บท
ตั้งค่า

เชื่อฟังแม่หมอ

“แม่หมอคะ ช่วงนี้ทำไมดวงซวยขนาดนี้คะ มีของอะไรบ้างที่จะช่วยทำให้ผ่านพ้นเรื่องราวร้ายๆ ไปได้” ละอองฟ้าเอ่ยถามแม่หมอที่ใส่ชุดโบฮีเมียนหลับตาอยู่ตรงหน้า พร้อมกับมือที่ถือสร้อยลูกประคำนับวนไปเรื่อยๆ จนครบเส้น

“ดวงของเธอกำลังจะเจอเคราะห์ใหญ่ มีคนปองร้าย หมายเอาชีวิต” คำพูดของแม่หมอเล่นเอาละอองฟ้าถึงกับหน้าถอดสี

ไม่จริง เธอเพิ่งจะปี2 แฟนก็ยังไม่เคยมี อย่าได้พูดถึงความรักเลย เธอยังไม่เคยได้สัมผัสกับคำนั้นเลย ถ้าเป็นแบบนั้น ก็แปลว่าใช้ชีวิตไม่คุ้มเลยน่ะสิ เกิดมาต้องมาตายทั้งที่อายุยังน้อยแบบนี้ไม่ได้นะ

“ฮือ...แม่หมอขา หนูยังไม่อยากตาย...ช่วยหนูด้วยนะคะ...คิดค่าครูมาเลยค่ะหนูจ่ายไม่อั้น ขอแค่อย่างเดียวอย่าให้ถึงชีวิตเลยนะคะ”

“งั้นก็มีอีกแค่วิธีเดียวเท่านั้น ที่เธอจะรอดพ้นได้จากความตายนี้”

“อะไรเหรอคะแม่หมอ แม่หมอบอกมาเลยค่ะ” ดวงตากลมโตมองแม่หมอเป็นประกายแห่งความหวัง

ชีวิตเธอขับเคลื่อนไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะทำอะไรหยิบจับอะไรก็ต้องมูเอาไว้ก่อน เธอเชื่อว่าการใช้ชีวิตต้องไม่ประมาท แม้ใครจะบอกว่าเธองมงายก็เถอะ แต่เธอใช้ชีวิตมาแบบนี้ ก็ไม่เห็นว่าชีวิตเธอจะแย่เลยสักครั้ง มีแต่โชคดีจนใครๆ ก็ต่างอิจฉาเธอ

“เธอจะต้องมีอะไรกับผู้ชายที่มีรอยสักปีศาจ คนที่เธอไปเจอเมื่อวาน”

“ห๊ะ!! วะ...ว่าไงนะ!! ไม่เอาด้วยหรอก”

“งั้นก็แล้วแต่นะ ถ้าไม่ทำ เธอก็ไปนับวันรอความตายได้เลย เธอมีเวลาอีกแค่1เดือนเท่านั้น นับจากนี้ไป ก็ใช้ชีวิตให้คุ้มๆล่ะ”

“นี่แม่หมออำหนูเหรอคะ มีอะไรกับเขาแล้วจะรอดพ้นจากความตายได้ยังไง” เธอถามถึงเหตุผล

“ก็เธอไปแช่งใครไว้ล่ะเมื่อ7ปีก่อน”

“หนูไม่เคยแช่งใครเลยนะคะ”

“เธอคิดดีๆ”

“จำไม่ได้หรอก ใครจะไปจำได้ตั้ง7ปีที่แล้ว”

“วางค่าครูมาแล้วจะบอก” ตวัดสายตาไปที่พานตรงหน้า จากนั้นละอองฟ้าก็ควักเงินปึกหนึ่งวางลงไปในพาน รวมๆแล้วก็หลักหมื่น ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่แม่หมอค่อนข้างที่จะพึงพอใจอยู่ไม่น้อย

“เธอแช่งเนื้อคู่ตัวเอง เธอเคยไปขอพรต่อหน้าองค์แม่หลีเกี่ยวฮวด ว่าไม่ให้เนื้อคู่สมหวังกับใคร จนกว่าจะเจอกับเธอ มันเลยเป็นผลพวงทำให้คำสาปแช่งของเธอนั้นกลับเข้ามาเล่นงานตัวเอง เธอทำให้เนื้อคู่ของเธอต้องเสียใจเพราะรักหลายครั้งหลายครา หาความสุขไม่ได้ เพราะต้องระทมทุกข์กับความรักที่ไม่สมหวัง”

“แต่หนูไม่ได้ตั้งใจนี่คะ หนูก็แค่พูดไปเรื่อย”

“คำพูดที่เธอพูดไปเรื่อย มันทำให้คนอื่นเดือดร้อน เพราะแบบนี้ไง เธอเลยต้องไปแก้เคล็ด และแก้คำสาปของตัวเองด้วยการไปมีอะไรกับผู้ชายคนนั้น”

“แม่หมอ...จะบอกว่า...เขาเป็นเนื้อคู่หนูเหรอ?”

“อืม แต่ถ้าพ้นหนึ่งเดือนนี้ไปได้ ก็แปลว่าคำสาปถูกถอนแล้ว”

“ไม่มีคนอื่นแล้วเหรอคะแม่หมอ ต้องคนนี้เท่านั้นเหรอคะ”

“คนนี้เท่านั้น”แม้หมอย้ำเสียงหนักแน่น ดวงตาที่ดุดันเพราะปัดมาสคาร่าจ้องมองเธอด้วยความจริงจัง อยากจะถามว่ามาสคาร่ายี่ห้อไหนคะ หนูจะได้ไม่ซื้อ แหม แพนด้าเชียว แต่ก็ได้เเค่พูดในใจ เดี๋ยวจะเป็นการเสียมารยาทเกินไป

“หนูขอเปลี่ยนเนื้อคู่ได้ไหมคะแม่หมอ”

“เธอจะบ้าหรือไง เนื้อคู่นะไม่ใช่เนื้อย่าง ที่ไม่ถูกใจก็เอาชิ้นใหม่น่ะ ถ้าไม่อยากตายก็ไปแก้คำสาปซะ”

@MMU

คณะบริหาร

“เฮ้อ...นี่เขาเป็นเนื้อคู่ฉันจริงๆ หรือเนี้ย” ละอองฟ้าได้แต่ถอนหายใจยาวๆออกมาซ้ำๆมาร่วมชั่วโมงเเล้ว ตั้งแต่กลับมาจากสำนักของแม่หมอ วันนี้จ่ายค่าครูไปเกือบแสน นอกจากจะไม่ได้ทำให้สบายใจขึ้นแล้ว ยังทำให้เธอคิดหนักเข้าไปใหญ่

“ถ้าไม่อยากตายก็คงต้องทำจริงๆใช่ไหม เอาวะ เพื่อชีวิตที่สวยงามของละอองฟ้า เอาก็เอา”

‘ยิงเร็วยิ่งดี เพราะถ้าเธอไม่รีบแก้เคล็ด เธอจะเจอแต่เรื่องโชคร้าย’

“ยิ่งเร็วยิ่งดีกับผีน่ะสิ มีอะไรกับผู้ชายนะ ให้ทำใจหน่อยสิ” เธอกล่าวขึ้นเมื่อเสียงของแม่หมอดังขึ้นเตือนอยู่ในโสตประสาทของเธอ เล่นเอาหลอนหูเลยทีเดียว

"บ่นอะไรยัยฟ้า"ซือซือเพื่อนรักของเธอเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าละอองฟ้าทำหน้าเซ็งๆ ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เรียนวิชาเเรกเลยด้วยซ้ำ

"เซ็งๆ ได้เนื้อคู่ไม่ถูกใจ"

"หืม? อย่าบอกนะว่าแกไปดูหมอมาอีกแล้ว แกเลิกงมงายเถอะ ฉันว่าแกโดนหลอกเอาค่าครูชัวร์"

"แต่แม่หมอทักอะไรฉัน มันก็เป็นจริงหมดเลยนะ แถมยังรู้อีกว่าเมื่อวานฉันไปเจอใครมา มีรูปลักษณะยังไง บอกได้กระทั่งในอดีตว่าฉันไปแช่งใครเอาไว้ ขนาดฉันเองยังลืมเลย"

"ถ้าแม่นขนาดนั้น บอกหวยงวดนี้หน่อยสิ ว่ารางวัลที่1งวดนี้เลขอะไร ถ้าฉันถูกฉันจะสร้างสำนักใหม่ให้เลย"

"รอบนี้ไม่เชื่อไม่ได้ เพราะฉันกลัวตายน่ะสิ ฉันยังไม่อยากตาย ฉันยังใช้ชีวิตไม่คุ้มเลย"

"เฮ้อ...ฉันว่าที่แกคิดมากเพราะยึดหลักผิดๆ ฉันว่าแกเลิกดูเถอะ ปวดหัว เสียเงินเปล่าๆ "

"..."

"แล้วรอบนี้ทักอะไรอีกล่ะ"

"ฉันเคยไปแช่งเนื้อคู่ตัวเองเมื่อ7ปีที่แล้ว ให้ไม่สมหวังในความรัก จนกว่าจะเจอกับฉัน วิธีแก้คำสาปก็คือต้องไปมีอะไรกับกับเขา ไม่งั้นฉันจะตายภายใน1เดือนนี้"

"ไปกันใหญ่แล้วยัยฟ้า อย่าไปบ้าจี้ทำนะ แล้วนั่นใช่เนื้อคู่แกจริงๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้ เผลอๆ เป็นมิจฉาชีพรวมหัวกับแม่หมอแกทำไง"

"...เครียดว่ะ"

"ไม่ต้องเครียด เชื่อฉัน ฉันเก่งกว่าหมอดูอีก"

"แต่แม่หมอบอกว่าถ้าไม่รีบไปแก้เคล็ด ฉันจะเจอแต่เรื่องซวยๆนะ"

"ซวยแบบไหน โรคจิตตาม แล้วเอามีดจี้ปะ ถ้าแกโดนแบบนั้นก่อน แล้วฉันจะเชื่อ"

ตกเย็น...

ตึก ตึก ตึก...

เสียงรองเท้าส้นสูงแบรนด์ดังกระทบกับพื้นคอนกรีต แต่อยู่ๆ กลับมีอีกเสียงรองเท้าคู่หนึ่งดังแทรกขึ้นมา ด้วยความรู้สึก ราวกับมีใครเดินตามมา จึงทำให้ละอองฟ้าหยุดเดิน เพื่อฟังเสียงฝีเท้าหนักๆคู่นั้น

ทันทีที่เธอหยุดเดิน เสียงเท้าคู่นั้นก็หยุดตาม เธอจึงรีบหันหลังไปมองด้วยความหวาดระแวง แต่กลับไม่เจอใครอย่างที่เธอคิด ด้วยความที่เมื่อครู่ไม่เห็นอะไรผิดปกติ เธอเลยไม่ได้ใส่ใจเดินต่อไปเรื่อยๆ จนเกือบจะถึงรถของตัวเอง พอเธอก้าวเท้าเดินไปเรื่อยเสียงเท้าหนักๆ ของใครบางคนก็ดังขึ้นอีกครั้ง ตามด้วยเสียงทุ้มที่ดังขึ้นตามหลัง ไม่พอยังตรงเข้ามาประชิดตัวเธอแล้วใช้กระบอกปืนจี้มาที่หลังเธออีก

“เดินไปที่รถของเธอซะ”

“เฮือก!!” สุดช็อก นี่อย่าบอกนะว่าที่ยัยซือซือไปลบหลู่แม่หมอนั้นจะเป็นจริง ฮือ...ละอองฟ้ายังไม่อยากตายตอนนี้นะ ยังไม่มีผัวเลย ขอโอกาสให้ไปมีผัวก่อนสิ มาแบบนี้มันกะทันหันเกินไป ขอร้องล่ะ สัญญาเลยว่าถ้ารอดชีวิตไปได้ จะทำตามที่แม่หมอบอกอย่างไร้ข้อกังขาใดๆเลย

“รถอยู่ไหน...เดินไปที่รถ”

“อึก...ดะ...ได้สิ...” เธอก้าวเดินไปเรื่อยๆ ด้วยขาสั่นๆ อย่างเชื่องช้า ทั้งที่รถของเธอก็อยู่ไม่ไกลเธอเลย แต่จะทำยังไงดี เพื่อถ่วงเวลาให้คนมาช่วย แถมตอนนี้ก็ดูเหมือนจะเริ่มมืดแล้วด้วย ใครจะใจดีผ่านมาเห็นบ้างนะ เธอคิด แล้วก้าวเท้าไปเรื่อยๆ หวังถ่วงเวลาโจรนั่นเอาไว้

“อย่าตุกติกนะ” เสียงเหี้ยมกล่าวขึ้น มือที่ถือปืนยังคงจี้หลังเธอแล้วใช้ปากกระบอกปืนดันหลังเธอให้เดิน

“ฉะ...ฉันจำไม่ได้ว่าจอดรถไว้ไหน” เธอโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก สองขาเรียวก็ก้าวเดินตามแรงดันไปช้าๆ จนเธอเดินเลยรถของตัวเองไป ที่เธอแสร้งทำเป็นหลงลืมก็เพราะว่า หากเธอยอมเข้าไปอยู่ในรถด้วยแล้ว โอกาสที่จะรอดก็จะยากกว่า

“เร็วๆ สิวะ คิดจะเล่นตุกติกใช่ไหม” คนด้านหลังพูดด้วยเสียงแข็งๆ ขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับกดกระบอกปืนมาที่แผ่นหลังเธอแรงขึ้น

ฮือ อยากจะร้องไห้ พ่อจ๋าแม่จ๋า หากวันนี้ละอองฟ้าไม่มีโอกาสได้รอดชีวิตออกไปได้ ละอองฟ้าอยากจะบอกว่าฟ้ารักพ่อและแม่มากๆเลยค่ะ เธอพร่ำพรรณนากับตัวเองในใจ พยายามระลึกถึงบุญคุณของพ่อแม่ จากนั้นน้ำใสๆ ก็ไหลลงมาเป็นสายโดยที่ไม่ได้มีเสียงร้องออกมา

พลั๊ก อั๊ก ผั๊วะ!!

แต่แล้วราวกับฟ้าเห็นใจ อยู่ๆ ก็มีชายร่างสูงหน้าตาดีกระโดดออกมาจากช่องแคบๆ แล้วถีบไอ้โจรปล้นทรัพย์นั่นจนร่างของมันกระเด็นไปกองอยู่ที่พื้น พร้อมกับปืนที่หลุดมือไปอยู่อีกทางหนึ่งเช่นกัน

หมับ!!คลิ๊ก!!

“อย่าขยับ ไม่งั้นฉันยิง!!” เสียงอันทรงพลังนั้นพูดขึ้น พร้อมกับหันกระบอกปืนที่เขาใช้ความเร็วไปหยิบก่อนโจร จ่อไปที่ศีรษะของโจรคนนั้น ทำให้ไอ้โจรนั่นยกมือขึ้นหมายมอบตัวยอมแพ้ ส่วนเขาก็หันมองหน้าเธอเป็นสัญญาณให้วิ่งไปหลบหลังเขา

“เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ” พระเอกขี่ม้าขาวคนนั้นถามเธอขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“เอ่อ...ตกใจนิดหน่อยค่ะ” พูดพร้อมกับยกมือขึ้นกุมหน้าอกของตัวเองที่มันเต้นระรัวจนแทบกระเด็นออกมานอกอก ใบหน้าสวยหมดจดซีดเซียวเพราะกำลังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่หาย

“ยะ...อย่าทำอะไรผมเลย...ผมผิดไปแล้ว” โจรนั่นยกมือขึ้นไหว้ผู้ชายที่เข้ามาช่วยชีวิตเธอด้วยความกลัว กลัวว่าลูกปืนนั้นจะจะพุ่งเข้าไปใส่หัว

“กูไม่ยิงมึง ให้ต้องแปดเปื้อนหรอก นู้น...เตรียมเข้าไปนอนในคุกได้เลย” พยักเพยิดหน้าไปทางตำรวจที่วิ่งมาอีกทาง ซึ่งทำให้ละอองฟ้างวยงงอยู่ไม่น้อย ไม่รู้ว่าเขาไปเรียกตำรวจมาตั้งแต่ตอนไหน

หลังจากที่โจรถูกตำรวจรวบตัวไป ละอองฟ้าก็ยกมือไหว้ขอบคุณสุดหล่อขี่ม้าขาวที่มาช่วยเธอยกใหญ่

“ฟ้าต้องขอบคุณพี่มากๆเลยนะคะ ที่มาช่วยชีวิตฟ้าเอาไว้ ไม่งั้นหากไม่มีพี่ ฟ้าต้องตายไปแล้วแน่ๆ”

“ไม่เป็นไรครับ ปกติทางเข้าตรงนี้มีรปภ.รักษาความปลอดภัยนี่นา ทำไมวันนี้ถึงไม่รอบคอบแบบนี้”

“แล้วพี่เห็นฟ้าตั้งแต่ตอนไหนคะ” ถามด้วยความสงสัย

“พี่เห็นตั้งแต่มันเดินตามเข้ามาในลานจอดรถแล้ว”

“พี่...เรียนที่นี่เหรอคะ”

“เปล่าหรอก พี่มารับน้องชาย พี่เรียนจบไปแล้ว”

“อ๋อ...เอ่อ...ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ถ้าไม่ได้พี่...ฟ้าคงแย่แน่ๆ เลย”

“ชื่อฟ้าเหรอ”

“ค่ะ ชื่อละอองฟ้า...เรียกฟ้าเฉยๆ ก็ได้”

“พี่ชื่อว่าน”

“เพื่อตอบแทนที่พี่ว่านช่วยฟ้าไว้ ฟ้าขอเบอร์หน่อยได้ไหมคะ...เผื่อนัดเลี้ยงข้าว”

“ได้สิ...” แล้วทั้งคู่ก็แลกคอนแทคกัน จากนั้นก็แยกย้ายกันไป

วันต่อมา...

“ว่าไงนะ!! แกพูดจริงๆเหรอ” ซือซือถามเสียงดังด้วยความตกใจเมื่อละอองฟ้าเล่าเหตุการณ์ที่เธอโดนโจรจี้อยู่ที่ลานจอดรถให้เธอฟัง

“ก็ใช่น่ะสิ เพราะปากแกเลย แกลบหลู่แม่หมอ ดีนะที่เมื่อวานมีผู้ชายใจดีมาช่วยฉันเอาไว้ทัน ไม่งั้นฉันคงตายไปแล้ว”

“เอ่อ...มัน...อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้มั้งแก...ลองพิสูจน์อีกสักทีไหม...”

“หยุดเลย แกเลิกพูดเลยนะ ห้ามคิด และห้ามพูดสิ่งไม่ดีออกมาเพื่อท้าทายแม่หมอของฉัน” ละอองฟ้ารีบห้ามทัพ ห้ามปรามไม่ให้ซือซือ พูดอะไรออกมา เธอไม่อยากเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงกับความไม่เชื่อของเพื่อนแล้ว

“ใครจะว่าฉันงมงายฉันจะไม่สนแล้ว ฉันจะเชื่อฟังแม่หมอ...”

“อีฟ้า...แกเอาจริงดิ...”

“อืม..ฉันไม่อยากตาย...อย่างน้อยได้ผัว...แลกกับต้องมีชีวิตอยู่...ฉันยอม”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel