ร้อนรักคุณอามาเฟีย EP. 10
เพราะเคยไปเป็นจิตอาสาเพื่อเพื่อนพิการทางหู เอมมี่กับมัสลินจึงสามารถใช้ภาษามือได้ มันเป็นสิ่งที่เอมมี่คิดได้ในตอนนี้ ก่อนจะรีบส่งสัญญาณให้เพื่อน ...สองสาวแอบคุยกันด้วยภาษามือ
‘ ทำเชี่ย!อะไรของมึง? รีบกลับไปกับอามึงเลย ก่อนกูจะซวย’
‘ กูไม่ทำให้มึงซวยหรอกน่า ’
‘ ไม่ซวยเชี่ย!ไร อามึงกำลังจะไล่กูออก ’
‘ ก็ใครมันจะไปรู้วะ ว่าใช้ไม้แข็งไม่ได้ ’
‘ ตอนนี้มึงจะใช้ไม้ไหนก็ให้รีบเลย ’
‘ โอเคๆ กูรู้แล้ว เดี๋ยวกูจัดการเอง..’
สองสาวคุยจบมัสลินรีบคิดแผนในใจ ‘ไม้แข็งใช้ไม่ได้ แบบนี้ก็คงจะต้องใช้ไม้อ่อนสินะ ’
ถึงจะแอบคุยกันในภาษามือ ทว่าก็ไม่ได้รอดพ้นสายตาของมาเฟียหนุ่มเสียหมด ดวงตาคมจับจ้องแม่หลานสาวตัวแสบนิ่ง รอดูว่าหล่อนจะมาไม้ไหน
เออ..ใช่ เป็นอย่างที่เข้าใจนั่นแหละ ว่าพระเอกยังไงก็เป็นพระเอก เก่งไปซะทุกเรื่อง รวมทั้งเรื่องภาษามือด้วย
กว่าจะเป็นมาเฟียที่ทรงอำนาจได้มาจนถึงวันนี้เขาก็ฝึกฝนมาไม่น้อย กับอีแค่ภาษามือทำไมจะไม่รู้
หมับ!!
“ คุณอาขา..”
มือน้อยคว้าแขนแกร่งอย่างไวก่อนจะกุมไว้แน่นพร้อมกับเอ่ยเรียกคนเป็นอา
สีหน้าออดอ้อนมาพร้อมเสียงเรียกอันไพเราะหวานหูที่ออกมาจากปากแม่หลานสาว ทำเอามาเฟียหนุ่มถึงกับชะงักนิ่ง อึ้งไปชั่วขณะเพราะคาดไม่ถึงว่าจะเจอไม้นี้
‘ น่าเอ็นดู’ มาเฟียหนุ่มคิดในใจก่อนจะหลุดยิ้มน้อยออกมาอย่างไม่รู้ตัว
ก็ไม่รอดพ้นสายตาคนตั้งใจออดอ้อน พลางคิดในใจ ‘ ติดกับค่ะคุณอาขา นี่แค่ประโยคเดียวเองนะ’
“ หนูกลับพร้อมคุณอาก็ได้ค่ะ”
“......”
“ แต่ให้หนูรู้สึกผิดแบบนี้ หนูไม่สบายใจนี่คะ”
“......”
“ คุณอาขา...อย่าไล่พวกเขาออกเลยนะคะ ”
“......”
“ นะค๊า คุณอาขา ”
มาเฟียหนุ่มจ้องมองเด็กสาวนิ่ง แม้จะรู้ว่าเด็กมันแสร้งทำ แต่น้ำเสียงหวานแหว๋วนั่น มันกลับทำให้เขาใจสั่นอย่างบอกไม่ถูก แล้วสีหน้าบวกสายตาอ้อนๆนั่นอีก ยิ่งทำให้ใจเต้นแรงเข้าไปใหญ่
“ ไหนลองเรียกอา...แบบเมื่อกี้อีกทีซิ ”
“......”
“ อาอาจจะยอมให้พวกเขาทำงานต่อก็ได้ ”
แล้วก็ใจอ่อนกับคำออดอ้อนของเด็กมันจนได้สินะ แต่ก็ขอเล่นต่ออีกซักหน่อย
“ แค่อาจจะเองเหรอคะ? ” สีหน้าง๊ำงอปรากฏขึ้นบนหน้าเนียนใสทันที
“ งั๊นต้องไม่ดื้อกับอาด้วย อาถึงจะยอม ”
อีตาคุณอาคงจะลืมคำพูดของตัวเองก่อนหน้านี้ไปแล้วสนิท ไหนบอกไม่ต่อรองกับเด็ก
“ ถ้าหนูเรียก...แล้วไม่ดื้อกับคุณอา คุณอาจะไม่ไล่พวกเขาออก ใช่มั้ยคะ? ” เด็กสาวถามย้ำเพื่อให้แน่ใจ ก่อนมาเฟียหนุ่มจะพยักหน้าเป็นคำตอบพร้อมกับยิ้มอ่อนละมุน
ดวงตาคมในตอนนี้แทบจะไม่ละสายตาจากเด็กสาว ก็ใช่ว่าจะไม่เคยมีใครอ้อน ผู้หญิงของมาเฟียหนุ่มมีเยอะแยะ ที่เวลาเรียกใช้ก็มักจะออดอ้อนขอนุ่นนี่นั่นทุกครั้ง
แต่แม่หลานสาวคนนี้ ทั้งสวย ทั้งสาว ไหนจะหุ่นแซ่ปเอกซ์แตกขนาดนี้ ใจพ่อจะไม่สั่นไหวได้ยังไง ยิ่งไม่ใช่หลานแท้ๆแล้วด้วย แทบอยากจะกลืนกินเสียเดี่ยวนี้
“ คุณอาขา.. ” มัสลินเรียกน้ำเสียงหวาน
“......” คนฟังกลับนิ่งเงียบ
“ คุณอาขา..คุณอาขา..คุณอาขา..พอหรือยังคะคุณอาขา.. ”
เมื่อเห็นคนเป็นอานิ่งเงียบเด็กสาวก็เลยเรียกคุณอารัวๆก่อนจะเอ่ยถามย้ำเสียงหวาน มาเฟียหนุ่มตอนนี้ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้ม ‘ น่าฟัดชะมัด!’
“ ก็ได้ อาไม่ไล่ใครออกก็ได้ แต่หนูต้องกลับไปพร้อมอาเข้าใจมั้ย? ”
“ จริงเหรอคะ?” มัสลินถามย้ำด้วยความดีใจก่อนจะพยักหน้าหงึกๆเป็นการบอกว่าเข้าใจ
“ ซันส์”
“ ครับนาย”
“ เก่งมันกลับไปหรือยัง”
“ พี่เก่งเข้าไปเก็บของอยู่ห้องผู้จัดการ น่าจะยังไม่ทันออกไปครับนาย ”
“ไปเรียกมันมา ”
“ ครับนาย”
หลังจากเรียกเก่งมา คทาให้เก่งทำงานต่อแต่ไม่ได้คืนตำแหน่งเดิมให้ โทษฐานที่จำนามสกุลเจ้านายไม่ได้ ก็คงต้องลงโทษกันบ้างแหละ แต่ก็ไม่ได้ใจร้ายเสียทีเดียว เขาเลื่อนให้ซันส์เป็นผู้จัดการแทน ให้เก่งมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ
“ ทีนี้จะกลับพร้อมอาได้รึยัง? ” เมื่อสั่งงานเสร็จมาเฟียหนุ่มก็หันมาพูดกับหลานสาวทันที
“......”
มัสลินชะงักไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ทันจะได้พูดอะไรคทาก็พูดขึ้นมาอีก
“ หวังว่าคงจะไม่ดื้อกับอาขึ้นมาอีกนะ ”
“ ไม่แล้วค่ะ อ้อนไม่ดื้อแล้ว ” สาวน้อยเอ่ยพร้อมโบกไม้โบกมือ
“......”
“ แต่อ้อนขอกลับไปที่บ้านก่อนได้ไหมคะ คืออ้อนไม่ได้อยู่คนเดียวน่ะค่ะ ”
คงเป็นเพราะคทาพูดจาอ่อนโยนมากขึ้น มัสลินจึงเผลอเรียกชื่อแทนตัวเองอย่างลืมตัว
“ อ้อน เหรอ? ” มาเฟียหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนกระตุกยิ้ม
“ เอ่อ..หนู..”
“ อืม เรียกชื่อตัวเองแบบนั้นแหละดีแล้ว..อาว่ามันน่ารักดี ”
“ ค่ะ ”
“ ถ้าหมายถึงป้าแป้น อาให้คนไปรับมาแล้ว ส่วนของใช้ของหนูป้าแป้นก็เก็บมาให้แล้วด้วย ”
“......”
“ ป่านนี้ป้าแป้นคงรออยู่ที่บ้านอาแล้ว ทีนี้จะกลับกันได้รึยังคะ?” คทาถามอีกครั้ง ตอนนี้แม่หลานสาวตัวน้อยก็เถียงอะไรไม่ได้อีก เพราะอีตาคุณอาเล่นมัดมือชกซะทุกทางแบบนี้
อยากจะบอกให้หล่อนรู้ไว้ ว่าความเจ้าเล่ห์ของหล่อนยังไม่ได้ครึ่งเสี้ยวของคุณอาเลย
หลังจากที่เดินออกมาถึงหน้าผับ มัสลินกลับยืนตัวเกร็งไม่กล้าที่จะขึ้นรถที่พลขับมาจอดรออยู่นานแล้ว
“ ขึ้นรถได้แล้วค่ะ อาไม่พาหนูไปขายหรอกน่า ” มาเฟียหนุ่มออกคำสั่งเสียงนุ่มก่อนหยอกล้อเบาๆ
มัสลินถอนลมหายใจเบาๆก่อนจะยอมขึ้นรถอย่างว่าง่ายโดยขึ้นรถคันเดียวกันกับมาเฟียหนุ่ม
ระหว่างทางเด็กสาวเอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา ถึงจะเป็นน้องชายของพ่อที่เลี้ยงดูเธอมา แต่เธอก็ไม่เคยรู้จักมักจี่มาก่อน เขาก็ไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้าในเวลานี้
ยิ่งเห็นรถบอดี้การ์ดที่ขับตามประกบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ก็ยิ่งรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ในหัวมัสลินตอนนี้มีแต่คำถามเต็มไปหมด ‘ แค่ธุรกิจเปิดผับ ทำไมถึงต้องมีบอดี้การ์ดมากมายขนาดนี้ ’
แต่ทว่าคำถามในหัวยังไม่ทันได้รับคำตอบมัสลินก็รู้สึกใจคอสั่นขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินบอดี้การ์ดศรเอ่ยกับคนเป็นนาย
“ มีรถตามเรามาครับนาย ”
“ พวกไหน? ” มาเฟียหนุ่มรีบเอ่ยถามศร ก่อนจะหันมองหน้ามัสลินด้วยสีหน้ากังวล
“ ยังไม่รู้ครับนาย ”
“ อ๊ะ!!”
มัสลินร้องตกใจ เมื่อมาเฟียหนุ่มเอื้อมมือมากดหัวเธอให้ก้มต่ำลง เด็กสาวช้อนสายตาขึ้นมองคนเป็นอาด้วยแววตามีคำถาม มาเฟียหนุ่มจ้องมองแววตานั่นก่อนจะเอ่ยกับเธอ
“ ก้มต่ำเข้าไว้!อย่าเงยหน้าขึ้นมา เข้าใจที่อาพูดมั้ย? ”
กรี๊ดด!!
เสียงกรีดร้องตกใจของเด็กสาวดังขึ้นแทนที่จะเป็นคำตอบ
ด้วยแรงเหวี่ยงของรถที่ปาดไปมาเพื่อหลบบางสิ่งบางอย่าง เมื่อหาที่ยึดเกาะไม่ทัน คนตัวเล็กก็กลิ้งขลุกขลักไปมาตามแรงเหวี่ยง รวมถึงตัวมาเฟียหนุ่มก็ด้วย
########
