ตอนที่2 เดทแรก
เช้าวันนี้เป็นวันที่วันวิวาห์ค่อนข้างจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ อาการตกหลุมรักใครสักคนตั้งแต่แรกเห็นมันเป็นแบบนี้นี่เอง ดาเนียลเล ผู้ชายชาวอิตาลีรูปร่างสูงใหญ่ตาคมนัยน์ตาสีน้ำข้าวขนตางอนยาว จมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากหนาเป็นกระจับ เรือนผมสีน้ำตาลตัดรองทรงสูงเซ็ตเนี้ยบ ท่าทางสุขุมนุ่มลึกทุกกิริยา นิ้วมือเรียวสวยราวกับผู้หญิง ภาพของเขายังตราตรึงใจแล้วเธอก็จดจำมันได้ทุกอย่างเพราะแอบลอบมองเขาอยู่ตลอดเวลา คนบ้าอะไรหล่ออย่างกับหลุดมาจากตัวละครในเทพนิยาย
ขณะที่กำลังนั่งอมยิ้มเพ้อถึงผู้ชายเมื่อคืนก็ต้องรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อเห็นพี่ชายของเธอเดินถือดอกกุหลาบสีแดงช่อโตเข้ามายื่นตรงหน้า
เธอเริ่มมองหน้าพี่ชายด้วยสายตาฉงนก่อนจะลุกยืนรับช่อดอกกุหลาบจากเขา “กุหลาบแดงช่อโตเท่าฝาบ้าน อย่าบอกนะคะว่าพี่ไวท์ซื้อมาให้วินนี่” ไม่อยากจะเชื่อ นี่พี่ของเธอกำลังทำดีกับเธอเพราะหวังผลอะไรหรือเปล่า
“เปล่า พี่เห็นคนมาส่งให้เลขาเราก็เลยเดินเอาเข้ามาให้แทน”
“ใครส่งมาคะ?” ขมวดคิ้วก่อนจะหาการ์ดที่ติดเอาไว้
“ดูในการ์ดสิ คงเป็นหนุ่มๆ ที่ตามจีบเราอยู่ล่ะมั้ง” วายุภัคพอจะรู้ว่าเป็นของใครทั้งที่ยังไม่ได้เปิดดูการ์ดสีหวานที่ติดมากับช่อดอกไม้
วันวิวาห์เห็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษก็ตัวชาวาบ ยังไม่ทันได้อ่านข้อความถ้วนถี่เห็นคำลงท้ายลงชื่อของดาเนียลเลเธอก็ยืนตัวเกร็งหัวใจเต้นแรง ใบหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้งเช่นเมื่อคืนที่ได้เจอหน้าดาเนียลเลเป็นครั้งแรก เค้ากำลังจีบเธอใช่รึเปล่า ใช่แน่ๆ ไม่อย่างงั้นจะส่งกุหลาบแดงช่อโตแบบนี้มาทำไม กรี๊ดได้ไหม... ไม่ได้ เธอจะมีกิริยาไม่สำรวมต่อหน้าพี่ชายแบบนี้ไม่ได้
วายุภัคเห็น้องสาวยืนอมยิ้มไม่พูดไม่จาบิดไปบิดมาจ้องข้อความในการ์ดพักใหญ่ทำอย่างกับข้อความในนั้นยาวขนาดหนึ่งหน้าเอสี่ก็พอจะรู้แล้วว่ายัยน้องสาวตัวแสบของเขาน่าจะสนใจดาเนียลเลด้วยเหมือนกัน
“เมื่อคืนเลเอาแต่ถามเรื่องเรากับพี่ ดูท่าทางเค้าจะสนใจน้องสาวพี่มากไม่คิดเหมือนกันว่าเค้าจะรีบรุกจีบน้องสาวพี่เร็วขนาดนี้”
วันวิวาห์ยังคงยืนฟังพี่ชายเธอเงียบๆ ด้วยสีหน้าที่ยังคงเปื้อนรอยยิ้มตลอดเวลา
