6
คนพรรค์นั้นของนับดาวกำลังนั่งจิบบรั่นดีอยู่บริเวณโซนวีไอพีชั้นสองที่มองลงมาเห็นด้านล่างเป็นมุมกว้าง ไม่บ่อยนักที่เขาจะมานั่งที่นี่แต่วันนี้เพื่อนรักอย่างชัชชัยที่ไม่ได้เจอกันนาน กลับมาเมืองไทยทั้งทีเขาจึงนัดเจอที่นี่
“เป็นไงวะ นั่งหน้าบูดเป็นตูดลิง” แขกผู้มาเยือนมองเพื่อนที่นั่งถอนหายใจหลายเฮือกมาสักพักใหญ่หลังจากทักทายถามสารทุกข์สุกดิบกันแล้วก็เอาแต่นิ่ง ผู้หญิงสักคนมันก็ไม่เรียกมาให้ได้แต่นั่งมองหน้ากันอยู่สองคน
“กูนึกไม่ออกว่าเมื่อก่อนกูไปสดตอนไหน ทำไมถึงจำไม่ได้เลยวะ” ไตรเทพรำพึงออกไปอย่างไม่หายคลางแคลงใจ
“คิดเรื่องบ้าอะไรวะ.....ว่างนักหรือไงมึง” ชัชชัยแปลกใจเพราะปกติไอ้เทพฉายา.....นักดาบไร้ใจ.....มันฟันไม่เลี้ยง.....ดังนั้นมันไม่เคยพลาดท่าปล่อยให้ผู้หญิงคนไหนท้องเด็ดขาดหรือว่ามันเกิดพลาดเข้าจริง ๆ
“กูมีลูกสาวอายุห้าขวบแล้วว่ะ.....”
….พรวด !!.....แค่ก ๆ ๆ .....
“ไอ้เทพ...เมื่อห้าปีที่แล้วนั่นมันยุครุ่งเรืองของมึงเลยนะเว้ย.... ว่าแต่ผมดำหรือผมทองอ่ะ”
“ไอ้บ้า...กูซีเรียสนะ”
“ก็ไปตรวจดีเอ็นเอดิ ไม่เห็นจะยาก”
“ตรวจแล้ว”
“สรุปว่าใช่” ไม่ต้องบอกก็เดาได้ไม่อย่างนั้นมันคงไม่มานั่งกลุ้มใจอยู่แบบนี้
“เออ.....กูเลยต้องแต่งงาน...แม่งซวยฉิบหาย” ชายหนุ่มสาดเหล้าเข้าลำคออย่างมีอารมณ์
“แล้วใครวะผู้หญิงที่แจ๊คพอตแตกคนนั้น น้องกีฟ น้องเชอรี่ น้องปานวาดหรือว่าพี่พิซซี่......”
“ยัยป้าที่ไหนก็ไม่รู้ กูว่ากูต้องเมาหนักแน่ ๆ หรือไม่ยัยนั่นต้องเล่นของ”
“ชื่ออะไรวะ เผื่อกูช่วยนึก”
“ยัยแม่มด !”
“สรุปว่ายังไม่รู้ชื่อเจ้าสาว?”
“เออ !” ไตรเทพนึกไม่ออกเพราะไม่คิดจะจำคำว่าสิบแปดมงกุฎหรือยัยแม่มดนั่นก็เหมาะสมกับคนอย่างหล่อนดีแล้ว
ชัชชัยหมดคำจะพูดได้แต่มองเพื่อนตาปริบ ๆ ไอ้บ้านี่อาการหนักจริง ๆ ว่ะ........
หนึ่งเดือนต่อมา
“คุณแม่ขาทำไมเราต้องย้ายมาอยู่บ้านคุณย่าด้วยล่ะคะ” หนูน้อยแหงนคอมองบ้านหลังใหญ่ไม่ได้ตื่นเต้นมากมายนักหนักไปทางแปลกใจมากกว่า
ปกติเด็ก ๆ ที่โรงเรียนอนุบาลสิบทิศเรียกคุณตรีเนตรว่าคุณย่าทุกคนอยู่แล้ว ตอนที่นับดาวบอกว่าติ๊ดตี่เป็นหลานย่าและต้องย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เด็กหญิงจึงทำเพียงพยักหน้ารับรู้เพราะมัวแต่สนใจขนมในมือที่ดึงดูดความสนใจของหนูน้อยไปทั้งหมด
“ก็เพราะติ๊ดตี่เป็นหลานของคุณย่าไงคะ อยู่ที่นี่ติ๊ดตี่จะมีคุณปู่คุณพ่อคุณลุงคุณอาเยอะแยะเลยค่ะ” นับดาวอธิบายอย่างใจเย็น
“อ๋อค่า.......แล้วทุกคนก็ซื้อขนมให้ติ๊ดตี่เยอะแยะด้วยใช่ไหมคะ” เด็กหญิงพยักหน้าหงึกหงักเหมือนเข้าใจอะไรง่าย ๆ ก่อนจะยิ้มสดใสแววตาเปี่ยมไปด้วยความหวัง.......
นับดาวส่ายหน้าระอาใจกับยัยเด็กจอมวางแผน คงกำลังคิดจะรีดไถขนมจากทุกคนอยู่เป็นแน่ แต่ก็ดีเหมือนกันที่เจ้าตัวแสบไม่สงสัยอะไรมากกว่านั้น
“ติ๊ดตี่เดี๋ยวลูก จะไปไหน”
จู่ ๆ ยัยเด็กแสบก็ปล่อยมือคนเป็นแม่แล้วออกวิ่งกระโปรงบานถลาไปที่ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาท่าทางภูมิฐานซึ่งน่าจะเป็นลูกชายคนโตของคุณนายตรีเนตร คุณไตรทศหนุ่มนักธุรกิจที่สาว ๆ เมืองนี้อยากได้ครอบครองหัวใจเป็นสะใภ้ใหญ่ของธรรมประทาน ในขณะที่นับดาวเหม่อนิดหน่อยจึงเรียกเด็กน้อยเอาไว้แต่ก็ไม่ทัน
“คุณพ่อขา” ติ๊ดตี่วิ่งเข้าไปเกาะขาผู้ชายในชุดสูทสุดเนี๊ยบดูดีสมคำร่ำลือว่าลูกชายบ้านนี้หน้าตาดีกันทุกคน เสียแต่ว่าติดจะเย็นชาเข้าถึงยากสักหน่อยไม่เคยมีข่าวคาวเสีย ๆ หาย ๆ เหมือนคนน้อง
“เอ่อ...ครับ” ชายหนุ่มก้มมองเด็กหญิงตัวป้อมอย่างแปลกใจในคราแรก ก่อนจะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรเพราะมารดาแจ้งให้ทุกคนทราบแล้วว่าลูกเมียของนายไตรเทพจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่วันนี้
“คุณพ่อขา.....คุณพ่อของติ๊ดตี่ใช่ไหมคะ” เด็กหญิงเงยหน้ามองคนตัวโตตาละห้อยในขณะที่พับเพียบอยู่แทบเท้า บทดราม่านี่ทางของติ๊ดตี่เลยล่ะ
นับดาวเห็นแล้วก็ขำไม่ออก สงสัยยัยติ๊ดตี่จะแอบดูละครกับพี่เลี้ยงมาแน่ ๆ เลย หล่อนเคยห้ามแล้วเชียว...แล้วนี่เขาจะหาว่าหล่อนเสี้ยมสอนลูกมาแบบนี้หรือเปล่าวะ...ติ๊ดตี่นะติ๊ดตี่ ทำอะไรไม่ปรึกษากันเลยยัยตัวแสบ......
“ฉันเป็นลุงของหนู ชื่อไตรทศเรียกลุงทศก็ได้ครับ” ชายหนุ่มแนะนำตัวอย่างอ่อนโยนรู้สึกถูกชะตากับดวงหน้ากลม ๆ แววตาสดใสของเด็กหญิงตรงหน้า
“คุณลุงทศ สวัสดีค่าหนูชื่อเด็กหญิงตติยา ใจสะอาดค่า......” ติ๊ดตี่ถอยออกมาเล็กน้อยพลางยิ้มอาย ๆ แต่ก็ไม่ลืมยกมือไหว้และแนะนำตัวอย่างที่ได้รับการสั่งสอนมาอย่างดี
“ขอโทษนะคะคุณไตรทศที่ปล่อยให้ติ๊ดตี่แกเข้ามาวุ่นวาย” นับดาวมองชายหนุ่มที่ขมวดคิ้วเพียงเล็กน้อยก่อนจะคลายออกและแทนที่ด้วยความสงบเยือกเย็น ช่างแตกต่างจากนายไตรเทพราวฟ้ากับเหว ทำไมนะพี่นับ เดือนถึงไม่เลือกคนนี้...หญิงสาวได้แต่เสียดายแทนพี่สาวฝาแฝดที่จากไป
“ไม่เป็นไรครับ คุณคือ?”
“ดิฉันนับดาว สวัสดีค่ะ” หญิงสาวแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ
“ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวของเราครับ” ไตรทศยิ้มน้อย ๆ รู้สึกคุ้น หน้าคุ้นตาอีกฝ่ายอย่างบอกไม่ถูกแต่ก็นึกไม่ออก
