บท
ตั้งค่า

บทที่ 1

“ข้าหนาว ข้าหนาวเหลือเกิน ขอร้องพวกท่านล่ะ ขอผ้าห่มให้ข้าสักผืนสิ ขอแค่ผืนเดียวก็พอแล้ว”

ในค่ำคืนที่สว่างไสวด้วยหิมะขาวโพลน ในบ้านโทรมๆ หลังเล็กข้างคอกม้า ใบหน้าของหลี่ชิงลั่วที่ขาวกว่าหิมะปรากฏให้เห็นผ่านช่องว่างกว้าง

ใบหน้าของนางผอมแห้งและคางแหลม ซูบผอมจนไม่มีเค้าโครงเดิม ดวงตาประกายแสงริบหรี่ มองดูข้ารับใช้ข้างนอกอย่างวิงวอนและยื่นมือต้องการความช่วยเหลือ

“ถุย! นังคนชั้นต่ำที่ไหนกัน? เจ้ามีสิทธิ์อะไรใช้ผ้าห่มคลายหนาวกัน?”

ข้ารับใช้แก่ยกเท้าขึ้นแล้วเตะหลี่ชิงลั่วไปข้างๆอย่างแรง หลี่ชิงลั่วเจ็บจนร้องโอดครวญ

ด้านหลังมีหลายคนวิ่งเข้ามาดู เมื่อเห็นภาพนี้แล้วก็หัวเราะ ‘ฮ่าๆ’ ออกมาเสียงดัง

“ดูนางสิ แม้จะเป็นสายเลือดแท้ๆของจวนแม่ทัพแล้วอย่างไร? สายเลือดนี้จะเทียบได้กับสิบหกปีแห่งการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันและความรู้สึกที่ลึกซึ้งและจริงใจได้อย่างไร?”

“เห้อ น่าเสียดายที่คุณหนูใหญ่ของเราต้องมาเขียนจดหมายลาตายแล้วลาจากโลกนี้ไป ก็เพราะนังชั้นต่ำคนนี้กลับจวนมาในวันแรก”

“แล้วยังใช้วิธีการเผาตัวเองจนตายอีก นางต้องหวาดกลัวแค่ไหนถึงทำเรื่องโหดร้ายที่ทำร้ายตนเองเช่นนี้ แล้วยังทำให้ทั้งจวนของเราต้องเจ็บปวดใจอย่างมากอีกด้วย”

เมื่อพูดถึงเรื่องอดีต เหล่าข้ารับใช้ก็ปวดใจจนน้ำตาไหลพราก

อาจเป็นเพราะว่ายิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ข้ารับใช้แก่คนหนึ่งก็หยิบไม้ข้างๆมา แล้วยื่นเข้าไปในห้องเล็กโทรมๆผ่านช่องว่าง อยากจะสั่งสอนหลี่ชิงลั่วอีก

คนข้างๆก็รีบดึงนางไว้ “ถึงอย่างไรแล้ว ตอนนี้นางก็ยังเป็นคุณหนูรองแห่งจวนแม่ทัพ เจ้าอย่าทำนางถึงตายสิ”

“เหอะ ตายก็ตายสิ ใครจะทำอะไรได้? เจ้าคิดว่าฮูหยินกับนายท่านแล้วก็คุณชายใหญ่จะสงสารนางอีกอย่างนั้นหรือ? นางควรตายไปตั้งนานแล้ว ในวันที่คุณหนูใหญ่ตายไป นางก็ควรตายไปพร้อมกันด้วย! น่าสงสารคุณหนูใหญ่ของเราจริงๆ”

“นั่นสิ ตั้งแต่คุณหนูใหญ่จากไป ฮูหยินก็จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว นายท่านก็ถอนหายใจบ่อยๆ คุณชายใหญ่ก็ยิ่งอารมณ์แปรปรวน ทั้งหมดนี้ก็เกิดเพราะเรื่องคุณหนูตัวจริงตัวปลอมมิใช่หรือ?”

