บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

วีนัสนรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ใช้เวลาในการอาบน้ำอยู่นานราวกับว่าจะลบรอยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนพร้อมกับพยายามนึกทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมด น่าแปลกที่เธอจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้เลย จำไม่ได้ว่าเข้าไปอยู่ในห้องของเขาได้อย่างไรและมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

“นี่เราเมาจนไม่ได้สติขนาดนี้เลยเหรอแย่จริง ๆ” จากนั้นก็เริ่มแต่งตัวและลงมือเก็บของใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋าเดินทาง จากนั้นก็เช็คความเรียบร้อยก่อนที่จะลงไปที่ล็อบบี้ของโรงแรมเพื่อรอทีมงาน เมื่อทีมงานทุกคนมาพร้อมกันหมดแล้วก็เดินทางขึ้นรถตู้ของโรงแรมไปที่สนามบินเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

เมื่อมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิทุกคนต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้าน จะมีก็แต่ทีมงานบางคนที่จะต้องขนอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการถ่ายทำไปเก็บที่ออฟฟิศก่อนที่จะเดินทางกลับที่พักของตนเอง วีนัสเรียกแท็กซี่ให้มา

ส่งเธอที่คอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา

สิ่งแรกที่ทำหลังจากเปิดประตูเข้าไปในห้องพักก็คือเปิดฟังเครื่องรับฟังโทรศัพท์อัตโนมัติ เพื่อเช็คข้อความว่ามีใครบ้างที่โทรเข้ามาฝากข้อความเอาไว้

“วีนี่พี่วินท์นะ เราชักจะทำตัวเหลวไหลใหญ่แล้ว ดึกป่านนี้แล้วยังไม่กลับบ้านอีกอย่าคิดว่าพี่ไม่ได้อยู่ด้วยแล้วจะทำตัวแบบนี้ได้ ถ้าได้ยินข้อความนี้เมื่อไรก็รีบโทรกลับมาหาพี่ด้วยเข้าใจไหม” นั่นคือข้อความแรกข้อความที่สอง

“คุณวีผมนัทนะ ผมมีโปรเจคใหม่จะให้คุณรับผิดชอบ แต่ผมลืมไปว่าคุณไปถ่ายทำโฆษณาที่ภูเก็ตพยายามโทรเข้ามือถือของคุณหลายครั้งแต่ติดต่อไม่ได้ก็เลยมาฝากข้อความไว้ที่บ้านแทน ถ้าคุณกลับจากภูเก็ตเมื่อไรก็ให้รีบเข้ามาพบผมที่บริษัท ผมจะได้คุยกับคุณเกี่ยวกับรายละเอียดของโปรเจคใหม่ที่จะให้คุณเป็นคนรับผิดชอบ” มีเพียงแค่สองข้อความนี้เท่านั้น

“บอสมีโปรเจคใหม่อีกแล้วเหรอ ใจคอจะไม่ให้เราพักบ้างเลย” เมื่อเอาของออกจากกระเป๋านำเสื้อผ้าที่ใส่แล้วไปซักตาก จากนั้นก็โทรหาพี่วินท์และต้องฟังพี่วินท์บ่นเสียนานซะจนหูชาเลยทั้งที่เป็นการโทรข้ามประเทศช่างไม่เห็นใจคนจ่ายค่าโทรศัพท์บ้างเลย กว่าจะยอมให้เธอวางสายก็ปาเข้าไปเกือบชั่วโมง

“ผู้ชายอะไรขี้บ่นชะมัดเลย”

วีนัสอ่านหนังสือและฟังเพลงเบา ๆ อยู่อีกสักพักก็ปิดไฟนอน แต่นอนเท่าไรก็นอนไม่หลับ พลิกตัวกระสับกระส่ายไปมาอยู่บนเตียงนอน จู่ ๆ ก็มีภาพของชายแปลกหน้าคนนั้นเข้ามาในหัว ภาพรอยยิ้มที่แสนจะยียวนกวนประสาทวีนัสรีบสะบัดหัว

“อะไรกัน...นี่เราไปคิดถึงเขาทำไม หวังว่าคงจะไม่โคจรมาพบกันอีกหรอกนะ” แต่แล้วเธอก็ต้องเชื่อทฤษฏีที่ว่าโลกมันกลมอย่างไม่น่าเชื่อ ใครจะคิดว่าเธอจะได้พบกับเขาอีกในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย โลกมันกลมเหลือเชื่อจริง ๆ

“วิชชั่นแอ็ดเวอร์ไทซิ่ง” เป็นบริษัทโฆษณาขนาดกลาง แต่ผลงานแต่ละชิ้นของบริษัทนี้ที่ออกสู่สายตาประชาชนนั้นไม่ธรรมดา นั่นก็เป็นเพราะครีเอทีฟของบริษัทนี้ตระหนักถึงความต้องการของลูกค้า และสามารถสื่อทุกอย่างออกมาได้อย่างชัดเจน โดนใจทั้งลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายที่เขาต้องการ ดูได้จากรางวัลที่บริษัทนี้ได้รับล้วนแล้วเต่เป็นรางวัล ที่ได้มาจากการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพทั้งสิ้น จึงทำให้บริษัทนี้เป็นที่ยอมรับในวงการโฆษณาถึงแม้ว่าจะไม่ใช่บริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ก็ตามที

