9

“นี่ ๆ ช่วยมองให้เต็มตาปลิงควายที่ไหนจะหุ่นแซ่บขนาดนี้” ไตรเทพทำเป็นยืนอวดหุ่นชวนฝันแถมยังพูดชี้ชวนให้ดูกล้ามท้องที่เกร็งอวดซิกแพคอย่างภาคภูมิใจ

นับดาวเผลอมองตามการเชิญชวน...อืม....แซ่บจริง ๆ ด้วยว่ะ โคตรเซ็กซี่เลยอ่ะ......เฮ้ย...อย่าหลงกลไอ้โรคจิตเชียวนะนับดาว...หญิงสาวดึงสติตัวเอง

“นี่ยัยป้าอย่าแม้แต่จะคิด บอกแล้วไงว่าเธอไม่มีทางได้แอ้มตัวฉันแน่นอน” เห็นสายตาไม่น่าไว้ใจก็ชักใจคอไม่ดีเผลอ ๆ ยัยป้าบ้าเลือดไล่ปล้ำขึ้นมารู้ถึงไหนอายถึงนั่น...ไม่ ๆ ๆ .... เขาจะไม่ยอมพลาดเป็นครั้งที่สองเด็ดขาด

“ฮึ...อย่าเผลอก็แล้วกัน” ไม่พูดเปล่าหล่อนยังจ้องมองเขาทำท่าทางหื่นกระหายเล่นเอาฝ่ายนั้นเดินหนีไปเลย....ฮ่า...ฮ่า...ฉันรู้จุดอ่อนของนายแล้วไอ้ตัวร้าย........

วันแต่งงาน

บ่าวสาวหมอบรับน้ำสังข์เคียงคู่กันบนตั่งทองผ่องอำไพที่เปล่งแสงมลังเมลืองในเวลากลางวันแสก ๆ เพราะออร์แกไนซ์ จัดไฟส่องสาดแสงเข้าหาเพื่อให้ดูอลังการสมกับเป็นงานช้าง แต่คงลืมคิดไปว่าคู่บ่าวสาวเหมือนโดนจับมัดแล้วย่างสร้างความทรมานอย่างแสนสาหัส .......เพื่อหน้าตาและชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล…ผู้คนคงร่ำลือข้ามเดือนข้ามปีกันเลยทีเดียว....

“นี่เธอดูสิสวยสมกันอย่างกับเทพบุตรเทพธิดาเลยเนอะ”

“ใช่ ๆ ๆสวยมาก ฉันได้ข่าวว่าคุณนายแกจ้างออแกไนซ์มาแพงมาก สุดกว่างานไหน ๆ เลยนะเธอ”

“โอ๊ะก็แน่แหละลูกชายคนแรกที่ได้แต่งงานนี่จ๊ะ”

“เขาว่ากันว่า เพราะมีลูกสาวตำตาหรอกถึงหนีไม่ออก”

“วุ้ย...ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง”

กลุ่มสาวช่างเม้าท์หัวเราะกันเบา ๆ ....เอ่อ...เบาแบบไหนวะเขาเรียกนินทากันชนิดเผาขนเลยต่างหาก....ไตรเทพเริ่มหงุดหงิดเมื่อเหลือบมองแถวยาวเหยียดที่ต่อคิวรดน้ำสังข์...เฮ้อ...อะไรกันนักหนาวะเนี่ยทำไมถึงได้ดีใจกับห่วงผูกคอของกูกันจัง....

นับดาวเหลือบมองคนข้าง ๆ ด้วยสายตาตำหนิ ทั้งหาวทั้งขยับตัวยุกยิกแสดงความเบื่อหน่ายแถมหงุดหงิดออกมาอย่างเห็นได้ชัด ไม่เห็นแก่หน้าคุณนายตรีเนตรกับท่านสิบทิศเลยสักนิดไอ้คนไม่มีมารยาท….

“มีปัญหา?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองคนที่นั่งด่าเขาด้วยสายตา... ทำอย่างกับตัวเองดีนักหนางั้นแหละ

“นั่งนิ่ง ๆ สักพักได้ไหม” หญิงสาวอ่อนใจ เมื่อเห็นคนเลิกคิ้วได้กวนตีนที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา

“อยากเป็นแม่ฉันนักรึไง”

“เออ......จะได้จับนายดัดสันดานให้เข็ด” นับดาวยิ้มแยกเขี้ยวใส่

“ยัยแม่มด !” ไตรเทพฮึดฮัดทำอะไรไม่ได้มากเพราะคุณนายแม่แย้มยิ้มแต่มองมาตาเขียวปั๊ดหากคิดสร้างปัญหาคงโดนแน่.....ยอมให้ก่อนก็ได้วะ....

หลังจากพิธีรดน้ำเสร็จสิ้นลงไม่นาน คุณนายตรีเนตรก็ทำในสิ่งที่สองหนุ่มสาวไม่คาดคิด หล่อนจัดแจงให้ทั้งคู่จดทะเบียนสมรสกันเสร็จสรรพแบบมัดมือชก…ก็ทำไมจะ ไม่กล้าทำล่ะ ในเมื่อตั้งแต่นายอำเภอยันเจ้าหน้าที่คนเล็กคนน้อยต่างรู้จักมักคุ้นกันดีในฐานะประธานชมรมลีลาศที่ไปประกวดล่าถ้วยรางวัลกันมาหลายครั้งหลายหนและแน่นอนว่าคุณนายคือสปอนเซอร์ใหญ่ หากไอ้วายร้ายเกิดพยศขึ้นมาล่ะก็บอกเลย..ยังไงก็หนีไม่รอด…

พิธีการดำเนินไปอย่างชื่นมื่นหมายถึงคุณนายตรีเนตรกับผองเพื่อนแล้วก็แม่หลานสาวแก้มยุ้ยที่ถูกพาไปโชว์ตัวทั่วทั้งงานจนบางคนคิดว่าเป็นงานเปิดตัวหลานสาวเสียอีกแต่ก็ยังดีที่ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากบ่าวสาวที่ทำหน้าเหมือนโดนขืนฝืนให้กินยาขมเสียมากกว่าแต่ก็ยังทนรักษาหน้าผู้หลักผู้ใหญ่จนกระทั่งเสร็จสิ้นพิธีส่งตัวเข้าหอแล้วนั่นแหละถึงได้ดีดตัวออกไปนั่งคนละมุมห้องอย่างเบื่อจัด

เวลาผ่านไปสักพักนับดาวตัดสินใจลุกขึ้นไปอาบน้ำล้างเครื่องสำอางอยู่นานพอดูไม่สนคนที่ยังมีแก่ใจมานั่งจิบไวน์อย่างสบายอารมณ์จะนั่งยันเช้าก็ไม่ใช่เรื่องของหล่อน

ชายหนุ่มนั่งทอดถอนใจไขว่ห้างอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ เขากำลังคิดหาวิธีไล่ยัยป้า.....ไม่ใช่สิเขาก็พูดเกินไปหน่อย พอยัยนั่นแต่งองค์ทรงเครื่องก็พอดูได้แต่ไม่รู้ว่าข้างในยัดอะไรไว้บ้าง มันถึงได้ตู้มต้ามขึ้นมาแบบผิดหูผิดตา.....อืม...สงสัยเมื่อห้าปีก่อนก็คงจะมีดีอยู่บ้างแหละ แต่ทำไมกูคิดไม่ออกสักทีวะว่าไปได้ยัยนี่ตอนไหน......

ไตรเทพละสายตาจากแก้วไวน์ที่นั่งจ้องมันแบบโง่ ๆ มาพักใหญ่เมื่อได้กลิ่นหอม ๆ ของมวลดอกไม้..เออ...ดอกอะไรก็ช่างเถอะมันโชยออกมาก่อนที่ยัยแม่มดจะโผล่หัวโต ๆ ที่โพกด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่ออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดคลุมรุ่มร่ามน่ารำคาญ..ฉิบหาย....

“ไม่ต้องปิดต้องบังขนาดนั้นก็ได้มั้ง......ทำอย่างกับมีของ” แกว่งปากหาเรื่องแต่ดันไม่ได้เรื่องกลับมา