แต่สุดท้ายแล้ว ไม้ของข้ารับใช้คนนั้นก็ไม่ได้ฟาดลงมา แต่พวกเขากลับใช้ขี้ม้าเหม็นหึ่งโยนเข้ามา ขว้างไปที่ตัวของหลี่ชิงลั่วไม่หยุด

ต่อมาก็ถึงแยกย้ายกันไป ไม่สนใจเจตนาเดิมของหลี่ชิงลั่วที่พยายามอย่างหนักเพื่อเรียกคนเหล่านี้มา

และนาง เดิมทีก็อยากขอแค่ผ้าห่มหนึ่งผืนเพื่อกันความหนาวเหน็บในห้องแห่งนี้

หิมะข้างนอกยังคงตกอยู่ตลอด

เสียงร้อง ‘ฮี้’ ของเหล่าม้าก็ค่อยๆเงียบลง

หลี่ชิงลั่วนอนอยู่บนแผ่นกระดานไม้อันหนาวเหน็บเงียบๆ นางจึงต้องพยายามดึงหญ้าฟางออกมาเพื่อคลุมร่างของตนเองไว้

สองวันก่อน เพียงเพราะนางไม่ระวังทำแก้วชาที่หลี่ชิงจูทิ้งไว้ตอนยังมีชีวิตอยู่ตกแตก ก็ถูกพี่ชายแท้ๆของตนเองหลี่เค่อชวนตบจนล้มลงพื้นไป

ต่อมา เขาก็ใช้ข้ออ้างว่าจะสั่งสอนมารยาทเพื่อให้นางจดจำไว้ ก็สั่งให้คนขังนางไว้ในห้องเล็กโทรมๆข้างคอกม้าที่เหม็นหึ่งนี้

เมื่อคืนนี้หิมะตกหนักในครั้งแรกของฤดูหนาวอันหนาวเหน็บนี้ได้มาอย่างเงียบๆ

นางหนาวจนทนไม่ไหวจึงวิงวอนขอผ้าห่มหนึ่งผืน

แต่ว่า ข้ารับใช้เหล่านี้ก็เกลียดนางด้วยเหตุของหลี่ชิงจู และใช้ข้ออ้างนี้ในการรังแกนางถึงเพียงนี้

หลี่ชิงลั่วรู้สึกว่า ชีวิตของตนก็เป็นเพียงแค่เรื่องตลก

ถ้ารู้แบบนี้ ตอนนั้นนางไม่ควรกลับมาที่ตระกูลหลี่เลย

แต่ทั้งที่รู้ว่านางเป็นสายเลือดที่แท้จริงของตระกูลหลี่ ทั้งที่นางเป็นลูกสาวแท้ๆของพ่อแม่และน้องสาวแท้ๆของพี่ชาย

แต่ในใจและสายตาของพวกเขามีเพียงหลี่ชิงจูที่เป็นลูกสาวและน้องสาวเพียงคนเดียว

สิบหกปีก่อน หมอตำแยแอบเปลี่ยนหลานสาวของตนเองกับนาง จากนั้นก็อุ้มนางกลับไปในป่าในเขา แล้วดูแลนางราวกับสุนัขตัวหนึ่งจนถึงอายุห้าหกขวบ

นับแต่นั้นมา หลี่ชิงลั่วก็กลายเป็นทาสรับใช้ แม้แต่ข้าวก็ยังกินไม่อิ่ม และไม่เคยหลับสนิทเลยสักคืนเดียว โดยต้องดูแลพวกเขาทั้งครอบครัวทั้งวันทั้งคืน

จนกระทั่งคนของตระกูลหลี่มาตามหากะทันหัน

ตัวตนที่แท้จริงของนางก็ถึงถูกเปิดเผย ตัวตนของนางคือคุณหนูที่ถูกสลับตัว!

หลี่ชิงลั่วพบประกายแห่งความสุขท่ามกลางความสับสน และถูกนำตัวกลับเมืองจินหลิงด้วยความคาดหวังที่เต็มเปี่ยม

ตระกูลหลี่ไม่แม้แต่จะกล่าวโทษถึงการกระทำในตอนนั้นของครอบครัวหมอตำแย และไม่เคยคิดว่ามันคือแผนร้ายด้วย

แต่ว่า เมื่อครู่นี้นางได้พบกับพ่อแม่ที่ยืนอยู่หน้าประตูจวนหลี่ ตอนที่นางยังไม่ได้เข้าไปใกล้ ก็ได้ยินเสียงตะโกนกระวนกระวายใจดังมาจากในจวน “ไม่ดีแล้ว!! คุณหนูใหญ่จุดไฟเผาตัวเอง คุณหนูใหญ่จุดไฟเผาตัวเองแล้ว!!”