‘วีนัส’ สาวสวยมากความสามารถที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงก็ทำงานอยู่ที่นี่ นอกจากความสามารถแล้วเธอยังเป็นคนสวยชนิดที่หาตัวจับยาก ใครที่ได้พบเห็นเธอต่างก็ ต้องเหลียวกลับมามองอีกครั้ง และไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้ง่ายนัก ไม่เว้นแม้แต่เพศเดียวกัน

เธอมีตำแหน่งเป็นครีเอทีฟมือหนึ่งของบริษัทนี้ และสามารถสร้างชื่อเสียงโด่งดังด้วยวัยเพียงยี่สิบห้าปีเท่านั้น ในวงการโฆษณาจะรู้จักวีนัสกันเป็นอย่างดี และต่างก็ยอมรับในความสามารถของเธอ ที่สำคัญอยากที่จะได้เธอไปร่วมงานด้วย แต่เธอเลือกที่จะทำงานอยู่ที่บริษัทนี้ สาเหตุก็เพราะบอสใหญ่ของบริษัทนี้ได้ให้โอกาสผู้หญิงโนเนมคนหนึ่ง ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มาก่อนได้ร่วมงานด้วย และได้มอบหมายให้เธอรับผิดชอบโปรเจคใหญ่ของบริษัท

ซึ่งในตอนนั้นใคร ๆ ต่างก็คัดค้านแต่ “คุณนัท” ก็ยังคงยืนยันที่จะให้วีนัสรับผิดชอบงานนี้ เพราะเขาเห็นแววว่าเด็กคนนี้ทำได้ นับได้ว่าเป็นงานที่ท้าทายความสามารถของหญิงสาว และเธอก็ไม่ทำให้บอสใหญ่ผิดหวัง จากนั้นเป็นต้นมาเธอได้รับความไว้วางใจจากบอสใหญ่ ให้รับผิดชอบโปรเจคสำคัญของบริษัท ลูกค้าส่วนใหญ่ก็พึงพอใจกับผลงานของเธอเช่นกัน

วันนี้วีนัสต้องเข้าออฟฟิศแต่เช้าต่างไปจากทุกวัน เพราะบอสเรียกพบด่วนเกี่ยวกับโปรเจคใหม่ โดยปกติแล้วงานของเธอจะต้องใช้เวลาอยู่นอกออฟฟิศซะเป็นส่วนใหญ่

“สวัสดีค่ะพี่วีวันนี้มีงานด่วนเหรอคะ พี่วีถึงเข้าออฟฟิศแต่เช้าเลย” ฤดีโอปะเรเตอร์สาวเสียงหวานประจำออฟฟิศทักทายหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม วีนัสยิ้มให้สาวรุ่นน้องก่อนตอบกลับไป

“บอสน่ะสิโทรไปเรียกพี่ให้มาพบแต่เช้าไม่รู้มีเรื่องด่วนอะไร ว่าแต่ฤดีรู้ไหมว่าบอสมาหรือยัง”

“มาตั้งแต่เช้าแล้วค่ะและสั่งฤดีไว้ว่า ถ้าพี่วีมาถึงให้รีบเข้าไปพบทันทีเลยค่ะ”

“ขอบใจจ้ะ” ว่าแล้ววีนัสก็เดินตรงไปยังห้องบอสซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท เธอเคาะประตูสักครู่ก็ได้ยินเสียงของบอสหรือคุณนัทหนุ่มใหญ่ใจดีวัยเกือบห้าสิบปีดังออกมา

“เชิญครับ”

“อรุณสวัสดิ์ค่ะบอสเรียกวีมาพบแต่เช้า มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวเริ่มต้นทักทายเจ้านายของเธอก่อน

“อรุณสวัสดิ์เช่นกันครับคุณวีนั่งก่อนสิ เราจะได้คุยกันเกี่ยวกับเรื่องที่ผมต้องเรียกคุณเข้ามาพบแต่เช้าแบบนี้” เขาทักทายอย่างเป็นกันเองกับลูกน้องสาวคนสนิท เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั่งลงตรงหน้าเรียบร้อยแล้วจึงได้เริ่มคุยเรื่องงานทันที

“ทางบริษัทผลิตครีมบำรุงผิวยี่ห้อดังรายใหญ่รายหนึ่ง ที่ส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศมีแผนงานที่จะจัดทำโฆษณาตัวใหม่ เขาอยากจะทำโฆษณาเพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ และงานนี้ลูกค้าเจาะจงมาว่าอยากจะให้คุณเป็นคนรับผิดชอบเกี่ยวกับโปรเจคนี้ทั้งหมด เพราะว่าลูกค้าได้ยินชื่อเสียงของคุณมานาน และคิดว่าคุณสามารถดำเนินการให้ทุกอย่างประสบความสำเร็จได้อย่างไม่ยาก ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับเขา” บอสกล่าวชมหญิงสาวด้วยรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจในตัวลูกน้องเป็นอย่างมาก