“พี่ไม่กวนแล้ว แค่อยากจะมาบอกว่าพี่ชอบเค้านะ คุณพ่อคุณแม่คงจะปลื้มน่าดูถ้าวินนี่ได้ลองสานสัมพันธ์กับเค้า” พูดจบก็เดินหันหลังอมยิ้มออกไปจากห้องทำงานของวันวิวาห์ ดาเนียลเลเป็นคนที่เขากำลังจะร่วมหุ้นขยายสาขาของกิจการด้วย แถมยังรู้ว่าเขาควบคุมกิจการหลายอย่างในอิตาลีหากวันหนึ่งจะได้มาเป็นน้องเขยก็ไม่มีอะไรติดขัดอยู่แล้ว
“ไม่ได้ฝันไปใช่ไหมเนี่ย” ยิ่งมองกุหลาบช่อโตความแดงที่พวงแก้มก็เริ่มมากขึ้นแข่งกับสีของดอกกุหลาบ
ตึ๊ง เสียงข้อความในโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวรีบวางช่อกุหลาบลงแล้วหันไปมองโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานจากนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิดข้อความ “เย็นนี้ผมขอนัดคุณวินนี่ไปทานอาหารด้วยกันนะครับ”
“ได้สิคะ” ตอบกลับอย่างไม่คิดไว้ตัว ไม่รู้หรอกว่าเขาเอาช่องทางการติดต่อเธอมาจากไหน เดาได้ว่าน่าจะมาจากทางพี่ชายของเธอแต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องถาม หากเขาไม่ติดต่อเธอมาก็จะหาทางติดต่อกลับไปเพื่อขอบคุณเรื่องดอกกุหลาบช่อโตนี้อยู่ดี
“เย็นนี้ผมจะให้คนไปรับคุณวินนี่ที่บ้านนะครับ”
“ค่ะ” ตอบตกลงไปเรียบร้อยก็ยืนกอดโทรศัพท์มือถือยิ้มร่าหลับตาพริ้ม ไม่คิดเลยว่าคนที่เธอสนใจเขามากๆ เขาจะมาสนใจเธอกลับเช่นนี้ นี่แหละพรหมลิขิต ขอบคุณคำอวยพรของพิมริตาจริงๆ เพราะหลังจากพิมริตาอวยพรให้เธอได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีพ่อเทพบุตรในฝันก็มาให้เธอได้เจอทั้งยังได้สานสัมพันธ์กันในเวลาอันรวดเร็วอีก
เย็นนี้วันวิวาห์รีบกลับบ้านเร็วกว่าปกติ กลับมาถึงก็รีบอาบน้ำขัดผิวจากนั้นก็รีบเลือกชุดอีกพักใหญ่ เธอเทียบชุดกับตัวเองชุดแล้วชุดเล่าสุดท้ายก็มาจบอยู่ที่ชุดเดรสซาตินสายเดี่ยวสีแชมเปญกระโปรงแหวกตั้งแต่ขาอ่อนลงไปถึงข้อเท้าเข้ากับรูปร่างอกเป็นอกเอวเป็นเอวทรงนาฬิกาทรายของเธอได้เป็นอย่างดี หญิงสาวรวบผมหางม้าสูงปล่อยปอยผมหน้าเล็กน้อย เธอแต่งหน้าอ่อนๆ เน้นความเป็นธรรมชาติแต่ยังคงมีประกายชิมเมอร์เล่นแสงให้เหมาะกับการออกไปข้างนอกตอนกลางคืน ทั้งสวมเรื่องประดับชิ้นเล็กพอน่ารัก พร้อมกับกระเป๋าทรงคลัชสีเงินใบเล็กที่ถือเพื่อเป็นเครื่องประดับมากกว่าจะเป็นของใช้
เสร็จทุกอย่างแล้วจึงฉีดน้ำหอมกลิ่นหวานซ่อนเปรี้ยวให้ดูเซ็กซี่ก่อนจะสวมส้นสูงสีเดียวกับกระเป๋าแล้วจึงลงมาจากห้องเตรียมตัวรอคนที่ดาเนียลเลส่งมารับ
เป็นคานโล มือขวาของดาเนียลเลที่ขับรถลีมูซีนสีดำมารับวันวิวาห์ถึงหน้าบ้าน จากนั้นจึงพาหญิงสาวมาส่งที่ร้านอาหารสุดหรูริมแม่น้ำที่วันนี้ดาเนียลเลปิดร้านเพื่อดินเนอร์กับวันวิวาห์เพียงแค่สองคนเท่านั้น
วันวิวาห์เดินตามคานโลขึ้นลิฟท์ไปจนถึงดาดฟ้าของร้านอาหารริมแม่น้ำก็เห็นดาเนียลเลในชุดสูทเนี้ยบยืนหันหลังล้วงกระเป๋ามองไปยังแสงสีตามตึกรามบ้านช่องริมแม่น้ำ เพียงมองแค่ด้านหลังของเขาเธอก็รู้สึกประหม่าจนทำตัวไม่ค่อยถูก ไม่อยากจะนึกถึงตอนที่ต้องนั่งพูดคุยกันเลยว่าเธอจะประหม่าแค่ไหน
“คุณวินนี่มาแล้วครับ” ส่งหญิงสาวเรียบร้อยคานโลก็ค้อมหัวให้เจ้านายหนุ่มแล้วเดินออกไป
วันวิวาห์เห็นแล้วว่าร้านทั้งร้านไม่มีคนเดาได้ไม่ยากว่ามหาเศรษฐีอย่างเขาจะปิดร้านนี้เพื่อดินเนอร์กับเธอ รู้ว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีได้ยังไงน่ะเหรอ มันไม่ยากเลย เพียงแค่เธอเอาชื่อของเขาไปค้นหาข้อมูลในโลกอินเตอร์เน็ตก็ขึ้นมาหน้าแรกว่าเขาคือนักธุรกิจหนุ่มที่เป็นเจ้าของบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์สุดหรูในอิตาลี ทั้งยังกอบกุมกิจการอสังหาโรงแรมใหญ่ๆ อีกหลายที่ไม่ว่าจะเป็นในอิตาลีหรืออีกหลายประเทศในยุโรปและเอเชีย ที่สำคัญไม่เคยมีประวัติการแต่งงานนี่แหละข้อสำคัญที่ถูกใจเธอเป็นที่สุด
หญิงสาวใบหน้าสวยหวานยืนนิ่งอมยิ้มแม้จะมีอาการประหม่า พยายามบอกให้ตัวเองคุมสติให้ได้แต่เธอก็ทำได้ยากเมื่อตอนนี้ชายหนุ่มได้หันมายิ้มให้และกำลังจะเดินเข้ามาหาเธอ ตอนนี้เธอควรจะทำยังไงควรยืนยิ้มเฉยๆ หรือว่าต้องทักทายอะไรเขาไปก่อน รู้แบบนี้สอบถามเรื่องการมีเดทแรกจากเพื่อนๆ เธอมาก่อนก็คงจะดี
ดาเนียลเลเดินจ้องหญิงสาวไม่วางตา เมื่อมาประชิดตรงหน้าก็อดเอ่ยชมในความงามของเธอไม่ได้ “คุณสวยมากเลยนะครับ” พูดจบก็ยื่นแขนให้เธอได้คล้อง
“ขอบคุณค่ะ” ขณะเดินไปยังโต๊ะอาการเพียงไม่กี่ก้าว การใกล้ชิดกันขนาดนี้ทำวันวิวาห์ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจได้ยากเหลือเกิน หวังว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียงหัวใจของเธอให้รู้สึกขบขันหรอกนะ
