ร้อยเล่ห์ลวงนาง

87.0K · จบแล้ว
เทียนเหอ
68
บท
3.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

คิดใช้เล่ห์เหลี่ยมกับเสือร้าย เจ้ากระต่ายจึงต้องถูกลวงให้รัก... หลิวซืออิง บัณฑิตหญิงปลอมตัวใช้ชื่ออาจารย์เหมย หมายลวงคุณชายเฉินซัวเหยียน ผู้เปลี่ยนแซ่ใช้สกุลโจว เสือร้ายจอมเจ้าชู้กลับสู่เมืองเซียงฉวน เดิมทีควรต้องลวงให้เขาคิดถึงบ้าน แต่เวลาเลื่อนผ่าน นางกลับถูกพ่อค้าโจวใช้เล่ห์ลวงให้รัก... “คุณชายโจว ท่านเป็นอะไรไป!” นางรีบตรงเข้าประคองเจ้าของบ้าน นึกไม่ถึงว่ากลวิธีดึงความทรงจำในอดีตจะทำให้เขาเจ็บจนถือช้อนเอาไว้ไม่อยู่ “ข้าปวดท้อง ซืออิง เจ้าพาข้ากลับห้องได้หรือไม่” มารยาของผู้ชายเจ้าชู้ มีหรือที่สตรีคลั่งตำราจะรู้ทัน “ข้าเรียกบ่าวให้ดีหรือไม่” “ข้ามิอยากรบกวนบ่าวไพร่ หากเจ้ามิสะดวกก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้านั่งพักสักครู่ก็คงจะดีพอที่จะเดินกลับห้องเองได้” เฉินซัวเหยียนไม่ลืมที่จะใช้มือบีบขมับ แสร้งว่าปวดหัวด้วยอีกประการหนึ่ง หลิวซืออิงทนมองคนป่วยมิได้ จึงสอดแขนประคองคุณชายกลับเข้าห้อง และพอจะออกจากห้อง เสียงร้องครวญครางคล้ายจะตายของเขากลับรั้งตัวนางเอาไว้ “ท่านไปทำอะไรมา ไยจึงมีอาการเช่นนี้” “วันนี้ทำงานกลางแจ้งตลอดทั้งวัน ตลอดร่างหนาวเหน็บทนไม่ไหว จึงดื่มสุราเกาเหลียงไปสองจอก” เฉินซัวเหยียนโกหกต่อว่าตนมิใช่คนสันทัดการดื่มสุรา พอดื่มเข้าไปก็ให้เกิดอาการร้อนวูบวาบทั่วท้อง เขาคิดว่าการดื่มน้ำแกงจะช่วยได้บ้าง แต่กลับทำให้อาการแย่ลงกว่าเดิม “สุราก็มีฤทธิ์ร้อน โสมในน้ำแกงก็มีฤทธิ์ร้อน ท่านคงจะปวดท้องเพราะฤทธิ์ของสุราและโสมกระมัง” หลิวซืออิงมิได้มีความรู้เรื่องสุรา จึงกล่าวออกไปเช่นนั้น “ความจริงข้อนี้ข้าก็ทราบดี ทว่าพอได้กลิ่นน้ำแกงก็พลันนึกถึงบ้าน เลยดื่มโดยไม่ทันได้ตรองดูก่อน” เฉินซัวเหยียนกดที่ท้องของตัวเอง ทำสีหน้าเจ็บปวด ทว่าก็ไม่แสดงอาการว่าปวดจนถึงขั้นต้องตามหมอ ทำแค่พอให้นางนึกสงสารเท่านั้น “ข้าช่วยอะไรท่านได้บ้าง ตามหมอดีหรือไม่” “อาการเช่นนี้ข้าเคยเป็นมาก่อน เพียงแค่เช็ดเนื้อเช็ดตัวสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว” เฉินซัวเหยียนยืนยันว่าเช็ดตัวด้วยน้ำธรรมดาก็เพียงพอแล้ว มิจำเป็นต้องตามหมอให้ยุ่งยาก ระหว่างที่นางไปเตรียมน้ำ ก็แสร้งใช้ทั้งมือและหน้าผากอังตะเกียง จนได้ยินเสียงฝีเท้าจึงรีบกลับไปนอนบนเตียงตามเดิม “ข้าไปเพียงครู่เดียว ไยอาการของท่านจึงหนักถึงเพียงนี้” นางใช้มือวัดความร้อนที่หน้าผาก และพอจะชักมือคืน กลับถูกบุรุษมากมารยาคว้าเอาไว้ “มือของเจ้าเย็นดีทีเดียว หากนำมาวางไว้ที่ท้อง ข้าคงจะรู้สึกดีขึ้นมาก” “เห็นทีจะไม่เหมาะ ท่านเป็นชาย ข้าเป็น...” นางยังมิทันจะพูดจบประโยค เขาก็โอดโอยขึ้นมาเสียก่อน หลิวซืออิงจึงตัดสินใจวางมือเย็นเฉียบลงบนท้องของคุณชายเฉินทันที “ท่านรู้สึกดีขึ้นหรือไม่” “ควรต้องสอดมือไปด้านใน จึงจะดีขึ้น” พูดจบเฉินซัวเหยียนก็ปลดเครื่องแต่งกาย พร้อมกับจับมือนางไปวางแนบเนื้อ พร้อมทั้งทำเสียงครวญครางจนหลิวซืออิงเกิดความละอายจนอยากจะชักมือหนี ทว่ากลับถูกคุณชายกดวางไว้เช่นนั้น เฉินซัวเหยียนจับมือนางเลื่อนลงต่ำอีกหน่อย ทว่าผ่านไปสักพักเขากลับพลิกตัวนอนตะแคง พร้อมกับคู้ตัวราวกับว่าความเจ็บปวดนั้นเกินจะอดทนได้แล้ว ความต้องการของเฉินซัวเหยียนมีมากเกินกว่าจะทนได้ “หากท่านต้องการ ข้าอยู่เฝ้าท่านได้อีกสักครู่” หลิวซืออิงนึกสงสาร เป็นความผิดของนางที่ทำน้ำแกงผสมโสมในคืนนี้ “ความเจ็บปวดของข้า มือเจ้าคงมิอาจบรรเทาได้แล้ว” เฉินซัวเหยียนเอ่ยเสียงแหบแห้ง “ข้าทำเช่นไรได้บ้าง” “บรรเทาอาการมิได้ แต่อาจจะช่วยหันเหความสนใจข้าได้” เฉินซัวเหยียนลอบยิ้มเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน “หันเหอย่างไรได้บ้าง คุณชายบอกข้ามาเถิด” หลิวซืออิงเห็นอาการลูกชายของผู้พระคุณเป็นเช่นนั้นก็ถึงกับเหงื่อตก “หันเหเช่นนี้” คนที่ชำนาญในบทรักไม่รอช้า คว้าตัวของอาจารย์เหมยกลิ้ง ลงมาบนเตียงกว้าง ก่อนจะสอดลิ้นหมายมอบจูบหวานซึ้งให้นางประทับใจ และเมื่อนางดิ้นรนเรียกร้องขออิสระ ก็จับเอามือเย็นๆ นั้นซุกเข้าที่อกกว้าง ตวัดผ้าห่มขึ้นมาพันรอบตัวไม่ให้นางขยับไปไหนได้อีก เขาสอดมือเข้านวดบริเวณต้นคอของนางจนอุ่นขึ้นมาบ้าง และเมื่อลองใช้จมูกแตะจมูก ก็ปรากฏว่าความเย็นนั้นหายไปแล้วเช่นกัน ความจริงอยากจะล้วงให้ลึก ทว่ากระทำมากไป ก็กลัวว่านางจะตกใจจนหนีไปเสียก่อน

นิยายรักโรแมนติกนิยายจีนโบราณนิยายรักรักหวานๆดราม่าจีนโบราณโรแมนติกนิยายย้อนยุคฟินๆ

บทที่ 1

บรรยากาศยามค่ำของบ้านสกุลเฉินดูต่างไปจากทุกคืนที่ผ่านมา โดยปกติแล้วหลังตะวันตกดินจะไม่มีใครเดินเข้าออกทำลายความสงบเงียบ ผู้คนต่างพากันหลับใหลตั้งแต่หัวค่ำ หรือไม่ก็ทำงานกันอย่างเงียบๆ ด้วยเจ้าของบ้านค่อนข้างเคร่งครัดในกฎระเบียบ สมกับที่เคยทำงานในวังหลวงนานหลายปี และพอเกิดความวุ่นวายในบ้านจึงเข้าใจได้ทางเดียวว่าคงมิใช่เรื่องดี

บ้านจิ้นฝู ไม่ค่อยได้มีโอกาสต้อนรับแขกในยามดึก ทว่าวันนี้กลับมีหมอมากฝีมือนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวของฮูหยินสกุลเฉิน สีหน้าของนางมิสู้ดีนัก ด้วยหลายวันที่ผ่านมา กินอะไรก็ไม่อร่อย ดื่มอะไรก็นึกอยากจะอาเจียน เดือดร้อนบ่าวในบ้านต้องช่วยกันดูแลประคับประคองไปตามอาการ จนกระทั่งเกินกว่ากำลังที่จะดูแลกันเองไหว จึงจำต้องตามท่านหมอในยามวิกาล

เฉินม่านอิ๋ง นายหญิงของบ้านนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงกว้าง ร่างกายร้อนผะผ่าวราวกับตากแดดนานหลายชั่วโมง อีกไม่กี่เดือนนางก็จะมีอายุครบห้าสิบปีแล้ว ทว่าดวงหน้ายังคงความงามสมกับเป็นนายหญิงของบ้าน เสียงแหบแห้งเอ่ยเรียกคนสนิท ก่อนพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตให้คนที่รออยู่ข้างนอกเข้ามาพบ

สาวน้อยหน้าตางดงามราวกับภาพวาดขยับตัวเข้ามาใกล้ จนเห็นไฝเสน่ห์อันเล็กๆ ที่ประดับอยู่ใต้ตาข้างซ้ายอย่างชัดเจน ดวงตาของนางมีน้ำตาคลออยู่ แสดงชัดว่ากังวลกับอาการของผู้มีพระคุณ ความจริงวันนี้นางควรจะได้ฉลองกับเพื่อนๆ เพราะอายุครบถ้วนสิบแปดปีบริบูรณ์แล้ว แต่เมื่อฮูหยินที่เลี้ยงนางมานานกว่าสิบสามปีล้มป่วยลง จะให้นางทำใจสังสรรค์กับสหายได้อย่างไร

นางก็มิได้มีสหายมากนักดอก มีเพียงคนเดียวเท่านั้น

“ท่านอาเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ต้องการดื่มกินอันใดหรือไม่”

“ข้าไม่นึกอยาก”

เฉินม่านอิ๋งทอดสายตามองสาวน้อย นางเป็นคนสวย เสียอย่างเดียวคือไม่ค่อยชอบแต่งเนื้อแต่งตัว ทว่านั่นก็คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของสตรี สวยธรรมชาติโดยมิต้องมีอะไรมาปรุงแต่ง

หากลูกชายนางยังคงนิสัยดังเดิม สตรีลักษณะเช่นนี้ก็นับว่าเหมาะสมอย่างมาก

เฉินม่านอิ๋งโบกมือไล่ทุกคนไปให้พ้นห้อง ยามนี้แม้แต่สามีของนางก็ไม่ได้อยู่ปลอบใจ

ประมุขของบ้านเดินทางเข้าเมืองหลวงเมื่อหลายวันก่อน และทันทีที่ก้าวขาออกจากบ้าน ผู้เป็นภรรยาก็ล้มป่วยลงทันที ช่างประจวบเหมาะยิ่งนัก

“มีอันใดที่ซืออิงทำเพื่อท่านอาได้บ้าง”

“คิดว่าข้าคงอยู่ได้อีกไม่นาน” เฉินม่านอิ๋งกระแอมครั้งหนึ่ง

“อย่าพูดเช่นนั้นเลยเจ้าค่ะท่านอา หากท่านอาอยากได้สิ่งใด ซืออิงจะหามาให้”

“สิ่งที่ข้าอยากได้ ข้าคงมิกล้ากวนเจ้าดอก”

“ท่านอามีบุญคุณต่อซืออิงเหลือล้น ให้ทั้งที่พักอาศัยและการศึกษา ซืออิงคงอกตัญญูหากมิได้ลองพยายามดูก่อน”

แน่นอนว่าสิ่งที่สาวน้อยวัยสิบแปดปีเอ่ย ล้วนเป็นประโยคที่ฮูหยินสกุลเฉินรอคอย นางลอบยิ้มกับตัวเอง ก่อนจะปรับสีหน้าให้ดูอ่อนเพลียน่าสงสารดังเดิม

“ข้าต้องการพบเฉินซัวเหยียนอีกสักครั้ง”

สิ้นคำของเฉินม่านอิ๋งก็พลันบังเกิดความเงียบทั่วทั้งห้อง เนื่องจากบุรุษที่นางต้องการพบ คือบุตรชายผู้ครองตำแหน่งแกะดำหนึ่งเดียวของตระกูล ทั้งยังได้รับฉายาเสือร้ายแห่งเมืองเซียงฉวน

“แต่หากเจ้าไปขอพบเขาเฉยๆ เขาก็คงจะโยนเจ้าออกมา”

คนพูดไอเสียงดังติดต่อกันยาวนาน กว่าจะเริ่มประโยคใหม่ได้ก็ทุลักทุเลพอสมควร

“ซืออิงจะพยายามอย่างสุดความสามารถ ท่านอาโปรดละวางความกังวลเถอะนะเจ้าคะ”

หลิวซืออิง อาจนับได้ว่าเป็นหนึ่งในสาวงามแห่งเมืองเซียงฉวน ทว่าการเก็บตัวทำให้นางหลุดรอดจากการสำรวจของหนุ่มๆ ไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยหากไม่อยู่ในบ้านจิ้นฝู นางก็จะอยู่ที่สำนักศึกษา กระนั้นผู้คนก็ยังร่ำลือกันว่า มีบัณฑิตหญิงท่านหนึ่งที่มีกิริยาดั่งนางในวังหลวง ทั้งใบหน้ายังงดงามราวกับสวรรค์ปั้น

แต่พอให้คำสัญญาต่อนายหญิงแห่งบ้านสกุลเฉินเรียบร้อยดีแล้ว นางกลับกลายเป็นสตรีที่ไร้มารยาท ถอนหายใจยาวต่อหน้าบ่าวไพร่บ่อยเสียจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่หากมีผู้ใดใจกล้าพอจะเอ่ยปากถาม นางก็คงจะบอกว่าต้องเริ่มภารกิจเสี่ยงตายในวันพรุ่งนี้ที่จะถึงแล้ว

ภารกิจที่ว่าคือการตามตัวคุณชายเฉินกลับบ้าน ทว่ายามนี้คุณชายเฉินกลับมิใช่คุณชายเฉิน ด้วยหลังจากออกจากบ้านเมื่อสิบสามปีก่อน คุณชายได้เปลี่ยนไปใช้สกุลของภรรยา เปลี่ยนจากบัณฑิตกลายเป็นพ่อค้า สมกับคำว่าแกะดำของตระกูลยิ่งนัก

หากแต่สิ่งที่ทำให้นางหวาดกลัวนั้นมิใช่คำว่าแกะดำ แต่คือคำว่าเสือร้ายจอมเจ้าชู้ ที่ผู้คนทั่วเมืองเซียงฉวนล้วนแต่กล่าวขวัญถึงต่างหากเล่า