ตอนที่ 9 ถามผี
"พวกมึงเอาจริงหรอวะ " แสนดีทำท่าขนลุกขนพอง ตอนนี้ทั้งห้าคนยืนอยู่หน้าห้องมอสี่ทับหนึ่ง
"เออสิ มาถึงขนาดนี้แล้ว" มิวนิกตอบด้วยเสียงมุ่งมั่น แม่ภายในใจจะหวั่นใจมิใช่น้อย
"จริง กว่าจะหลบลุงยามขึ้นมาบนนี้ได้ ดีนะที่วันนี้ลุงยามลืมล็อกประตูตึกไม่งั้นแย่แน่" สุพจน์เสริมขึ้นมา
"กูว่าเพราะลุงแกลืมเนี่ยล่ะ มันถึงแย่" แสนรักพูดเสียงอ่อย ก่อนจะกวาดตามองรอบๆตัว เธอไม่ใช่คนกลัวอะไรแบบนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อเพราะพวกเธอพิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่มองไม่เห็นมีอยู่จริง แต่เธอถือคติว่าต่างคนต่างอยู่จะดีกว่า เธอไม่น่าใจอ่อนให้กับมิวนิกเลย
"อย่ามาปอดแหกตอนนี้น่าแสนรัก ก็มึงไม่ใช่หรือไงที่ยอมให้มิวนิกมันทำแบบนี้" เบลล์พูดสมทบขึ้นมา
"กูรู้แล้วน่า พวกมึงจะทำอะไรก็รีบทำ จะได้รีบกลับพรุ่งนี้มีสอบวิชาประวัติศาสตร์ด้วย กูยังไม่ทันได้อ่านหนังสือเลยนะ" แสนรักแสร้งบ่นไปอย่างนั้น เธออยากให้เพื่อนของเธอรีบออกไปจากตรงนี้เสียที
"แล้วมึงจะถามเขายังไงล่ะ"
"กูเตรียมมาแล้ว มึงไม่ต้องห่วงหรอกแสนดี" มิวนิกยักคิ้วใส่แสนดีหนึ่งที ก่อนจะคว้ากระดาษที่อยู่ในกระเป๋าออกมา
"เล่นผีถ้วยแก้ว?" สุพจน์ทำหน้าสงสัย
"คล้ายๆ แต่ไม่ได้ใช้แก้วเล่น พวกมึงมีเหรียญไหม? เหรียญอะไรก็ได้" มิวนิกตอบก่อนจะถามหาเหรียญจากเพื่อนคนอื่น เพราะควานหาในกระเป๋าแล้วไม่เจอ
"กูมี " เบลล์พูดพร้อมคว้าเหรียญจากกระเป๋ากางเกงออกมาวางใส่มือมิวนิก
"เหรียญมึงแปลกๆนะเบลล์"
"เขาเรียกเหรียญพดด้วง คนโบราณใช้ป้องกันภูตผีปีศาจ"
"แล้วมึงเอามาเล่นเรียกผี ผีจะมาไหมล่ะ เอาเหรียญกูไปแทน นี่" สุพจน์ว่า ก่อนจะหยิบเหรียญสิบบาทยื่นให้มิวนิกแทน เธอทำหน้าตาลังเลก่อนจะคืนเหรียญพดด้วงให้เบลล์แล้วหยิบเอาเหรียญสิบบาทขากมือสุดจน์แทน ถ้าหากเหรียญของเบลล์เป็นเหรียญป้องกันสิ่งลี้ลับ เธอก็ไม่ควรใช้มัน
ทั้งห้าคนกางกระดาษตรงพื้นหน้าห้อง ติดกับกระดานดำ
"พร้อมนะพวกมึง" มิวนิกถามเพื่อนซ้ำอีกครั้ง
"ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมแล้วล่ะ" แสนรักตอบ ทั้งที่ในใจคอยภาวนาว่าอย่าได้มีอะไรโผล่มาเลย
"เอามือวางที่เหรียญนะเลย ห้ามเอามือออกจนกว่าจบเกมส์นะเว้ย"มิวนิกย้ำอีกที
ทั้งห้าคนพยักหน้าก่อนที่มิวนิกจะเริ่มสวดคาถาเรียกวิญญาณ
"มามามะมะ มาอยู่ในเหรียญที่อยู่ตรงนี้ด้วยเถิด" สิ้นเสียงเรียกของมิวนิกทุกอย่างยังคงเงียบสงัด
"ไม่เห็นมีอะไรเลย เขาเล่าว่าของมึงไม่จริงนี่ว่าอิพจน์" แสนรักพูดอย่างโล่งใจก่อนจะขยับมืออกแต่ต้องชะงักเมื่อมิวนิกท้วงขึ้น
"อย่าเอามือออกนะแสนรัก เขามาแล้ว" เหรียญค่อยๆขยับเป็นวงกลมรอบกระดาษ
"ใครแกล้งป่ะเนี่ย กูไม่ตลกนะ" สุพจน์โวยวาย เหฃื่อแตกพลั่ก ทั้งที่เตรียมใจมาแล้ว แต่ก็อดหวาดกลัวไม่ได้ ยิ่งเมื่อเห็นเพื่อนๆ ต่างมองหน้ากันไปมาด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เด็กชายน้ำตาไหลอาบแก้ม
"ไม่ต้องกลัวอีพจน์ เรามาดี เราจะถามแค่ห้าคำถามเท่านั้น " มิวนิกปลอบใจสุพจน์
"เอาล่ะเริ่มถามแล้วนะ" มิวนิกหันไปขอความเห็นของทุกคน ตอนนี้หน้าตาของทุกคนออกไปทางซีดเผือดกับสิ่งตรงหน้า เธอเลยสรุปเอาเองว่าควรจะไปต่อ
"พี่ชื่ออะไร" คำถามพื้นฐานหลุดออกจากปากของมิวนิก เหรียญบนกระดาษค่อยขยับไปตามตัวอักษรทีละตัว ท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นยะเยือกจนน่าขนลุกมาขึ้นทุกที
"แ-พ-ร-ว-พ-ร-า-ว" เสียงเบลล์พูดขึ้นเบาหวิว
"มึงจะกระซิบทำไมวะ คนยิ่งกลัวจนฉี่จะราดละเนี่ย" สุพจน์พูดทั้งที่น้ำตายังคงไหนอาบแก้ม
"ทำไมพี่แพรวพราวถึงตาย" มิวนิกยังคงถามต่อ แต่เหรียญกลับไม่ขยับ
"พี่เขาไม่ตอบ มึงถามใหม่สิมิวนิก" แสนดีสะกิด
"พี่เป็นอะไรตาย" สิ้นคำถามของมิวนิกเหรียญเริ่มขยับอีกครั้ง
"ฆ่-า-ตั-ว-ต-า-ย"
"ยังไง?" มิวนิกยังคงไม่หยุดถาม
"ไม่ต้องอยากรู้ก็ได้มั้งมิวนิก ปล่อยพี่เขาไปเถอะ ปล้วเลิกเล่นกันได้แล้ว" สุพจน์แย่งเสียงสั่น แต่เหรียญกลับขยับตามตัวอักษรต่อเรื่อยๆ
"ไ-ม่-ไ-ด้!!! เชี่ยแล้วไหมล่ะพวกมึง เขาไม่ให้เลิกแล้วทำยังไงต่อล่ะ" น้ำเสียงลนลานของสุพจน์ทำให้เพื่อนคนที่เหลืออดวิกตกกังวลไม่ได้
"พี่ฆ่าตัวตายยังไง?" มิวนิกยังคงถามต่อ คำถามที่สามแล้ว เธอหวังว่าเธอจะจบเกมส์นี้โดยดี จึงพยายามใจกล้าถามต่อไปเรื่อยเรื่อย
"ผู-ก-ค-อ-ต-า-ย"
"กูไม่ไหวแล้ว ฮือออ "เสียงสุพจน์ร้องไห้โฮ แต่แสนดีกลับจับมือสุพจน์กดไว้ที่เหรียญอย่างหนาแน่น
"สามคำถามแล้วมึง อย่าเอามือออกนะ" แสนดีเตือนสติเพื่อน ใจนึงก็อดสงสารสุพจน์ไม่ได้ แต่ในเมื่อร่วมหีวจมท้ายกันมาก็ต้องพากันไปให้ถึงฝั่ง
"มึงเริ่มคำถามที่สี่ได้เลย" แสนดีหันไปพยักหน้าบอกมิวนิกให้เริ่มคำถามถัดไปได้เลย เธอเองก็อยากขะเลิกเล่นเกมส์บ้าๆ นี้ใจจะขาดแล้วไม่ต่างกัน
"อืม คำถามที่สี่นะ" มิวนิกพยักหน้ารับคำก่อนจะเริ่มถามต่อ
"พี่แพรวพราวตายที่ไหน?" เหรียญยังคงขยับตามตัวอักษรไปเรื่อยๆ
"เ-ง-ย-ห-น้-า-ขึ้-น-ม-า-สิ"
"เงยหน้าขึ้นมาสิ อย่าบอกนะว่า.."เสียงของสุพจน์สั่นอย่างควบคุมไม่ได้
"อย่าเงยนะ!!!" แสนรักโพลงขึ้นกลางปล้องหลังจากที่เงียบมานาน
"กู-บ-อ-ก-ใ-ห้-เ-ง-ย-ขึ้-น-ม-า!!"คราวนี้มีเสียงแว่วเข้าหูทั้งห้าคนพร้อมกัน ทั้งห้าคนเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน เจอภาพคนห้อยโตงเตงอยู่ตรงกลางวง ใบหน้านั้นแสยะยิ้มอย่างสดสยอง หัวที่ถูกห้อยอยู่ในตอนแรกหลุดตกลงมากลางวงท่ายกลางความช็อกของห้าคน
"ในเมื่ออยากรู้กูก็จะบอก กูตายยังไง ตายตรงไหน หึหึหึ" ใบหน้าซีดเผือดแสยะยิ้ม ก่อนร่างที่ที่ถูกห้อยอยู่จะหล่นตามลงมา
"กรี๊ดดดดดดด" ทั้งห้าคนทิ้งเหรียญก่อนจะวิ่งแตกกระเจิงไปด้านล่างตึก เป็นจังหวะพอดีที่ลุงยามกำลังตรวจพื้นที่พอดี ได้ยินเสียงกรี๊ดจึงเดินตามเสียง ทันทีที่ลุงยามยกประตูสแตนเลสบานเลื่อนขึ้น ทั้งห้าคนก็วิ่งตาตั้งมาหลบด้านหลังลุงยามทันที
"มาทำอะไรกันที่นี่ ค่ำมืดดึกดื่นแล้ว" เสียงเอ็ดของคนสูงวัยไม่ทำให้ทั้งห้าคนกลัวเท่าเรื่องที่เจอมาเมื่อสักครู่สักนิด และเหมือนลุงยามจะรู้ว่าทั้งห้าคนไปทำอะไรมาจึงเอ่ยปากบอกให้ทั้งห้าคนกลับบ้านได้แล้ว
"เขาอยู่ของเขา เราอยู่ของเรา ต่างคนต่างอยู่เถอะนะ" ลุงยามพูดขึ้น หากแต่ไม่ได้พูดกับเด็กทั้งห้าคนแต่พูดกับสิ่งที่ยืนจ้องอยู่ตรงบันไดต่างหาก ก่อนจะเดินพาเด็กทั้งห้าไปส่งยังประตูโรงเรียน
