17
ท่านนักการเมืองใหญ่ขยับตัวนั่งหลังตรงกระแอมกระไอก่อนจะเอ่ยขึ้นเพื่อแก้ไข คนระดับนี้รู้ดีว่าไม่ควรเป็นศัตรูกับนักข่าว ทางที่ดีอย่าเอาตำแหน่งไปเสี่ยงเลยจะดีกว่าท่าทีจึงเปลี่ยนไปราวกับจิ้งจกเปลี่ยนสี
“เอาจริง ๆ นะฉันก็แค่มาล่อซื้อ เห็นว่าที่นี่เปิดใหม่ถ้าไม่มีการทำเรื่องผิดกฎหมายก็แล้วไป” นี่คือการกลับดำเป็นขาวที่เขาถนัดที่สุด ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถเดินบนเส้นทางนี้ได้อย่างยาวนานโดยที่สันดานเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง
“ดิฉันก็ว่าแล้วว่าต้องเกิดการเข้าใจผิดเพราะคนอย่างท่านไม่ใช่ไอ้แก่ตัณหากลับชอบวางอำนาจกับคนที่อ่อนแอกว่าแน่ ๆ ดาวบอกเฮียแล้วไงคะ เฮียก็ไม่เชื่อดาว” ประโยคหลังหันไปฉอเลาะกับสามีหน้าตาเฉย
“เอาล่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัว ส่วนที่ลูกน้องฉันพลั้งมือเล่นแรงไปหน่อยขอโทษด้วยก็แล้วกัน ฉันจะจ่ายค่าเสียหายให้ทั้งหมดรวมทั้งแม่หนูนี่ด้วย” ทั้งน้ำเสียงและท่าทางกลับมาน่านับถืออีกครั้งแต่เด็กที่ถูกลวนลามไม่ยอมมองหน้าเขาด้วยซ้ำคงทั้งเกลียดทั้งขยะแขยงต่อให้กลับลำยังไงหล่อนก็ไม่เชื่อ
“ขอบคุณครับท่าน” ไตรเทพยกมือไหว้ขอบคุณ โล่งใจที่ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีโดยไม่ต้องใช้กำลัง ถึงแม้เขาจะมั่นใจว่าสามารถจัดการได้ ไม่เคยเกรงกลัวอิทธิพลใด ๆ แต่เรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้นเป็นดีที่สุด
เรือนร่างสูงใหญ่ของไตรเทพจับจูงนับดาวที่กลายเป็นสาวตัวเล็กไปถนัดตาทั้งที่สัดส่วนของหล่อนก็อยู่ในมาตรฐานหญิงไทย ทั้งคู่ตรงกลับเข้าไปในห้องอีกครั้งด้วยใบหน้าบึ้งตึง ทิ้งให้บรรดาลูกน้องที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างซุบซิบกันเซ็งแซ่ถึงซ้อใหญ่ที่สวยไฉไลแถมยังฉลาดปราดเปรื่อง แต่เหตุใดเฮียของพวกเขาถึงทำราวกับไม่พอใจขนาดนี้ด้วยหรือว่าหวง
“ใครใช้ให้ตามเข้าไป” ไตรเทพตะคอกถาม ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้หงุดหงิดมากมายนักหนาวะ.....
“เปล๊า ! ฉันมีขา” นับดาวไหวไหล่ไม่ยี่หระกับอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงของคนตรงหน้า รู้สึกชอบใจด้วยซ้ำหลังจากโดนแกล้งปั่นหัวมานับครั้งไม่ถ้วน
“นับดาว” แววตาวาววับกับน้ำเสียงกดต่ำอย่างพยายามสงบสติอารมณ์อย่างหนัก
“เรียกชื่อถูกแล้ว” หญิงสาวเลิกคิ้วเรียวสวยขึ้นมองยิ้ม ๆ “บอกก็ได้....แค่อยากรู้จักกิจการของสามี มีอะไรป่ะ....” หญิงสาวลอยหน้าถามอย่างอารมณ์ดีที่เห็นอีตานี่ลมออกหู
“เหรอ....นึกว่าขี้เสือ...กเป็นนิสัย”
“ปากหรือส้วมวะ”
“พูดจาให้มันดี ๆ หน่อย ไม่กลัวลูกมาได้ยินหรือไง” ถึงแม้เขาจะเถื่อนค่อนไปในทางถ่อยแต่ก็ไม่ชอบฟังคำหยาบจากปากผู้หญิงสวย ๆ ...บอกตรง ๆ ว่าเสียดายว่ะ.....
“เฮอะ...หูฉันไม่ฝาดไปใช่ไหมเมื่อกี้นายพูดเหมือนห่วงลูก”
“เออ....ก็ลูกฉันเหมือนกันป่ะ...” พอนึกถึงหน้าตาบ้องแบ๊วของเด็กหญิงอวบอ้วนก็รู้สึกว่าอารมณ์ดีขึ้นมาหลายระดับจริง ๆ
“งั้นนายก็หัดพูดจาให้มันดี ๆ ด้วยล่ะเดี๋ยวลูกจะจำไปใช้ผิด ๆ ”
ชายหนุ่มถอนหายใจหนัก ๆ โดนสวนกลับทุกดอก กูทำกรรมอะไรไว้วะถึงได้ยัยผีบ้ามาเป็นเมีย…..
“ตกลงว่าที่โมโหอยู่เนี่ยเพราะอะไรไม่ทราบ”
“มันน่าโมโหไหมล่ะ เดินทะเล่อทะล่าเข้าไปได้ ไม่เห็นปืนหรือไง”
“เป็นห่วง ว่างั้น”
“เปล๊า ! ก็แค่ไม่อยากเห็นใครตายที่นี่ ผีเธอคงจะเฮี้ยนน่าดู” ชายหนุ่มเบะปาก เขาไม่ได้เป็นห่วงนิดเดียวก็ไม่ใช่จะไปตายที่ไหนก็ไสหัวไปแต่ไม่ใช่ที่นี่....อืม....ความจริงถ้าเจ้าหล่อนรักษาชีวิตเอาไว้หน่อยก็ดี...อย่างน้อยก็เพื่อติ๊ดตี่
“ปากแข็ง”
“อย่างอื่นก็แข็งด้วยเถอะ” ชายหนุ่มสะบัดหน้าหนีเหมือนโดนจี้จุดจะขุดรูหนีก็ไม่ทันแล้ว เขาคงจะเป็นห่วงเจ้าหล่อนจริง ๆ นั่นแหละแต่ไม่รับมีอะไรไหม....
“นายนี่ลามกได้ทุกสถานการณ์จริง ๆ”
“ใครกันแน่ที่ลามก...ถามจริงเหอะคิดว่าอะไรแข็งอ่ะ อยากดูป่ะ” ไตรเทพหันหน้ากลับมายิ้มพราว แววตาเปล่งประกายวิบวับริมฝีปากยกยิ้มทำท่ากะลิ้มกะเหลี่ยเขี่ยมือแถว ๆ เข็มขัดตัวเอง
“บ้า ! ฉันจะกลับบ้าน” นับดาวรู้สึกถึงความไม่น่าไว้ใจของอีกฝ่าย คงต้องหาทางปรึกษาคุณนายตรีเนตร บางทีอิตานี่อาจต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนจากจิตแพทย์.....
