ตอนที่ 1
บ้านไอยสุวรรณ
“คุณแม่ครับ ผมยังใช้ชีวิตโสดไม่เต็มที่ งานการก็ยังทำได้ไม่เท่าไร ทำไมคุณแม่ต้องรีบหาเมียให้ผมด้วย” ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยท่าทางกลัดกลุ้ม เมื่อได้ฟังเรื่องที่มารดาสุดที่รักเอ่ยคำขออย่างไม่เข้าท่าจบลงหมาดๆ
เขา...คมกริช ไอยสุวรรณหนุ่มน้อยวัยยี่สิบแปดปีผู้รักอิสระ ไม่ชอบการผูกมัด ไม่ต้องการมีใครเป็นจริงเป็นจัง และที่สำคัญยังมีภาระความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงรออยู่ เพราะมันคือบทพิสูจน์ความสามารถที่อุตส่าห์ไปเล่าเรียนมาจากเมืองนอกเมืองนามาเสียหลายปี
ยิ่งไปกว่านั้นพี่ชายสุดที่รักก็เพิ่งวางมือจากตำแหน่งท่านประธานบริษัทส่งออกอันดับหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งเป็นกิจการหลักที่มั่นคงและยาวนานของครอบครัวมานานหลายปี ไปสวมบทบาทคุณพ่อมือใหม่กับครอบครัวที่เพิ่งเป็นรูปเป็นร่าง ไหนจะกิจการโรงแรมที่นับวันก็จะมีแต่ขยายมากขึ้น
คมกริชยังสนุกกับงานและมีไฟที่อยากจะเรียนรู้มันอีกมาก เขาอยากได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จเฉกเช่นเดียวกับบิดาที่ล่วงลับไปแล้ว มารดาสุดที่รักที่ได้ชื่อว่าเป็นนักธุรกิจหญิงตัวอย่าง และพี่ชายแสนเก่งที่ต่างก็เป็นที่ยอมรับในแวดวงธุรกิจว่าเป็นมืออาชีพ แน่นอนว่าในฐานะเลือดไอยสุวรรณอีกคน คมกริชก็จะต้องทำมันให้ได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้นการแต่งงานมีครอบครัวมีลูก การหยุดอยู่ที่ผู้หญิงคนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียว ในความคิดของคมกริชนั่นเท่ากับหยุดโลกทั้งใบของเขาให้จบสิ้น มันต้องไม่เป็นอย่างนั้น ไม่มีทางที่จะหาบ่วงมาผูกคอหรือมีใครที่ต้องมาคอยนั่งเอาใจเพียงแค่คำว่าเมียแน่ ผู้หญิงที่เหมาะสมจะเคียงข้างในเวลานี้ ของ่ายๆ ไม่พูดมาก ไม่เรียกร้องและที่สำคัญต้องเข้าใจว่านี่คือเวลาอะไร....
"มีเมียดีเป็นศรีแก่ตัวเอง ดูตาวัชซิเป็นไง พอแต่งกับหนูเกษราแล้วทุกอย่างเข้าที่มีความสุขจะตาย แม่อยากให้กริชมีความสุขเหมือนกันนี่ลูก" คุณนวลอ้างผลงานชิ้นสำคัญ ในการจับคู่ให้กับบุตรชายคนโตที่ประสบความสำเร็จมีครอบครัวแสนอบอุ่นเรียบร้อยแล้ว
"นั่นมันน้องเกด คนเนื้อแท้ที่คุณแม่ไปเฟ้นหามาให้พี่วัช แต่นี่... ให้ผมแต่งกับยัยจุ้น ผมยอมเป็นโสดจนตายดีกว่า"
อยากจะบ้าตายเมื่อรู้ว่าผู้หญิงที่มารดาคิดทาบทามให้แต่งงานด้วยคือยัยจอมจุ้น ที่ชอบวุ่นวายเรื่องของคนอื่นโดยเฉพาะกับคนในครอบครัวไอยสุวรรณมาตลอด แค่คิดว่าเป็นเจ้าหล่อน...คมกริชก็ปิดประตูตายท่าเดียวว่าไม่ต้องการจะเกี่ยวดองกับแม่จอมจุ้นคนนี้
ทำไมพูดถึงหนูแพทแบบนั้นล่ะลูก ไม่น่ารักเลยนะ" คุณนวลตำหนิบุตรชายด้วยสายตาเล็กน้อย
"ผมพูดตามความจริงครับแม่" ลูกชายคนเล็กไม่สนใจสายตาตำหนิติเตียนคู่นั้นของมารดา
“เท่าที่ผมเห็นยัยจุ้นมาตั้งแต่เกิด ก็ไม่เห็นว่าจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง วันๆ ดีแต่ไปบ้านคนโน้นคนนี้เรียกร้องขอความสนใจไปหมด แม่นี่ไม่เหมาะจะมาเป็นสะใภ้เกี่ยวดองกับเราหรอกครับ เป็นได้อย่างมากก็แค่ลูกลิงที่เที่ยวเกาะคนโน้นคนนี้ไปวันๆ ไร้สาระสิ้นดี”
“ดูว่าเข้า” หญิงวัยกลางคนกางปีกปกป้องสาวน้อยที่ตนชื่นชอบเต็มที่
“หนูแพทไม่ได้เป็นอย่างที่กริชว่าเสียหน่อย มองน้องเสียหายแบบนั้นสักวันกริชจะต้องเสียใจเพราะคำพูดตัวเอง” คำพูดของคุณนวลทำให้คมกริชสงบลง เพราะรู้ว่าถึงอย่างไรเสียนางก็รักและเอ็นดู ‘ยัยจุ้น’ มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“แม่ยังไม่ได้บอกว่าจะให้กริชแต่งงานตอนนี้เสียหน่อย แม่รู้ว่าลูกอยากทำงานมากกว่าสิ่งอื่น แต่การมีคู่หมั้นสักคนมันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย โดยเฉพาะคู่หมั้นที่มีความสามารถอย่างหนูแพท”
“ความสามารถอะไรครับ เท่าที่ผมจำได้ก่อนจะไปเรียนต่อ ผมเห็นหนูแพทของคุณแม่ลอยไปลอยมาไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง วิ่งไปบ้านโน้นทีบ้านนี้ที ทำเรื่องให้คนอื่นปวดหัวได้ตลอด ผมว่าคุณแม่มองคนผิดแล้ว”
คมกริชนึกถึงแม่สาวน้อยจอมจุ้นลูกสาวคุณหญิงท่านนายพลที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ภาสินี ศิลป์สวรรค์ คุณหนูจอมยุ่งที่วุ่นไปทุกเรื่องได้ตลอดเวลา ถ้าให้เจ้าหล่อนเป็นคู่หมั้นรับรองได้ว่าชีวิตเขาคงมีแต่เรื่องวุ่นๆ ไปตลอดแน่ ทางที่ดีอยู่ให้ห่างไว้เป็นดีที่สุด
“กริช” คุณนวลตั้งท่าพูดกับลูกชายด้วยท่าทีจริงจังอย่างเห็นได้ชัด คมกริชนิ่งเมื่อเห็นท่าทีของมารดาในเวลานี้
“นั่นมันเมื่อก่อน กริชไปอยู่เมืองนอกตั้งหลายปีรู้ไหมว่าอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ถ้ากริชอยู่แต่เรื่องเก่าๆ ก็จะมองไม่เห็นสิ่งที่เป็นปัจจุบัน แม่อยากให้กริชมองหนูแพทเสียใหม่และทำความคุ้นเคยกันไว้ให้มาก ไอ้เรื่องสมัยเด็กๆ ลืมมันไปซะ เพราะไม่ว่าอย่างไรแม่ก็ไม่มีวันยอมให้สะใภ้เป็นคนอื่นไปได้นอกจากหนูแพทคนเดียวเท่านั้น”
“คุณแม่” คมกริชถอนหายใจเบาๆ เมื่อได้ยินคำสั่งประกาศิตที่มารดาเอ่ย
“แม่มีลูกแค่สองคนเท่านั้น ชีวิตแม่ไม่ต้องการอะไรนอกจากเห็นลูกทั้งสองเป็นฝั่งเป็นฝามีครอบครัวที่ดี ตาวัชมีความสุขเพราะมีหนูเกษรากับลูกมาเติมเต็ม แม่ก็อยากให้กริชเป็นแบบนั้นบ้าง”
“คุณแม่ครับ แต่ว่าผม...”
“กริชยังพอมีเวลาที่จะคิดทบทวนเรื่องนี้ใหม่ เพราะแม่ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับคุณหญิงเรื่องหาฤกษ์แต่งงาน ดังนั้นแม่อยากให้กริชหมั่นไปหาหนูแพทและทำความคุ้นเคยกันไว้ ส่วนเรื่องงานกริชจะทำอะไรแม่ไม่ว่าและยินดีสนับสนุน เข้าใจที่แม่พูดไหม”
คราวนี้เป็นคมกริชเสียเองที่พูดอะไรไม่ออก เขาเป็นลูกคนเล็กที่มารดาเอาใจและตามใจมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว จะว่าไปคมกริชเองก็ไม่เคยขัดใจมารดาในเรื่องใดเลยสักครั้ง ยกเว้นเรื่องที่คิดจะให้ยัยจอมจุ้นมาเป็นเมียนี่แหล่ะ
“ชีวิตแม่ไม่ต้องการอะไรมาก ก่อนตายแค่อยากเห็นกริชกับตาวัชมีความสุข ตอนนี้ตาวัชก็ทำให้แม่สบายใจไปแล้วหนึ่งคน แล้วกริชจะทำให้นอนตายตาไม่หลับหรือไง นะลูกนะ อย่าทำให้ชีวิตที่เหลืออยู่ของแม่ต้องทุกข์ใจเพราะเรื่องแค่นี้เลย หนูแพทน่ารักเป็นเด็กดีแม่ว่าเหมาะกับกริชมากที่สุดจริงๆ นะ” คุณนวลไอเบาๆ สองสามทีด้วยโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ คมกริชได้แต่นั่งนิ่งเถียงไม่ออก
“นะลูกนะ ก่อนตายแม่ขอแค่นี้จริงๆ”
นับหนึ่งถึงร้อย คมกริชอยากจะเอื้อนเอ่ยตอบไปว่าไม่ แต่เมื่อคุณนวลไอติดๆ กันหลายหนและมีท่าทีว่าจะเหนื่อยหอบ สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือเข้าไปโอบกอดมารดาไว้แล้วกุมมือเพื่อให้กำลังใจเพียงเท่านั้น คำปฏิเสธที่คิดอยู่ในใจทำได้แค่ลืมมันไปชั่วขณะ
โบราณว่าตีเหล็กต้องตีตอนร้อน หลังจากนั้นเพียงแค่วันเดียวคุณนวลก็จัดการให้คมกริชได้พบกับภาสินีในที่สุด แม้เจ้าตัวจะเอ่ยปากบอกว่ายุ่งติดประชุมใดๆ ก็แล้วแต่ สุดท้ายมารดาก็ให้คนขับรถมารับถึงบริษัทและไปพบกันที่บ้านของหญิงสาว
คมกริชมาถึงบ้านศิลป์สวรรค์ก่อนเวลาอาหารเย็นเล็กน้อย คุณหญิงวิมลมารดาของหญิงสาวทักทายชายหนุ่มด้วยความเป็นกันเอง และถามไถ่สารทุกข์สุขดิบหลังจากที่ไม่ได้พบกันเสียนาน โดยไร้เงาของภาสินีที่กว่าจะปรากฏตัวให้เห็นก็อีกหนึ่งชั่วโมงถัดมา
คุณนวลสังเกตเห็นว่าสายตาของบุตรชายกำลังมองหาใครอยู่ ไม่ต้องให้เดาก็พอรู้ว่าเจ้าลูกชายตัวดีคงมองหาว่าที่คู่หมั้นเป็นแน่ แต่เพราะความหมั่นไส้และอยากจะแกล้งเสียให้เข็ด ทำให้นางไม่เอ่ยปากบอกว่าภาสินีไปไหนและจะมาเมื่อไร รอจนกระทั่งเจ้าตัวกลับเข้ามาเอง
“หนูแพท ทางนี้ลูก” คุณหญิงวิมลร้องเรียกบุตรสาวที่เพิ่งกลับเข้าบ้านมา
ร่างเล็กสมส่วนเดินตรงเข้ามานั่งข้างคุณหญิงวิมลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม มือเรียวยกขึ้นทำความเคารพหญิงวัยกลางคนทั้งสองด้วยความอ่อนช้อย ใบหน้าหวานแต่งแต้มเครื่องสำอางเบาบางจนแทบมองไม่เห็น ผมดำเงาดัดเป็นลอยสวยเข้ากับบุคลิกและใบหน้า สายตาคนที่จับจ้องมองไม่วางตานั้นคือคมกริช ที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าแม่จอมจุ้นตัวดีจะสวยบาดใจถึงเพียงนี้
“วันนี้ที่ร้านมีขนมที่คุณป้าชอบด้วย นี่ค่ะ”