หลี่ชิงจูทิ้งจดหมายลาตายไว้ บอกว่าเป็นเพราะเหตุผลที่ตัวตนถูกเปิดเผย นางรู้ว่าตนเองนั้นบาปหนัก รู้ว่าติดค้างสายเลือดที่แท้จริงของจวนหลี่ไว้มาก นางควรย้ายออกมาแล้วคืนที่เดิมให้กับเจ้าของ แต่นางก็ไม่อยากเสียความรักของพ่อแม่กับพี่ชายไป กลัวว่าพวกเขาจะไม่รักนางอีก จึงยอมตายเสียตอนนี้ดีกว่า

หลี่ชิงจูจุดไฟเผาตัวเองตาย ไฟนั้นเผาลามไปเกือบสิบห้องของจวนหลี่

หลี่ชิงลั่วเพิ่งกลับมา นางมองดูศพที่ถูกเผาไหม้ในซากปรักหักพังอย่างสับสน นางไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ไปได้

ยังไม่รอนางตั้งสติได้ หลี่เค่อชวนที่ถูกบันดาลโทสะครอบงำก็ตบนางอย่างแรง หลี่ชิงลั่วถูกตบจนเลือดกบปาก

“เป็นเพราะเจ้าคนเดียว!! ถ้าเจ้าไม่กลับมา จูเอ๋อร์ก็จะไม่คิดสั้นและจะไม่ตาย!! ทำไมคนที่ตายไปถึงไม่เป็นเจ้า!!!?”

ถึงแม้พ่อแม่จะดึงตัวหลี่เค่อชวนออกไป แต่สายตาที่มองนางก็เต็มไปด้วยความซับซ้อนและลังเล และยังมีความเจ็บปวดและทุกข์ใจด้วย

หลี่ชิงลั่วก็ถึงเข้าใจว่า พวกเขาเสียใจที่ทำเช่นนี้

เสียใจที่ตามนางกลับมาสินะ?

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หลี่ชิงลั่วก็ต้องชดใช้บาปเพื่อการตายของหลี่ชิงจู

ทุกคนต่างก็กล่าวโทษนางที่เป็นสาเหตุการตายของหลี่ชิงจู

ท่านแม่ให้นางอยู่ในห้องที่ห่างไกลและแคบที่สุด ที่นั่นฤดูร้อนก็ร้อนมากและฤดูหนาวก็หนาวมากเช่นกัน

ข้ารับใช้ในจวนต่างก็มองนางด้วยสายตาเย็นชา แล้วแอบด่าว่านางคือตัวซวย กาลกิณี หญิงชั่ว

ท่านพ่อไม่เคยมองนางเลย

ท่านแม่ก็มองนางเป็นบางครั้ง แต่ก็ขมวดคิ้วเป็นปมแล้วพึมพำว่า “จูเอ๋อร์ จูเอ๋อร์ที่น่าสงสารของข้า แม่ผิดเอง! แม่คิดถึงเจ้า คิดถึงจนใจแทบขาดแล้ว”

หลี่ชิงลั่วพยายามประจบพวกเขาทุกคนอย่างเต็มที่

ไม่ว่าจะลมแรงหรือฝนตก นางก็จะไปทำความเคารพท่านพ่อกับท่านแม่ทุกเช้า ทำอาหารให้ท่านแม่กับมือและนวดขานวดไหล่ให้ท่านแม่

แต่ท่านแม่ไม่อยากพบนางมากนัก เพียงแค่บอกให้นางไม่มีอะไรก็ไม่ต้องไปปรากฏตรงหน้าบ่อย

และอาหารที่นางทำ ท่านแม่ก็ให้ข้ารับใช้เอาไปให้สุนัข หลังจากพบว่าหลี่ชิงลั่วพยายามตีสนิทและประจบ นางก็จะหน้าบึ้งแล้วด่าทันทีว่า “เจ้าทำสิ่งเหล่านี้แล้วจะมีประโยชน์อะไร? ไม่ว่าอย่างไรก็เปลี่ยนจูเอ๋อร์ของข้ากลับมาไม่ได้”

