โชคชะตา 1
เว่ยหย่งฮวาตัดสินใจส่งอีเมลทิ้งไว้ หวังว่าพรุ่งนี้พนักงานของโรงงานนั้นจะติดต่อเธอกลับมาอย่างรวดเร็ว
"เปลี่ยนโรงงานผลิตดีไหมนะ"
ครึ่งปีมานี้นี่เป็นครั้งที่สองที่มีปัญหา แถมยังเป็นปัญหาที่ทำให้สินค้าใช้ไม่ได้สักตัวเลยด้วย เหมือนเอาของเหลือจากความผิดพลาดทั้งหมดส่งมาให้ เจ้าของแบรนด์อย่างเธอไม่มีทางปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปแน่ ต่อให้เป็นแบรนด์เล็ก ๆ แต่นี่ก็เป็นความภาคภูมิใจ
เว่ยหย่งฮวาพยายามปรับอารมณ์ตัวเองให้ใจเย็นลง วันนี้เธอเจอเรื่องหนักมามากเกินไปแล้ว หากจะปล่อยให้อารมณ์โกรธค้างคาอยู่แบบนี้จะไม่ดีกับสุขภาพเธอด้วย
เว่ยหย่งฮวาต้องการกำลังใจจึงโทรศัพท์ไปหาแม่ แต่ยังไม่ทันที่เสียงรอสายจะดังเธอก็ตัดสายทิ้งก่อนเพราะกลัวจะรบกวน แม่ของเธออาจจะหลับไปแล้วก็ได้
"นี่มันวันแย่ ๆ อะไรกันเนี่ย รับไม่ได้จริงๆ" เธอเอนตัวนอนบนโซฟา วางแขนก่ายหน้าผาก ด้วยความเหนื่อยล้าจึงเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น
ค่ำคืนที่มืดสนิททุกคนรู้ว่าอันตรายสามารถย่างกลายเข้ามาได้เสมอ แต่ที่ผ่านมาสงบสุขมากจนอาจนึกไม่ถึงว่าจะถึงคราวตัวเองเข้าจนได้
ประตูกระจกที่ล็อคดีแล้วจากด้านใน มีม่านติดไว้ไม่ให้คนนอกมองเข้ามาเห็นว่าข้างในมีอะไรหรือมีใครอยู่หรือไม่ หากเคยมาสักครั้งก็จะรู้ว่ามันเป็นแค่ร้านขายเสื้อธรรมดา ห้องเล็ก ๆ ห้องเดียวไม่มีของมีค่าอะไร
หากไม่ใช่โจรโง่ ๆ ที่สุ่มหาบ้านปล้นไปเรื่อย ก็ต้องเป็นคนคุ้นเคยที่รู้ว่ามันมีของมีค่าอะไรในที่แห่งนี้ ที่ดูผิวเผินเป็นแค่ร้านขายเสื้อธรรมดาบ้าง
กุญแจร้านถูกหมุนบิดจนปลดล็อคได้จากด้านนอก ง่ายดายเสียจนไม่มีเสียงรบกวนออกมา แทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย
กระทั่งผู้บุกรุกก้าวเข้ามาจึงสังเกตได้ว่าบนพื้นมีรอยหยดน้ำ ซึ่งก่อนจะออกไปอิงอิงจำได้ว่าทำความสะอาดหมดแล้ว
หญิงสาวรู้สึกระแวงขึ้นมาทันที เธอคว้าเก้าอี้ที่อยู่ใกล้มือขึ้นมาเป็นอาวุธก่อนจะย่องเข้าไปในร้านเมื่อมาถึงห้องด้านหลังถัดจากห้องน้ำมาก็พบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งนอนหลับอยู่
"พี่ฮวาฮวา?" อิงอิงชะโงกหน้าไปดูใกล้ ๆ ก็พบว่าใช่จริง ๆ
เมื่อรู้ว่าเป็นคนคุ้นเคยเธอก็โล่งอก ตั้งใจจะหมุนตัวกลับไปปิดประตูร้าน ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นผู้บุกรุกเข้ามาที่ร้านจริง ๆ และชายผู้นั้นเหมือนจะรู้ตัวว่าเธอไม่ได้เป็นคนที่อยู่ในในร้านเพียงคนเดียว
กรี๊ดดดดด
เสียงกรีดร้องหวีดแหลมดังจนปลุกคนที่นอนอยู่ให้ตื่นขึ้นมา เว่ยหย่งฮวาสะดุ้งตัวโยน หันมองตามทิศทางของเสียง จากแสงไฟถนนที่ลอดเข้ามาทำให้เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าได้ไม่ชัดเจน แต่เธอก็เห็นแล้วว่ามีคนสองคนอยู่ในห้องกับเธอทั้งที่เธอล็อคประตูไปแล้ว
หญิงสาวเจ้าของร้านก็กรีดร้องออกมาซ้ำสอง ตกใจทั้งผู้บุกรุกและอื่น ๆ เพราะมันเห็นว่ามีคนอยู่ในร้านมากกว่าหนึ่งก็รามือแล้วรีบวิ่งหนีออกไป
"อิงอิง! อิงอิงเหรอ!?" สองสาวเพิ่งมาหากัน กอดกันกลม ต่างคนต่างตัวสั่นเป็นลูกนก
"พี่ฮวาฮวา ฉันกลัวมากเลย วันนี้เข้ามาไม่นึกว่าพี่จะมาวันนี้ฉันนึกว่าเป็นโจร พอเห็นเป็นพี่ก็โล่งใจ แต่เจ้าคนนั้นน่ากลัวมากจริง ๆ ฉันรีบไปล็อคประตูก่อนนะ"
เธอกล่าวเร็ว ๆ รัว ๆ จนลิ้นพันกัน ก่อนจะรีบหันตัวออกไปปิดประตูลงกลอนอย่างรวดเร็ว ชายผู้นั้นต้องเข้ามาพร้อมเธอแน่ ๆ
"พี่นึกว่าเธอกลับบ้านไปแล้ว แล้วนี่ย้อนกลับมาทำไม"
"ฉันไม่สบายใจเรื่องเสื้อของพี่รอบนี้เลย กลับไปคงนอนไม่หลับแน่ฉันก็เลยกลับมาใหม่"
"เธอแจ้งลงเว็บร้านแล้วเหรอว่าสินค้ารอบนี้มีปัญหา"
เว่ยหย่งฮวาเป็นคนบอกลูกพี่ลูกน้องคนนี้เองว่าให้แจ้งสถานการณ์ที่หน้าเว็บไซต์ของร้านด้วย ลูกค้าบางคนตั้งใจรอสินค้าข้ามเดือนเพื่อให้ได้ใช้แบรนด์ของเธอ ซึ่งเธอก็รักษามาตรฐานตัวเองตลอด ทำให้ลูกค้ายังเหนียวแน่น
คืนนั้นเธอนอนค้างกับอิงอิงที่ร้าน แต่เกิดความไม่สบายใจบางอย่างจนเธอหลับไม่ลง เว่ยหย่งฮวารู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี กว่าเธอจะข่มตาหลับได้ก็เกือบเช้า
ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าเช้าครั้งสุดท้ายของตัวเองจะมาถึงเมื่อไร เว่ยหย่งฮวาก็ไม่รู้เช่นกัน…
