2
ครู่ใหญ่ๆทีเดียวที่แพรไหมรู้สึกว่าร่างกายของตนออกร้อนวูบๆวาบๆไปจนทั่ว
“เป็นอะไร ทำไมหน้าแดงๆ” รัตน์ทักขึ้นแล้วเพ่งมองเธอไปด้วย แพรไหมเริ่มนั่งไม่ติด ขยับชุดที่สวมไปตอบไปพลาง
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ สงสัยจะไม่สบาย”
“เหรอ อย่างนั้นกลับห้องก่อนไหม เราพักห้องไหน พี่ไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวแพรไปบอกพี่สาวก่อนค่อยกลับไปพักดีกว่า ไปนะคะพี่รัตน์”
หญิงสาวบอกจบ ลุกขึ้นทันทีเพื่อเดินไปบอกอัจฉรานรีตามที่ว่าไว้ เธอขอกลับไปพักผ่อนที่ห้องเสียก่อน พอเดินไปถึงโต๊ะของญาติผู้พี่ที่นั่งแต่แรกกลับเจอแต่เพื่อนผู้ชายไม่เจอตัวอัจฉรานรีเสียอย่างนั้น
“เอ่อ...พี่เอพริลละคะ” ถามเก้อเล็กน้อยปะปนไปกับอาการกระสับกระส่ายแปลกๆ
“ทำไมเหรอครับน้องคนสวย” ชายคนหนึ่งในกลุ่มที่ท่าทางเมาหนักกว่าคนอื่นถามด้วยแววตาฉ่ำเยิ้มเต็มที่
จนแพรไหมชักกลัว อึกๆอักๆพูดอะไรไม่ออก “คือ…เอ่อ”
ดีที่มีคนช่วยเธอไว้ “โอย มึงอย่าหื่นใส่น้องขนาดนั้น...นู่นแน่ะครับเห็นเดินออกไปตรงมุมสวนกับนายวัตครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
แพรไหมตอบรับ แล้วออกเดินไปตามทางโรยกรวดที่ได้รับการชี้นำมาว่าอยู่ตรงนี้ ขณะออกเดินขาที่เสียดสีกันมาไปนั่นทำให้หญิงสาวออกร้อนผะผ่าวทั้งตัว ยิ่งส่วนที่เป็นแกนกลางกายยิ่งหนัก แต่ละก้าวทรมานราวกับถูกไฟเผาไหม้ลามไปทั่วตัว
ใบหน้าสวยแดงกล่ำ ดวงตาหวานแต่เศร้าบัดนี้หยาดเยิ้มไปด้วยฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดขนาดแรง
เธอเดินมาจนถึงสวนไม้ที่ว่า แต่ตรงนั้นกลับว่างเปล่าไร้ผู้คน บริเวณสวนแห่งนี้อยู่ติดกับหาดมากกว่าส่วนอื่น และยังมีห้องชั้นเดียวสร้างไว้เบื้องหน้านี่ด้วย คงสำหรับเจ้าของบ้านใช้พักผ่อนละมัง แพรไหมมองสำรวจจนทั่วแล้วอาการร้อนวูบวาบก็หนักหน่วงขึ้นทุกที ยืนหนีบขาแน่นแล้วพาตัวเองหมุนตัว ตัดสินใจหันไปยังทิศทางเดิม เพื่อกลับห้องของตนเอง เธอทนอาการแบบนี้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
“เป็นอะไร”
เสียงถามของใครคนหนึ่งทำเอาหญิงสาวผวา แพรไหมแทบทรงตัวไม่อยู่แล้วตอนนี้ ขาของเธอราวกับไร้กระดูกและพร้อมจะทรุดตัวรูดลงไปกองที่พื้นได้ทุกเมื่อ และคนที่ถามก็คว้าแขนของเธอเอาไว้ได้ทัน ดึงขึ้นมาเพื่อถาม ใบหน้าสวยเศร้าๆที่เขามองจ้องยามอัจฉรานรีแนะนำให้รู้จักกันนั้น บัดนี้แดงจัด ปากสวยเต็มอิ่มถูกกัดเม้มเสียแน่นน่ากลัวจะห้อเลือดในอีกไม่ช้าไม่นานนี้ ยิ่งดูยิ่งยั่วยวนใจนักโดยเฉพาะอยู่ในชุดวาบหวิวที่สวมใส่นี่ด้วย
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบกับเขา ตอบเสียงสั่น “ปะ เปล่าคะ ไม่ได้เป็นอะไร”
“ไม่สบายหรือไง ทำไม…” วิษุวัตละความสงสัยไว้ในหัวไม่พูดออกมา แพรไหมร้อนซ่าไปหมดทั้งตัวเห็นมือของตนเองยกขึ้นไต่ไปตามแขนล่ำบึกบึนของชายตรงหน้า แล้วบีบคลึงเขาอย่างน่าเกลียดนัก
“ทำอะไร” เขาหรี่ตาถามเสียงคล้ายดุแต่มีความพึงพอใจในนั้นอยู่ด้วย
“ขะ...ขอโทษค่ะ”
นี่เธอเป็นอะไร ทำไมถึงอยากลูบไล้ชายตรงหน้าขึ้นมาได้ แล้วเงยหน้าสบตาเขา ปากอิ่มที่บัดนี้แดงจัดเผยอขึ้นน้อยๆคล้ายรอรับสัมผัสที่ปรารถนาอยู่ลึกๆ
วิษุวัตเองก็ใช่มนุษย์ไร้ความรู้สึก เขายอมรับว่าพึงพอใจในรูปร่างรวมไปถึงใบหน้าของหญิงสาว และเขาไม่ใช่พวกชอบโชว์แม้จะเติบโตในต่างแดนแต่ความสำนึกในบ้านเกิดเมืองนอนยังมี ทำให้เขาตัดสินใจย้ายสถานที่ที่มั่นใจว่าจะทำต่อจากนี้กับสาวงามตรงหน้า
คิดเล่นๆขณะจับจูงมือหญิงสาวไว้ว่าหากเธอขัดขืนเขาจะปล่อยทันทีเพราะไม่นิยมการบังคับขืนใจใคร แต่แม่สาวในกำมือเขาตัวอ่อนเดินตามแรงจูงไม่มีทักท้วงแม้เพียงครึ่งคำ
ทันทีที่ปิดประตูลง วิษุวัตก็เหมือนถูกราดด้วยน้ำมัน เรือนกายของเขากำลังลุกพรึ่บติดไฟอยู่ในตอนนี้
ชายหนุ่มเชยคางได้รูปขึ้นเพื่อรับจูบจากเขา ร่างเย็นสะท้านเฮือกขึ้นแล้วตอบสนองอย่างที่ทำเอาเขางันไป เพราะเธอคล้ายคนไม่เคยถูกจูบมาก่อน จึงเอาบุญให้ด้วยการสอนบทเรียนขั้นต้นกับการสอดเรียวลิ้นเข้าไปทักทายพร้อมเกี่ยวตวัดรัดไล้ไปมาจนไฟปรารถนาลุกฮือขึ้นมากกว่าเดิม วิษุวัตรัดร่างเย้ายวนเข้ามากอดลูบไล้ไปมาทั้งยังได้ยินเสียงครางอือจากเธอ อะไรทำให้เขาถูกใจเธอได้ขนาดนี้ ในหัวตอบขึ้นมาในทันทีว่าเขาชอบเสียงหวานๆที่ครางเสมือนสาวไร้เดียงสาของเธอ
ไม่เคยใจร้อนในการร่วมรักกับใครเท่าครั้งนี้มาก่อน เขารั้งชุดบนเรือนกายหญิงสาวออกอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันกับความต้องการสอดแทรกเข้าไปภายใน
แล้วใจหนุ่มก็สั่นไหวยิ่งขึ้นเมื่อเห็นความงามของสองเนื้อนุ่มในบราที่โอบอุ้มกระชับแน่น เธอซ่อนของดีไว้จนเขาแทบไม่เชื่อสายตา ร่างเล็กแต่ทรวงงามอิ่มเต่งตึงเป็นทรงกลมสวยราวกับผ่านมีดหมอมาอย่างไรอย่างนั้น
เขาโน้มลงไปประทับปากอุ่นจนร้อนจัดเข้ากับเนินเนื้ออิ่มทันทีเจ้าของทรวงงามสะดุ้งแต่ไม่ดิ้นรนถอยหนีแต่อย่างใดวิษุวัตจึงรั้งบราลงอ้าปากครอบลงบนเม็ดยอดสีแดงกล่ำราวกับทารกหิวกระหาย
ดูดเย้าจนได้ยินเสียงหวานๆครางดังขึ้นอีกคล้ายใกล้ขาดใจ เขาหยอกเอินต่อด้วยการไล้ปลายลิ้นเล่นกับยอดอกที่หดตัวแข็งรับสัมผัสมากยิ่งขึ้นจนต้องบิดกายเร่าเพราะแรงกระตุ้นที่ได้รับ แพรไหมแอ่นกายตลึงเพริดป้อนให้อย่างเก้ๆกังๆเพื่อให้เขาชิมรสจนพอใจ