ท่านแม่ร้องไห้ทุกวันจนทำให้ปวดตา

หมอบอกว่าต้องให้สายเลือดกรีดเนื้อเป็นส่วนผสมของยา ใช้เลือดมาทำยา หลี่ชิงลั่วไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วหยิบมีดขึ้นมาทันที

แต่ว่าหลังจากนั้น นางก็ได้ยินที่หลี่เค่อชวนพูดกับหูว่า “ยานั้นเอาไปเทให้หมากินเถอะ! มันทั้งเหม็นและน่าสะอิดสะเอียนนัก!”

ข้ารับใช้เกลี้ยกล่อมหลี่เค่อชวน “แต่ว่าคุณชาย ถ้าไม่มียาเหล่านี้ แล้วโรคตาของฮูหยิน”

หลี่เค่อชวนแสยะยิ้มเย็นชา “นางมันโง่เอง! ข้าแค่บอกให้หมอพูดเช่นนี้เพื่อหลอกนาง นางก็เชื่ออย่างนั้นหรือ? โรคตาอะไรที่ต้องใช้ของไร้ประโยชน์เหล่านี้!”

หลี่ชิงลั่วได้ยินแล้วก็ร่างกายเย็นยะเยือกและสั่นเทา

นางยังไม่ได้จากไปก็ถูกหลี่เค่อชวนจับได้เสียก่อน

นางร้องไห้แล้วถามหลี่เค่อชวน “เหตุใดท่านพี่ถึงต้องทำอะไรข้าเช่นนี้!? ข้าเป็นน้องสาวของพี่นะ”

หลี่เค่อชวนบีบคอของนางอย่างแรง ดวงตาของเขาแดงก่ำราวกับจะบีบคอนางให้ตายคามือไปเสียตอนนี้

เขาตะคอกอย่างบ้าคลั่ง “หุบปาก! ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าเรียกข้าว่าท่านพี่! น้องสาวของข้ามีเพียงหลี่ชิงจูคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย หรือชาตินี้และชาติหน้า!”

“และเจ้า ต่ำต้อยราวดินโคลน ชาตินี้ก็ไม่คู่ควรหรอก!”

“ท่านพ่อท่านแม่ก็เช่นกัน พวกเราขอให้เจ้าไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน เช่นนี้จูเอ๋อร์ก็ไม่ต้องตาย!”

“เหตุใดถึงไม่ปล่อยเลยตามเลย? เหตุใดถึงต้องตามหาเจ้ากลับมาด้วย?”

“ใครอยู่บ้าง หลี่ชิงลั่วพูดจาไร้มารยาท ประพฤติตนไม่เหมาะสม นำตัวนางไปคุกเข่าที่หอบรรพชน ไม่มีคำสั่งของข้า ห้ามให้นางลุกขึ้นเด็ดขาด และห้ามนางก้าวออกมาแม้แต่ก้าวเดียวด้วย!”

หลี่ชิงลั่วถูกปิดปากแล้วลากตัวลงไปขังไว้ในหอบรรพชนสามวันสามคืน

นางไม่ได้ดื่มน้ำและกินอาหารเลย

และนางเพียงแค่เอียงตัวจากเบาะรอง ก็จะถูกไม้ฟาดไปที่ตัวอย่างแรง

จนกระทั่งนางเป็นลมล้มลงไป ถูกตีจนไม่มีเสียงร้อง ก็ถึงถูกโยนกลับไปยังห้องที่ทั้งมืดและชื้นของตนเอง

หลี่ชิงลั่วคิดว่า ตนเองจะต้องตายในวันที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับไข้สูงแต่ก็ไม่มีหมอมารักษาให้กับนางเลย

แต่ไม่คิดว่า

จวงเว่ย คุณชายสามแห่งจวนจงอี้โหว และเป็นบัณฑิตทั่นฮวาที่เพิ่งสอบติดการสอบราชสำนัก

เดิมทีเขาเป็นคู่หมั้นที่ฮูหยินเฒ่าตระกูลจวงจัดหาให้เมื่อหลี่ชิงลั่วยังอยู่ในครรภ์ ต่อมาเขาก็เติบโตมาพร้อมกันกับหลี่ชิงจู

พวกเขาเป็นคู่รักแต่เด็ก สองใจตรงกันและต่างก็รักกันอย่างลึกซึ้ง

แต่ทว่าการกลับมาของหลี่ชิงลั่ว การหมั้นหมายนี้ก็ต้องกลับไปเป็นของคนเดิม

หลี่ชิงจูก็ตายไปแล้วด้วย

จวงเว่ยเกลียดนางเหมือนกันกับคนตระกูลหลี่

แต่กลับออกมือช่วยเหลือนาง

หลี่ชิงลั่วไม่เข้าใจถึงการกระทำของเขา จวงเว่ยกลับบอกนางอย่างเย็นชาว่า “เจ้าวางใจเถอะ ถึงจะไม่แต่งงานไปตลอดชีวิต ข้าก็ไม่แต่งงานกับเจ้าหรอก! แค้นของจูเอ๋อร์ ข้าจะให้เจ้าค่อยๆชดใช้ หากเจ้าตายไปเช่นนี้มันชักจะง่ายเกินไปแล้ว!?”

นี่มันช่างน่าขันและเหลวไหลสิ้นดี

ชีวิตนี้ของนางที่มีชีวิตอยู่นั้นเป็นความผิดพลาดอย่างแท้จริง

เกิดมาเพื่อให้หลี่ชิงจูได้อยู่ในตระกูลหลี่

และตายก็เพื่อแลกกับความสบายใจของทุกคนในตระกูลหลี่

แต่นางทำผิดอะไรกัน?

เพียงเพราะนางโหยหาความรักจากครอบครัวที่นางไม่เคยได้รับใช่หรือไม่?

เพราะการตายของหลี่ชิงจู นางก็รู้สึกผิดและพยายามอย่างมากที่สุดเพื่อประจบครอบครัวของตน ต้องการปลอบใจพวกเขา และยอมให้พวกเขาเหยียบย่ำและรังแกอย่างนั้นหรือ?

แต่นางเป็นลูกสาว น้องสาวและคู่หมั้นของพวกเขาอยู่แล้วนะ

นางไม่เคยทำเรื่องเลวร้ายและทำร้ายใครมาก่อน

พวกเขาตามหานางกลับมาเอง

เพียงเพราะหลี่ชิงจูตาย นางก็กลายเป็นคนบาปอย่างนั้นหรือ?

หิมะในห้องยังคงตกลงมา ‘ซ่าๆ’ ไม่หยุด

หลี่ชิงลั่วค่อยๆสิ้นลมหายใจไป

นางมองดูศพของตนที่แข็งทื่อเป็นก้อนน้ำแข็งของนาง แล้วตระหนักได้ว่า วิญญาณของตนนั้นได้ออกจากร่างแล้ว

นางลอยออกไปนอกห้องแล้วลอยมาถึงเรือนข้างหลัง แล้วมาถึงเรือนข้างหน้าที่มีแสงไฟส่องสว่างไสว

ไม่รู้ว่ามีเรื่องน่ายินดีอะไรเกิดขึ้นที่ตระกูลหลี่ มีเสียงหัวเราะ ดีใจและคึกคักเต็มไปทั่วทุกแห่งหน

ตั้งแต่หลี่ชิงลั่วกลับมาก็ไม่เคยพบภาพที่น่าประทับใจเช่นนี้อีกเลย

นางขยับเข้าไปใกล้โดยไม่รั้ว แต่กลับพบกับหญิงสาวที่งดงามราวกับดอกไม้ กำลังยืนอยู่ท่ามกลางของหมู่ผู้คน ออดอ้อนอยู่ในอ้อมกอดของแม่แล้วพูดว่า “ท่านแม่ ข้าคิดว่าพวกท่านจังเลย!”

“แล้วก็ท่านพ่อกับท่านพี่ด้วย!”

“ใช่สิ น้องสาวล่ะ? ข้ายังไม่เคยพบนางเลย นางอยู่ที่ไหนหรือ รีบเรียกนางมาด้วยสิ ให้ข้าได้บอกกับนางว่านั่นเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด!”

นี่ นี่คือหลี่ชิงจูหรือ!?

นางยังไม่ตายอย่างนั้นหรือ?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel