ตอนที่สาม ห้องเก็บสมบัติ
“พี่เจียวจิ้น ข้าทอดร่างให้พี่เชยชมจนสมใจ อีกไม่นานพี่คงเบื่อหน่ายแล้วทอดทิ้งข้า” เถาหลี่น่าเริ่มแผนต่อไปเมื่อสอดใส่กันมาระยะหนึ่งจนเด็กหนุ่มไว้วางใจแล้ว
“พี่ไม่มีวันทอดทิ้งเจ้าแน่”
“แต่ท่านราชครูคงไม่มีวันยินยอมให้รับข้าเข้ามาอยู่ในจวน” เด็กสาวใช้น้ำเสียงเศร้าสร้อย
“ท่านพ่อบังคับพี่ไม่ได้” เสียงดื้อดึงเอ่ยออกมา
“หากข้าจะขอความมั่นใจด้วยของประจำตระกูลของพี่เจียวจิ้นสักอย่างเป็นของแทนใจจะมากเกินไปหรือไม่เจ้าคะ”
“ย่อมไม่ พี่ขอโทษที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ เอาเถอะ พี่จะพาเจ้าไปที่หนึ่ง” ข่งเจียวจิ้นโดนเสน่ห์ของสาวน้อยจนหน้ามืดตามัวเกรงหญิงสาวจะน้อยใจจนหนีหายไป จึงตัดสินใจพานางเข้าไปจนถึงห้องเก็บสมบัติของตระกูลข่ง
“โอ้วว...พี่เจียวจิ้น บ้านท่านมีของมีค่ามากมายเพียงนี้ ยิ่งเห็นข้ายิ่งรู้สึกว่าตนเองไม่คู่ควร” เด็กสาวส่งเสียงตื่นเต้นเมื่อได้เห็นคลังสมบัติของตระกูลเก่าแก่
“ไม่นะน้องหลี่น่า เจ้าอย่าคิดมาก ของในนี้บางชิ้นไม่ได้มีราคามากมาย เพียงเก่าแก่เท่านั้น เจ้าลองดูเถิดว่าชอบชิ้นใด พี่จะมอบให้เป็นของแทนใจ” เถาหลี่น่าได้โอกาสรีบเดินสำรวจของมีค่าในห้องอย่างรวดเร็วเพื่อมองหาภาพวาดเป้าหมาย
จนถึงกองภาพวาด นางทำทีเปิดออกดูอย่างตื่นตาหลายภาพ เมื่อได้เห็นภาพที่ต้องการแล้วจึงแสร้งวางแยกไว้ จากนั้นจึงเดินดูของรอบห้องอีกหลายอย่างเพื่อกลบเกลื่อนก่อนจะหยิบไข่มุกราตรีเม็ดหนึ่งขึ้นราวคนมักน้อย
“ข้าขอชิ้นนี้ก็แล้วกัน”
“นั่นเป็นเพียงไข่มุกราตรี ไม่มีราคาค่างวดมากนัก เอาเช่นนี้ พี่มอบป้ายหยกประจำตระกูลให้เจ้าก็แล้วกัน”
ป้ายหยกตระกูลข่งย่อมเอาไปแลกเป็นเงินมิได้ จะเอาไปให้หนักเพื่ออันใด
เถาหลี่น่ามองป้ายหยกในมืออย่างไม่ใคร่ชอบใจแต่เบื้องหน้าจำต้องแสดงท่าซาบซึ้งน้ำตาแทบไหล
“ขอบคุณพี่เจียวจิ้น พี่ช่างดีกับข้าจริงๆ”
“ไข่มุกนี่ก็เอาไปด้วยเถิด”
เถาหลี่น่ากำของสองสิ่งที่ได้รับมาราวมีค่ามากจนต้องทะนุถนอมให้ดี ข่งเจียวจิ้นมองท่าทีนั้นอย่างเอ็นดูก่อนจะพาสาวน้อยกลับไปนอนที่ห้องเมื่อเห็นว่าดึกมากแล้ว
แม้เขาจะอยากนอนด้วยกันในห้องของสาวงามทั้งคืน แต่หากบ่าวไพร่พูดมากออกไปย่อมไม่เป็นการดี ชายหนุ่มจึงเพียงแวะเวียนมาร่วมรักสอดใส่แล้วแยกย้ายกลับไปนอนที่ห้องของตนเอง
คืนวันต่อมา สองหนุ่มสาวแวะเวียนมาร่วมรักกันอย่างเร่าร้อน เถาหลี่น่าส่งพลังความสุขเป็นครั้งสุดท้ายให้ข่งเจียวจิ้นได้ดื่มดำจนสมใจก่อนเขาจะกลับไปนอนหลับด้วยฤทธิ์ยาซึ่งนางแอบใส่ไว้ในน้ำชา
คืนนั้นสาวน้อยซึ่งออกปฏิบัติงานครั้งแรกแม้จะตื่นเต้นมือไม้สั่น แต่ก็ลอบเข้าไปในห้องเก็บสมบัติอย่างง่ายดายด้วยกุญแจซึ่งหยิบมาจากเอวของชายหนุ่มอันหลับใหล
ด้วยจวนราชครูไม่ได้คุ้มกันแน่นหนาจากคนภายใน เถา
หลี่น่าจึงเข้าไปหยิบภาพวาดเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว หญิงสาวแวะหยิบทองคำมาสองก้อนด้วยคิดว่าคงไม่เป็นที่สังเกตเห็น จากนั้นสาวน้อยจึงแวะเก็บซ่อนของเอาไว้ที่ใต้กองหินด้วยใจตุ๊มๆต่อมๆแล้วรีบกลับไปนอน
สาวน้อยตื่นขึ้นมาพร้อมใต้ตาดำคล้ำด้วยตื่นเต้นจนหลับไม่ลง ข่งเจียวจิ้นมองใบหน้างามด้วยความห่วงใยขณะหญิงสาวอ้างว่าฝันร้ายและได้แต่ซบอ้อนลงกับอกอุ่น
นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้กอดกับชายคนแรกที่ได้ความสาวของนางไปแล้ว หวังว่าเขาจะไม่รู้โดยเร็วว่าถูกขโมยของในห้องเก็บสมบัติไป หากรู้ก็ขอให้เขาไม่สงสัยนาง
สาวน้อยภาวนาในใจก่อนจะพยายามทำตัวเป็นปกติ หลังจบมื้ออาหารเช้า เถาหลี่น่าแสร้งชวนข่งเจียวจิ้นออกไปเดินซื้อของที่ตลาดโดยอ้างว่าอยากได้ของใช้ส่วนตัวของหญิงสาว
นางใจกล้าหยิบของที่ขโมยมาซ่อนไว้ใต้ชุดเสื้อแล้วเดินออกมาด้วยมือชื้นเหงื่อในใจเฝ้าภาวนาให้เห็นสาขาใหญ่ขององค์กรโดยเร็ว
เมื่อเห็นสัญลักษณ์ขององค์กรที่ร้านแพรพรรณ หญิงสาวจึงทำทีสนอกสนใจและเดินเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว ก่อนจะขอลองผ้าไหมงดงามในห้องส่วนตัว
“พี่เจียวจิ้นรอด้านนอกนี้ก่อน หากเข้าไปด้วยกันผู้คนจะครหานินทา”
“ได้ น้องหลี่น่าเลือกได้จนพอใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องราคา พี่จ่ายไหวแน่”
ข่งเจียวจิ้นเอาใจสาวคนรักอย่างออกนอกหน้าจนเถาหลี่น่าแอบนึกเสียดาย
หากนางได้เป็นคนรักของเขาจริงๆคงได้รับการเอาใจอย่างดีจนล่องลอย
แต่นั่นย่อมเป็นเพียงฝัน และนางต้องตื่นโดยเร็ว
ลลินาซึ่งเคยถูกล่อลวงด้วยฝันหวานมาหลายครารีบปลุกปลอบตนเอง
ภาพวาดถูกส่งออกไปให้คนขององค์กรอย่างเรียบร้อยทำให้เถาหลี่น่าโล่งอกและพรั่งพรูลมหายใจออกมาอย่างเบาใจ
จากนั้นสาวน้อยจึงชวนชายหนุ่มเดินเลือกชมข้าวของอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะมีตัวละครซึ่งเตี๊ยมกันมาอย่างดีแล้วที่ร้านแพรพรรณเข้ามาร่วมแสดงบทบาท
“หลี่น่า หลานหายไปที่ใดมา พวกเราตามหาเจ้าแทบพลิกแผ่นดิน แล้วท่านพ่อของเจ้าเล่า อยู่ที่ใด”
“ท่านอาหญิง ฮือๆๆๆ” เถาหลี่น่าสวมบทบาทสาวน้อยผู้พบเจอญาติสนิทอย่างแนบเนียน
สาวใหญ่ผู้ซึ่งอ้างว่าคืออาสาวของเถาหลี่น่า และเป็นน้องสาวซึ่งบิดาของนางต้องการเดินทางมาหาจนถูกปล้นชิงตามคำบอกเล่าของสาวน้อยในวันที่พบกับข่งเจียวจิ้น กอดรัดกับหลานสาวอย่างโศกเศร้าเมื่อได้รับรู้ว่าพี่ชายถูกโจรฆ่าตายแล้ว
“ข้าคงต้องขอตัวหลานสาวไปอยู่ด้วย นางเป็นหญิงสาวตัวคนเดียวจะให้เร่ร่อนพักอาศัยในจวนผู้อื่นได้อย่างไร” สาวใหญ่เอ่ยเสียงแข็งเมื่อได้รับรู้ว่าหลานสาวพักในจวนของชายหนุ่มเพียงลำพัง
“ข้าขอตัวไปกับอาหญิงก่อน อีกสองวันจะแวะไปหาพี่เจียวจิ้นที่จวนนะเจ้าคะ” เถาหลี่น่ารีบเดินเข้าไปบอกเมื่อเห็นสีหน้าย่ำแย่ของชายหนุ่มซึ่งต้องโดนพรากจากสาวคนรักอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ข่งเจียวจิ้นจำต้องปล่อยมือจากสาวน้อยโดยมองดูนางถูกจูงหายไปในฝูงชนอย่างเหม่อลอย
เขารอคอยอยู่หลายวันแต่ไม่เห็นสาวน้อยในห้วงคำนึงมาหาจึงเริ่มออกตามอย่างบ้าคลั่งและเพิ่งให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบการปล้นชิงตามคำบอกเล่าของสาวน้อย
กว่าจะได้รับรู้ว่าไม่มีการปล้นชิงอย่างที่เถาหลี่น่าบอกออกมา และผู้คนในตลาดล้วนไม่รู้จักสาวใหญ่นางนั้น อีกทั้งไม่มีหญิงสาวสกุลเถาแต่งมาอยู่ในเมืองนี้สักคน ข่งเจียวจิ้นก็ย่ำจนรองเท้าสึกอยู่เกือบครึ่งเดือน
เขาจัดการตรวจสอบข้าวของในจวนอย่างหนัก กว่าจะเอะใจเข้าไปตรวจหาในห้องเก็บสมบัติและพบว่ามีเพียงภาพวาดเก่าแก่หายไปภาพหนึ่งกับทองสองก้อนเท่านั้น
เด็กหนุ่มแทบไม่อยากเชื่อว่าสาวน้อยถึงกับยอมพลีดอกไม้แรกแย้มให้เขาได้เชยชมแลกกับภาพวาดเก่าๆเพียงภาพเดียว
ทันทีที่ท่านราชครูผู้บิดารู้เข้าจึงเอะอะต่อว่าบุตรชายพร้อมลงโทษเขาอย่างโกรธเคือง
“ยังดีที่นางเพียงขโมยภาพวาด หากนางพาคนบุกเข้ามาปล้นทั้งจวนพวกเราคงต้องเหลือเพียงเสื้อผ้าไปนอนข้างถนนแล้ว”
