ตอนที่ 4 เกือบตาย
"ทิ้งฉันไว้ตรงนี้แหละ เธอมีอะไรก็ไปทำเถอะ"
วีรภาพหันไปสั่งพยาบาลพิเศษ ที่บิดาจ้างให้มาดูแลเขา ได้สองวันแล้ว วันนี้เขาสั่งให้เธอพาเขามานั่งเล่นที่ริมสระว่ายน้ำ
"แต่ว่า คุณวีต้องทำกายภาพบำบัดอีกนะคะ ดิฉันว่าเรากลับขึ้นข้างบนได้แล้ว" กบพยาบาลพิเศษกล่าวขึ้น
"ฉันบอกให้ออกไป หูแตกหรือยังไง" วีรภาพตะโกนใส่หน้าพยาบาลจนสุดเสียง พร้อมกับชี้มือไล่
กบต้องข่มใจเอาไว้ให้ถึงที่สุด ไม่กล่าวตอบโต้อะไร ได้แต่ยอมถอยไปตั้งหลักทำใจก่อน ตลอดสองวันที่มาทำหน้าที่ดูแลชายหนุ่ม ถึงแม้เขาจะมีหน้าตาที่หล่อเหลา แต่กลับเป็นคนที่อารมณ์ร้าย หากไม่ได้ดั่งใจก็จะอาละวาดขว้างปาทำลายข้าวของ รวมถึงคำพูดคำจาที่เล่นเอาคนฟังมักจะมีน้ำโห
ในเมื่อวีรภาพอยากอยู่คนเดียว พยาบาลพิเศษเช่นเธอ ก็จะถือโอกาสนี้พักกายพักใจ ให้หายเหนื่อยก่อน
วีรภาพมองจนพยาบาลคนนั้นหายออกไปจากตรงนั้น จึงเบนสายตาจ้องอย่างแน่วแน่ไปที่น้ำสีฟ้าใสในสระว่ายน้ำ ที่สร้างอยู่ในร่ม แต่มีบางส่วนที่อยู่ในที่โล่งกลางแสงแดด
ชายหนุ่มนั่งเหม่อลอยคิดย้อนถึงเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่เขารู้ตัวว่าเดินไม่ได้ ไล่มาจนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อน
วันที่ผู้หญิงที่เป็นดุจหัวใจของเขาบอกเลิก เพราะเขามันเป็นแค่คนพิการ เป็นคนเดินไม่ได้
แต่ที่สร้างรอยแผลบาดลึกเข้าไปในจิตใจ คือการที่เขาอุตส่าห์ขึ้นรถเข็นตามเธอออกมา หวังจะอ้อนวอนไม่ให้หญิงสาวทิ้งเขาไป
แต่ขณะที่กำลังผ่านห้อง ห้องหนึ่งเพื่อไปลงลิฟต์ ที่บิดาสร้างขึ้นให้เขาใช่ขึ้นลงชั้นสองได้อย่างสะดวก
วีรภาพก็ต้องชะงักหยุดนิ่ง เพราะได้ยินเสียงครางด้วยความสุขสมของผู้ชายกับผู้หญิง ดังเล็ดลอดออกมาจากในห้องของนิพนธ์ ตัวเหลือบไรที่คอยสูบสมบัติของบิดา
ชายหนุ่มทนฟังเสียงอันหยาบโลนนั้นอยู่นาน ก่อนที่จะตัดสินใจไปหลบซ่อนอยู่ในมุมอับสายตา เพื่อดูให้เห็นกับตาว่าเสียงผู้หญิงที่คุ้นหูเป็นใครกันแน่
สักพักวีรภาพก็ต้องเห็นภาพบาดตาบาดใจ ภาพของชายหนุ่มที่เขาเกลียดเข้าไส้กำลังโอบประคองผู้หญิงที่พึ่งบอกเลิกเขาได้ไม่ถึงชั่วโมง
หญิงโฉดชายชั่วพากันหัวเราะต่อกระซิกลงบันไดไป วีรภาพหมุนรถเข็นออกจากที่ซ่อน สายตาว่างเปล่า ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้สึก เขาทั้งเจ็บ ทั้งเคียดแค้น ความรู้สึกหลาย ๆ อย่างประเดประดังเข้ามา
ความรู้สึกเหล่านี้มันหล่อหลอมจิตใจที่เจ็บเจียนตาย ให้ด้านชาไปภายในเวลาแค่พริบตา
นับตั้งแต่วินาทีนั้น หัวใจของ วีรภาพ ก็หมดศรัทธาในความรัก หมดศรัทธาในตัวผู้หญิง ไม่ว่าหน้าไหนก็ตาม
วีรภาพตกอยู่ในภวังค์ของความทุกข์ ความผิดหวังขั้นรุนแรง ทั้งเรื่องความรักของชายหญิง ทั้งความรักของคนในครอบครัว จนไม่ทันสังเกตรถเข็นของเขาที่เลื่อนไปข้างหน้า จนกระทั่ง
ตู้ม!
ทั้งคนทั้งรถเข็นตกลงไปในสระน้ำ รถเข็นจมลงสู่ก้นสระ แต่ตัวของ วีรภาพยังใช้สองมือช่วยตะกุยน้ำไม่ให้จมลง ปากก็ร้องขอความช่วยเหลือ
"ช่วยด้วย ช่วยด้วย"
เป็นเวลานานก็ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของชายหนุ่ม จนวีรภาพหมดแรงร่างค่อย ๆ จมลงไปในน้ำ
วีรภาพหายใจไม่ออก ไม่นานสติที่หลงเหลืออยู่ก็ดับวูบลง
นิพนธ์แอบมองอยู่หลังผ้าม่าน พอเห็น วีรภาพจมลงไปแบบไม่มีวันตะเกียกตะกายได้ ก็ยิ้มออกมาอย่างเลือดเย็น
"นายต้องขอบใจฉันน่ะวี ที่ช่วยให้พ้นจากสภาพอันน่าสมเพช" กล่าวจบนิพนธ์ก็รีบออกจากบ้าน โดยไม่ให้คนอื่นเห็น เพราะคิดว่ายังไงวีรภาพก็ตายแน่นอน
แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผนร้าย วีรภาพตอนนี้กำลังนอนพักฟื้นอยู่ที่ห้องนอนของตัวเอง โดยมีพยาบาลพิเศษดูแลอยู่ไม่ห่าง
"ลูกผมตกน้ำได้ยังไง คุณพยาบาล" จักรีหลังจากทราบเรื่องจากแม่บ้านจันทราก็รีบกลับมาจากบริษัททันที
"ดิฉันก็ไม่ทราบค่ะท่าน คุณวีให้ดิฉันพาไปนั่งเล่นที่สระว่ายน้ำแล้วก็ไล่ให้ออกมา มารู้ตัวอีกที ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้อง ดิฉันเลยวิ่งไปดู ก็พบว่าคุณวีกลับผู้หญิงคนนั้นอยู่ในสภาพที่เปียกปอนทั้งคู่" กบอธิบายเสียยืดยาว เพราะเกรงว่าจักรีจะโทษว่าเป็นความผิดของเธอ ที่ไม่ดูแลวีรภาพให้ดี
"ผู้หญิงที่ช่วยเจ้าวี เป็นใครเขาได้บอกไว้หรือเปล่า"
"ยังไม่ได้บอกค่ะท่าน พอเธอช่วยดิฉันพาคุณวีขึ้นมาด้านบนเสร็จก็ขอตัวกลับทันที ไม่ได้สั่งความอะไรไว้"
จักรีพยักหน้าเข้าใจ ไม่ได้สอบถามอะไรต่อ กบคิดว่าคุณจักรีคงรู้จักหญิงสาวที่ช่วยวีรภาพไว้ จึงไม่ซักถามต่อ
"หรือเจ้าวีมันคิดฆ่าตัวตาย" จักรีพึมพำกับตัวเองมากกว่าต้องการคำตอบ
จักรีนั่งเฝ้าจนกระทั่งวีรภาพฟื้นขึ้นมา แม้ว่าเขาจะรู้สึกโล่งใจมาก ที่ลูกชายไม่เป็นอะไร แต่ก็ไม่พูด ไม่แสดงออกมา
"ฟื้นแล้วหรือเจ้าวี แค่ผู้หญิงคนเดียวแกถึงกับต้องคิดสั้นเชียวหรือ" จักรีต่อว่า
วีรภาพมองหน้าบิดาด้วยความไม่พอใจ
"นี้พ่อคิดว่าผมฆ่าตัวตาย เพียงเพราะหญิงชั่วชายโฉด ที่มันเล่นชู้กันลับหลัง ผมไม่สิ้นคิดขนาดหรอก หรือหากพ่ออยากจะคิดยังไง ก็เรื่องของพ่อ อย่างไรเสีย ในสายตาพ่อผมมันก็สร้างแต่ปัญหาให้อยู่แล้ว"
วีรภาพกล่าวจบก็หันหน้าไปทางอื่น ไม่อยากมองเห็นบิดาที่ลำเอียงรักลูกของคนอื่นมากกว่าลูกของตัวเอง
"หญิงชั่วชายโฉดที่แกว่าคือใคร" จักรีถามเสียงเครียด
"พ่ออยากรู้หรือ ได้ผมจะบอกให้เอาบุญ ชายโฉดที่ว่าก็นิพนธ์ลูกรักของพ่ออย่างไรละ ที่เล่นชู้กับฟ้าใสหญิงแพศยาภายในบ้านหลังนี้"
จักรีไม่เชื่อว่าคนเรียบร้อย อย่างนิพนธ์จะทำแบบที่ลูกชายว่า เป็นเพราะวีรภาพอิจฉานิพนธ์เสียมากกว่า ถึงขนาดใส่ร้ายกันขนาดนี้ เขาเองก็รับไม่ได้ จึงกล่าวตักเตือนเจ้าลูกชายตัวดีไปยกใหญ่
การที่บิดาออกโรงปกป้องนิพนธ์ขนาดนี้ สร้างความขุ่นเคืองให้กับวีรภาพเป็นอย่างมาก แทนที่พ่อจะสอบถามว่าทำไมรถเข็นที่ล็อกล้อเอาไว้ ถึงเลื่อนไปข้างหน้าเองได้อย่างง่ายดาย ราวกับมีคนผลัก บิดากับต่อว่าเรื่องที่เขาเล่าความจริงให้ฟัง
"โธ่โว้ย! ทำไมแกไม่ตาย ๆ ให้หมดกรรมไปเสียวะ"
วีรภาพตะโกนออกมาด้วยความคับแค้นใจ ทั้งหยิบจับอะไรที่อยู่ใกล้มือได้ ก็ขว้างปาระบายอารมณ์
"หยุดเดียวนี้" จักรีก็แผดเสียงสั่งให้ลูกชายหยุด
วีรภาพไม่ฟังขว้างทำลายข้าวของต่อไป
กบพยาบาลสาวพยายามเข้ามาจับข้อมือให้วีรภาพหยุดอาละวาด แต่กลับถูกชายหนุ่มฟาดมือมาถูกหน้าอย่างแรง จนเถอะแทบจะล้มคว่ำไปที่พื้น
จักรีต้องพาพยาบาลพิเศษหนีออกมายืนอยู่นอกห้อง แต่ยังได้ยินเสียงคนภายในอาละวาดไม่ยอมหยุด
"คุณท่าน กบไม่ไหวแล้วค่ะ กบขอลาออก" พยาบาลสาวกล่าวด้วยน้ำตา มือกุมตรงแก้มที่บวมเป่งเป็นรอยนิ้วมือ