“ลูกค้าเป็นคนระบุให้วีรับผิดชอบโปรเจคนี้เองเลยเหรอคะ” เสียงวีนัสถามด้วยความแปลกใจ

“ใช่เพราะว่าเขาเคยเห็นผลงานที่คุณทำออกมา และผลงานของคุณหลายชิ้นก็ประสบความสำเร็จเขาก็เลยระบุชื่อคุณให้เป็นคนรับผิดชอบโปรเจคนี้ คุณไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม”

“ไม่มีปัญหาค่ะวียินดีและก็เต็มใจที่จะทำงานนี้ วีจะตั้งใจทำงานชิ้นนี้อย่างสุดความสามารถเลยค่ะ” วีนัสยิ้มอย่างมั่นใจและดีใจที่ลูกค้าและเจ้านายเชื่อใจและไว้ใจเธอ

“ผมมั่นใจว่าคุณต้องทำได้ แต่งานโฆษณาชิ้นนี้จะแตกต่างจากโฆษณาชิ้นอื่น ตรงที่จะมีนักร้องยอดนิยมชื่อดังของเอเชียมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ ที่จริงก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะคุณเองก็เคยร่วมงานกับนักร้องและนักแสดงยอดนิยมจากต่างประเทศมาบ้างแล้ว”

“ใครหรือคะที่จะมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของงานนี้”

“คุณรู้จักวงบลูสกายไหม” พอได้ยินคำว่าวงบลูสกายเท่านั้นทำให้วีนัสถึงกับอึ้งไป เพราะเธอเองก็เคยได้ยินกิตติศัพท์ทั้งของตัวศิลปินและต้นสังกัดของพวกเขามาบ้าง หลายคนที่เคยร่วมงานกับพวกเขาเคยบอกเล่าให้เธอฟังถึงความเรื่องมากของตัวศิลปิน และความเขี้ยวของต้นสังกัดของพวกเขา แต่ทุกคนต่างก็ให้การยอมรับในความสามารถของพวกเขาเช่นกัน ในเวลาทำงานศิลปินทั้งสองคนจะแสดงความเป็นมืออาชีพให้ได้เห็นเด่นชัด ทำให้หลายบริษัทอยากที่จะได้พวกเขามาร่วมงานด้วย

‘เป็นพวกเขาจริง ๆ’ เธอคิดในใจและนิ่งไปนาน จนคุณนัทต้องโบกมือผ่านหน้าของเธอไปมาแล้วร้องเรียกชื่อเธออีกครั้ง

“วีนัสคุณเป็นอะไรหรือเปล่า”

“เอ่อ...เปล่าค่ะวีไม่ได้เป็นอะไร วงบลูสกายวีก็พอจะรู้จักค่ะ แต่จำหน้าพวกเขาได้ไม่ค่อยแน่ชัดนัก พวกเขากำลังมีชื่อเสียงโด่งดังมากในขณะนี้ และค่าตัวก็แพงมากเช่นกัน ว่าแต่ว่าสมาชิกคนไหนของวงบลูสกายคะที่ลูกค้าระบุจะให้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในโฆษณาชิ้นนี้” ที่เธอต้องถามแบบนี้ก็เพราะว่าวงบลูสกายมีสมาชิกสองคน

“โซจองมินหนุ่มที่มีความสามารถพิเศษในการแร็พ และการเต้นฮิพฮ็อพคุณพอจะรู้จักใช่ไหม”

“รู้จักค่ะเขาเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเอเซีย ถ้าวีไม่รู้จักก็ไม่อินเทรนด์สิคะ”

“อีกประมาณวันสองวันจะมีทีมงานจากบริษัทของลูกค้า เข้ามาคุยรายละเอียดเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง ผมจะแจ้งให้คุณทราบในวันพรุ่งนี้ว่าคุณจะได้เจอกับพวกเขาตอนกี่โมง”

“บอสคะแล้วงานที่วีรับผิดชอบอยู่ตอนนี้ล่ะคะ มีอยู่สองโปรเจคจะให้วีทำยังไงดีคะ” เจ้านายของเธอนิ่งคิดสักครู่

“ให้นายนภผู้ช่วยของคุณทำไปก็แล้วกัน ถ้ามีปัญหาอะไรก็ให้มาปรึกษาคุณอีกที”

“ได้ค่ะวีขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” เธอกล่าวก่อนที่จะเดินไปที่ประตู

“คุณวีผมขอฝากงานโฆษณาชิ้นนี้ด้วยนะครับ”

“ไม่ต้องห่วงค่ะคุณนัทวีจะทำให้ดีที่สุดค่ะ” หญิงสาวกล่าวก่อนจะเดินออกจากห้องไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel