่ะครับ" ปุยเมฆหันหลังกลับมา "คนนี้ปุยนุ่นครับ เป็นพี่สาวแท้ๆของผมเอง" พร้อมกับแนะนำตัวพี่สาวที่อายุห่างกันแค่ปีเดียว ให้พัสกรได้รู้จัก

"พี่สาว!" พัสกรย้ำทันที เเละตกใจอยู่บ้างที่ปุยเมฆบอก

"ก็ใช่น่ะสิ!...นี่พวกคุณคิดว่าฉันเป็นอะไรกับเมฆกัน?" ปุยนุ่นเอ่ยถามขึ้นมา

แกร๊ก!

เสียงเปิดประตูจากคนด้านนอกเดินเข้ามาอีกครั้ง

"อ้าว...อยู่นี้กันหมดเลยเหรอ!" นรวิชญ์เอ่ยถามเมื่อเห็นทุกคนอยู่ที่ห้องทำงานของตนพร้อมกัน

"สวัสดีครับคุณอา" พัสกรเอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้

"พอดีอาลงไปเอาแฟ้มมาน่ะ" แล้วหันไปทางลูกชาย "วันนี้เลิกงานแล้ว ตอนเย็นก็แวะเข้าไปที่บ้านด้วยน่ะ แม่เขาคิดถึงน่ะ"

"ครับ...คุณพ่อครับ คนนี้ต้นข้าว เป็นผู้ช่วยคนใหม่ของผมเองครับ พี่พัดจะให้มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของผมด้วย" ปุยเมฆเอ่ยบอกบิดาของตน

"สวัสดีค่ะ" ต้นข้าวกล่าวทักทายอย่างน้อบน้อม พร้อมกับยกมือไหว

นรวิชญ์เห็นดังนั้น ก็ยิ้มรับอย่างรู้สึกเอ็นดู และก็แปลกใจเพียงเล็กน้อยที่ลูกชายแนะนำผู้ช่วยคนใหม่ให้รู้จัก เพราะปกติแล้วลูกชายจะไม่เคยให้ผู้ช่วยคนไหน รู้จักสถานะของเขาที่เป็นพ่อลูกกันเลย

"ป่ะ...เข้าประชุมกันเถอะ...หนูต้นข้าวเข้าไปด้วยน่ะ" นรวิชญ์เอ่ยบอก พร้อมกับหันไปทางต้นข้าว แล้วเอ่ยบอกเสียงนุ่มนวล

"ส่วนเรายัยแสบรอพ่ออยู่ที่นี่น่ะ ห้ามก่อเรื่อง"แล้วหันมาสั่งลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาต่อ

"ค่าาา...อีพ่อ"

"มีพี่สาวนิสัยแบบนี้แล้ว ยังจะมาเจอยัยเตี้ยนี้อีก เวรอะไรของกูเนี้ยะ"ปุยเมฆได้แต่เอ่ยในใจคนเดียว แล้วหันไปจ้องหน้าต้นข้าว ที่ยืนยิ้มหัวเราะชอบใจกับท่าทางพี่สาวตน

"ไปได้แล้ว...ยืนยิ้มอยู่ได้" เสียงเข้มเอ่ยขึ้นมา ทำให้ต้นข้าวหุบยิ้มทันที แล้วรีบเดินตามซุปตาร์หนุ่มไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel