บท
ตั้งค่า

บทที่1

สนามบินสุวรรณภูมิ

ท่าอากาศยานที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายทั้งในและต่างประเทศเพื่อเตรียมตัวที่จะเดินทางไปยังจุดหมายโดยใช้เส้นทางของสายการบิน ซึ่งอำนวยความสะดวกสบายและประหยัดเวลาให้กับการเดินทาง เช่นเดียวกับ'ดาริน'ซึ่งเธอเป็นผู้โดยสารขาเข้ากำลังยืนอยู่ยังจุดรับกระเป๋าเดินทางด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

'สวยจังเลยเนอะ อย่างกับนางแบบ'

'ดาราหรือเปล่าวะ'

'น่าจะใช่ ดูผิวพรรณที่ขาวของเธอสิ'

'ต้องเกิดกี่สิบชาติถึงจะสวยอย่างนี้นะ'เสียงกระซิบนินทาในระยะเผาขนดังขึ้นแม้ตอนเธอเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินลากออกมา

สีหน้าและแววตาเฉยชาถูกปกปิดอยู่หลังแว่นตากันแดดสีชาจากแบรนด์ดัง

ตึก ตึก ตึก

เสียงกระทบพื้นระหว่างรองเท้าส้นสูงกับกระเบื้องดังขึ้น ร่างสวยเลือกที่จะสวมชุดแบบสะดวกสบายเพื่อให้ง่ายต่อการเดินทางเพียงคนเดียวในครั้งนี้

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้เธอต้องรีบล้วงมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนสีเข้มที่ใส่อยู่ เสียงหวานโทนเรียบนิ่งกรอกไปตามสายหลังจากที่เธอกดรับมัน

"สวัสดีค่ะ"

"ถึงเมืองไทยแล้วใช่ไหมลูก"

"ค่ะ รินถึงแล้ว"สองเท้าสวยก้าวขาเดินตรงไปยังประตูทางออก ผมสีดำนุ่มสลวยเงางามดุจดั่งแพรไหมปลิวไสวไปตามแรงลมทันทีเมื่อเธอก้าวขาออกมายืนด้านนอก

"เที่ยวพักผ่อนให้สบายนะลูก ขาดเหลืออะไรก็ให้รีบโทรมาบอกแม่กับพ่อได้เลย"เสียงเข้มโทนอ่อนโยนของบิดาตะโกนดังมาจากปลายสายเรียกรอยยิ้มจากริมฝีปากของดารินขึ้นมาได้

"ค่ะ ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ"

"ขอให้หนูสนุกกับการพักผ่อนนะลูก ดาริน"

"รักแม่กับคุณพ่อนะคะ"เธอกดวางสายมารดาเมื่อเห็นรถแท็กซี่ที่เปิดไฟว่าง

ดาริน พอลตัน สาวชาวไทยแท้ พื้นเผ่าเหล่ากอมีพ่อแม่เป็นคนไทย แต่เมื่อเธออายุยังไม่ได้ห้าขวบก็ต้องสูญเสียเสาหลักอย่างบิดาไปตลอดการจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ แม่ของเธอเป็นคนทำงานหนักหาเลี้ยงปากท้องสองแม่ลูกมาตั้งแต่นั้น หนักเอาเบาสู้ อาศัยอยู่ในบ้านเช่าเก่า ๆ กินข้าวข้างทาง หลังจากเลิกเรียนถ้าว่างเธอก็มักจะไปช่วยแม่ขายกับข้าวในตลาด

ความลำบากในตอนนั้นทำให้สองแม่ลูกต้องกัดฟันสู้ บ้านเช่าเท่ารูหนูแค่ลมพัดแรงก็พร้อมจะพังลงตรงหน้า ดารินจำได้ไม่เคยลืมว่าตอนนั้นเธอกับมารดาลำบากมากแค่ไหน มารดาเป็นหนี้เพราะแอบไปกู้เงินนอกระบบมาส่งเสียให้เธอเรียน แต่สุดท้ายความก็แตกเมื่อท่านไม่มีเงินส่งจนลูกน้องของเจ้าหนีตามเข้ามาทวงถึงบ้าน

'ฉันขอร้องเถอะนะ ขอเวลาสักสองสามวัน ตอนนี้ฉันไม่มีเงินจริง ๆ จ้ะ'

'ไม่ได้ ยืมแล้วก็ต้องหาเงินมาคืนซิวะ นี่เอ็งจะเบี้ยวเหรอฮะ'

'ไม่จ้ะ ฉันไม่ได้คิดจะเบี้ยว แต่ขอเวลาให้ฉัน...'

เพียะ

'พวกกูไม่มีเวลาอะไรให้มึงสองแม่ลูกทั้งนั้น'สองแม่ลูกกอดกันตัวสั่นอยู่ภายในบ้านหลังเก่าเมื่อเห็นปลายกระบอกปืนที่ชี้มายังเธอทั้งสองคน

'วันนี้พวกกูจะเอาของมีค่าของมึงสองแม่ลูกไป'

'เฮ้ย ขนออกไปให้หมด ส่วนมึงพรุ่งนี้ต้องหาเงินทั้งต้นและดอกมาคืนพวกกูให้ได้ ถ้าหากพรุ่งนี้มึงไม่มีเงินมาคืน ลูกสาวของมึงได้ตกเป็นเมียของพวกกูแน่ ฮ่า'

สองแม่ลูกน้ำตาไหลออกมาด้วยความแค้นปนเสียใจ เสียงหัวเราะอันน่าขนลุกกับแววตาหื่นกระหายในร่างสวยของเด็กสาวมัธยมปลายคือสิ่งที่ดารินจำได้ไม่มีวันลืม

มารดาตัดสินใจพาเธอหนีออกมาจากบ้านเช่าในคืนนั้น เงินที่มีติดตัวอยู่พาทั้งคู่หนีขึ้นมาได้ถึงเชียงใหม่ มารดาพาเธอมายังรีสอร์ตของเพื่อนสมัยเรียนเพื่อขอหลบภัย แต่เจ้าของรีสอร์ตเพื่อนสมัยเรียนของแม่คนนั้นท่านช่างใจดี ให้ที่พักฟรีอีกทั้งยังให้มารดาของเธอทำงานเป็นแม่บ้านช่วยเก็บกวาดเช็ดถู

และการที่แม่ของเธอได้ทำงานเป็นแม่บ้านในรีสอร์ตแห่งนั้นมันก็ทำให้ท่านได้พบกับแสงสว่างในชีวิตอีกครั้ง เมื่อมีเศรษฐีชาวเยอรมันอายุรุ่นราวคราวเดียวกันมาตกหลุมรักท่าน และนั่นก็คือจุดกำเนิดที่ทำให้ชีวิตของสองแม่ลูกพลิกผันไปตลอดกาล

ปึก

ร่างสูงโปร่งดั่งนางแบบของดารินก้าวขาลากกระเป๋าเข้ามาในห้องพักที่เธอจัดการซื้อเอาไว้ก่อนจะเดินทางมาพักผ่อนที่นี่

สีหน้าและแววตาของเธอในตอนนี้ยังคงเฉยชาราวกับว่าไม่เคยมีความรู้สึกอย่างอื่นเข้ามาแทนที่ แว่นกันแดดสีชาถูกถอดจากใบหน้า ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตกวาดมองห้องพักสุดหรูราคาหลักล้านตรงหน้า

ความหรูหราของมันไม่ต้องพูดถึง ซึ่งเธอก็เลือกที่จะใช้เงินซื้อมันแม้เธอจะมาเที่ยวพักผ่อนที่เมืองไทยเพียงแค่ระยะสามเดือนเท่านั้น

'ดาริน พ่อกับแม่คิดว่าลูกทำงานหนักเกินไปแล้วนะลูก'วิลเลียมพูดกับลูกสาวของภรรยาที่เขาเองก็รักดารินเหมือนกับลูกสาวแท้ ๆ ของตนเอง

'นั้นสิลูก ดารินแม่ว่าลูกควรจะหาโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนบ้างนะ ลูกทำงานหนักช่วยคุณพ่อบริหารบริษัทมาก็ตั้งหลายปี'ทั้งบิดามารดาเอ่ยขึ้นมาในช่วงเย็นของวัยหนึ่งหลังจากที่เธอก้าวขากลับเข้ามาในบ้านหลังใหญ่

'ไปหาความสุขให้กับตัวเองบ้างนะลูก หนูทำงานหนักเกินไปแล้วนะ'

'แต่หนูยังมีงานค้าง'

'ห้าสิบล้าน'ดารินหันไปมองหน้าของบิดาขึ้นมาทันที

'ห้าสิบล้านนี้แลกกับการที่ลูกสาวของพ่อยอมวางปากกากับเอกสาร เพื่อไปเก็บกระเป๋า'วิลเลียม'เขารู้สึกเห็นใจและเอ็นดู ดารินเข้ามารับกิจการของที่บ้านไปดูแลหลังจากเธอเรียนจบปริญญาโท ลูกบุญธรรมที่เขารักเหมือนกับลูกสาวแท้ ๆ ไม่เคยปริปากบ่นว่าเหนื่อยหรือแสดงอาการพวกนั้นให้เขากับภรรยาได้เห็น

ดารินเธอเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง เธอมักจะปกปิดความรู้สึกภายใต้ใบหน้าและแววตาที่เย็นชาคู่นั้น ซึ่งการมาเที่ยวพักผ่อนที่เมืองไทยตลอดระยะเวลาสามเดือนนั้น นั่นคือสิ่งที่เธอควรจะได้รับและทำมันให้อย่างเต็มที่

ครืด ครืด ครืด

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนริมฝีปากสวยเมื่อดารินได้เห็นชื่อเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนปรากฏอยู่บนหน้าจอผ่านแอปพลิเคชันที่ทันสมัยซึ่งสามารถส่งแชตและโทรเข้าออกได้โดยที่ไม่ต้องใช้เบอร์โทรศัพท์ให้ยุ่งยาก

"ว่ายังไงใบเตย"

"ถึงไทยแล้วใช่ไหมริน"

"ใช่ ตอนนี้ฉันกำลังนั่งพักอยู่ที่ห้อง"คงมีแต่เพื่อนสนิทคนนี้ที่ทำให้คนอย่าง ดารินยิ้มออกมาได้ กลุ่มเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนสมัยเรียนตั้งแต่มัธยมปลายที่ไม่เคยตัดขาดการติดต่อกันแม้ว่าอีกฝ่ายนั้นจะย้ายไปอยู่อีกซีกหนึ่งของโลกก็ตาม

"ฉลองกันหน่อยไหมล่ะ ยัยนั่นมันคิดถึงก็อยากเจอเธอ"

"ที่ไหนล่ะ ว่ามาเลย"ดารินยิ้มรับกับปลายสายเมื่อนึกถึงกลุ่มเพื่อนสนิทสมัยเรียน

"ไม่ค่อยจะรีบเลยนะ นัดที่ร้าน...ตอนห้าโมง ให้ฉันไปรับไหมล่ะ เธอยังไม่มีรถขับนี่"

"ไม่เป็นเดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่ไปเอง ไว้เจอกัน"

"โอเค ห้ามสายนะ ใครสายยกหมดขวด"

"โอเคจ้า"สีหน้าของดารินยิ้มแย้มออกมาอย่างมีความสุข

เธอลุกขึ้นจัดการลากกระเป๋าเข้าไปเก็บให้เข้าที่ก่อนจะจัดการอาบน้ำเตรียมตัวพักผ่อน เพราะยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงนัดเย็นนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel