บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

“หน้าพลอยบวมเชียว งั้นไปนอนพักในรถบ้านพี่ก่อนไหมคะ เดี๋ยวพี่เอาผ้าเย็นไปประคบให้ อย่าเกรงใจ” ปลายฝนเอ่ยรวบรัดชนิดที่ไม่ปล่อยให้พลอยใสได้ค้าน

“งั้นก็ได้ค่ะ”

“จ้ะ” ปลายฝนยิ้มรับ ก่อนจะจูงมือพาพลอยใสไปยังรถบ้านของเธอ ซึ่งมันเหมือนบ้านเคลื่อนที่หลังขนาดย่อม ที่ภายในนั้นตกแต่งไว้สำหรับพักผ่อนและใช้งานจริง ทุกครั้งที่ออกกองถ่ายปลายฝนมักจะใช้รถคันนี้เสมอๆ

“เอ้า! คัตแล้วก็พักกองก่อน บ่ายสามค่อยเริ่มถ่ายใหม่”

“ครับ/ค่ะ” ทีมงานทุกคนในกองถ่ายต่างเอ่ยรับกันอย่างพร้อมเพรียง แต่ดูเหมือนจะมีเพียงหนึ่งเดียวที่นั่งหน้าบึ้งตึงอยู่ นั่นก็คือนางเอกของเรื่องนี้อย่างริต้า

เช้านี้เธอมาสายกว่าเวลานัดมาก เพื่อไม่ให้เสียเวลาของนักแสดงท่านอื่นๆ ผู้กำกับจึงต้องขยับคิวถ่ายเมื่อครู่นี้มาถ่ายทำก่อน ขนาดสั่งคัตไปแล้วนางเอกของเรื่องก็ยังแต่งหน้าทำผมแต่งตัวยังไม่เสร็จ

“ชุดนี้ริต้าไม่ใส่ค่ะ มันไม่สวยพอสำหรับนางเอกอย่างริต้า”

“แต่มันเป็นชุดที่เราใส่ฟิตติ้งกันมาแล้วนะคะ” ทีมงานฝ่ายคอสตูมของกองถ่ายเอ่ยบอก

“แล้วไงคะ ถ้าริต้าบอกว่ามันไม่สวยก็คือไม่สวยค่ะ ริต้าไม่ใส่ถ้าอยากให้ริต้าใส่ถ่ายละคร พี่ๆ ก็ต้องไปเอาชุดอื่นมา”

“ไม่มีแล้วค่ะคุณริต้า”

“ใครว่าไม่มี ก็เสื้อผ้าราวนั่นไง” นางเอกสาวผู้ที่มีนิสัยแตกต่างจากในละครชี้นิ้วไปยังราวแขวนเสื้อผ้าของปลายฝน

“แต่นั่นมันเป็นชุดของน้องหมอก พี่ว่า…” ทีมงานอึกๆ อักๆ อยากจะพูดว่ามันไม่เหมาะก็ไม่กล้าเอ่ย

“ริต้าจะใส่ชุดนั้นเข้าฉากตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ได้ก็สั่งเลิกกองไปเลย ริต้าจะกลับบ้าน”

“ค่ะๆ” เพื่อกันไม่ให้นักแสดงหลักกลับบ้าน ฝ่ายคอสตูมก็ต้องยอมสถานเดียว ก่อนจะรีบวิ่งไปบอกผู้กำกับ ที่แอบถอนหายใจอย่างระอาอยู่หลายครั้ง ก่อนจะแจ้งผู้จัดการกองถ่ายให้ไปคุยกับปลายฝนว่าริต้าจะเอาชุดที่เตรียมไว้ให้เธอใส่เข้าฉากไปใส่แทน ซึ่งปลายฝนก็ไม่ค้านอะไร

“อารมณ์เสีย หน้าบูดหน้าบึ้งแบบนี้ไม่สวยนะคะคุณน้อง” หน้าตาบูดบึ้งของริต้า ทำให้ลูกน้ำซึ่งมีรับหน้าเป็นผู้จัดการส่วนตัวของนักแสดงสาวต้องรีบเข้ามาคุยด้วย

“หงุดหงิดนี่ค่ะ” ไม่ใช่แค่เรื่องชุดที่ทำให้ริต้าหงุดหงิด แต่รวมไปถึงงานที่ทำอยู่ตอนนี้ด้วย นี่คือเรื่องแรกที่เธอไม่ได้ทำงานกับพระเอกคู่จิ้นคู่ขวัญ เพราะจู่ๆ ช่องก็ให้เธอมาเล่นคู่กับพระเอกหน้าใหม่ ที่เล่นแข็งยังกับหินล้านปี ร้องขอให้เธอช่วยดันให้รุ่ง แต่ดูเหมือนจะดับเสียมากกว่า

“ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ พี่รู้ว่าน้องริต้าอารมณ์เสียด้วยเรื่องอะไร แต่เราต้องเป็นมืออาชีพเข้าไว้ค่ะ หน้ากล้องยังไง หลังกล้องก็ต้องแบบนั้น”

“พูดนะมันง่าย แต่ทำจริงมันไม่ง่ายเลย”

“พี่รู้ แต่อีกไม่กี่ตอนก็จะปิดกล้องแล้ว ทนๆ เอาหน่อยนะคะ พี่ได้ข่าวว่าละครเรื่องนี้กระแสดีมากถึงมากที่สุด ผู้ใหญ่ดันสุดตัว หลังออนแอร์แล้วรับรองว่าน้องริต้าต้องดังเป็นพลุแตกกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มากแน่ๆ แบบนี้รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมปลายปีนี้จะไปไหนเสีย”

“ก็แค่รางวัลกระจอกๆ” ริต้าไหวหัวไหล่มน นั่นเพราะเธอไม่ได้ต้องการรางวัลอะไรพวกนั้นเลยสักนิด ถ้าเป็นรางวัลนักแสดงนำหญิงแห่งเอชียก็ว่าไปอย่าง

“อุ๊ย! อย่าพูดเรื่องจริงดังไปสิคะ เพราะวงการนี้รางวัลคือเครื่องการันตีชื่อเสียงและความโด่งดัง ยิ่งคุณน้องได้รางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมมากเท่าไหร่ งานและเงินก็จะวิ่งเข้าหาไม่ขาดสาย งานจับคู่จิ้นกับพระเอกเบอร์หนึ่งก็จะมีไปเรื่อยๆ อีก เชื่อพี่”

“ขนาดเจอกันแทบทุกวัน แต่ทำไมริต้าถึงยังทำให้เขารักไม่ได้เลยสักที” คิดเรื่องนี้แล้วริต้าก็ยิ่งหงุดหงิด นั่นเพราะเธอเจอหน้าพระเอกเบอร์หนึ่งอย่างคิมหันต์แทบทุกวัน เพราะนอกจากทำงานร่วมกันแล้ว แม่ของเธอกับแม่ของชายหนุ่มนั้นยังเป็นเพื่อนสนิทกันอีก ทั้งสองครอบครัวมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอๆ แต่เธอกลับชนะใจชายหนุ่มไม่ได้เสียที เป็นได้แค่คู่จิ้นหน้ากล้อง พอหลังกล้องเขากลับเมินใส่ นั่นยิ่งทำให้ริต้าอยากเอาชนะผู้ชายอย่างคิมหันต์

“อย่าลืมว่าน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน นับประสาอะไรกับหัวใจอ่อนๆ ของผู้ชาย” ลูกน้ำยิ้มเจ้าเล่ห์ เพราะมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ แต่แค่ครู่เดียวก็กลับมาฉีกยิ้มสดใสให้ริต้าอีกครั้ง

ส่วนริต้านั้นกลับไม่ทันได้สังเกต เพราะในความคิดตอนนี้ของเธอมีแค่อย่างเดียว คือจะทำยังไงให้ชนะใจคิมหันต์ให้ได้ แต่ถึงเธอจะหมกมุ่นกับเรื่องนี้หรือวีนเรื่องชุดที่ต้องใส่ ริต้าก็ยังเป็นนักแสดงสาวมือหนึ่งของวงการ เธอแบ่งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานออกจากสมองได้ดี เพราะทันทีที่มีการต่อบทเธอก็เป๊ะเพราะทำการบ้านมาเป็นอย่างดีแล้วนั่นเอง

ในขณะที่ริต้าเป๊ะเรื่องงานราวกับเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ ปลายฝนเองก็ต้องพยายามให้หนักขึ้นเช่นกัน นั่นเพราะไม่อยากเป็นตัวถ่วงของทุกๆ คน เธออาศัยความตั้งใจ พยายามฝึกฝนเพื่อให้ตัวเองทำงานได้ง่ายขึ้น

การถ่ายทำละครพีเรียดเรื่องแรกของเธอดำเนินไปในทุกๆ วัน แต่ยิ่งใกล้ปิดกล้องกลับมีข่าวให้ปลายฝนต้องเสียสมาธิอยู่บ่อยๆ และดูเหมือนไม่ใช่เธอคนเดียวที่ไม่ชอบใจข่าวนี้

“เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจดังขึ้น ไม่นานก็ตามมาด้วยเสียงโยนหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะ นั่นทำลายความเงียบสงบจนหญิงสาวหนึ่งเดียวที่นั่งอ่านบทอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมองคนโยนซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น พี่ชายแท้ๆ ของเธอนั่นเอง

ส่วนคนโยนเวลานี้ทิ้งน้ำหนักลงนั่งบนโซฟาตัวนุ่มเต็มแรง จนโซฟาเนื้อดีราคาเหยียบแสนยวบลงไปอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่นัก สีหน้าและท่าทางก็บ่งบอกว่ากำลังหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด

“เป็นอะไรพี่เหนือ” เสียงสดใสเอ่ยถามพี่ชายคนเดียว ต้นหนาวกลับเมินใส่ผู้เป็นน้อง แต่แค่ไม่นานก็ยอมเอ่ยตอบ

“ลองอ่านข่าวพวกนั้นดูสิ” เสียงห้าวทุ้มเอ่ยบอก ชื่อต้นหนาวแม่เป็นคนตั้งรวมไปถึงชื่อเล่นว่าเหนือก็ด้วย เพราะแม่ท้องพี่ชายเธอตอนไปเที่ยวภาคเหนือพอดี

“ว้าว! ไม่อยากเชื่อว่าตอนนี้ยังมีหนังสือพิมพ์กับนิตยสารพวกนี้หลงเหลืออยู่อีก นึกว่าปิดตัวไปกันหมดแล้ว” คำพูดของปลายฝนทำเอาต้นหนาวมองบนใส่ นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้องในไส้เขาจะบิดเนื้อให้แขนเขียวเชียว พูดอีกอย่างทำอีกอย่าง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel