ตอนที่ 2 ตกหลุมเสน่ห์ 100%
ดวงตาคมเข้มหยุดอยู่ที่การแต่งตัวด้วยผ้าถุงผืนใหม่ กับเสื้อแขนตุ๊กตาลายลูกไม้สีขาว ด้วยประกายตาชื่นชมอย่างเปิดเผย
ไม่ว่าเธอจะอยู่ชุดไหนก็สวยน่ารักน่ามองไปเสียหมด
เขาต้องหักห้ามใจมากแค่ไหน ที่จะไม่เดินเข้าไปใกล้
แล้วทำในสิ่งที่ภายในใจกำลังร่ำร้องปรารถนาอยากจะทำ
แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่มอง และคิดแผนการร้ายต่างๆนานา ที่จะพิชิตใจสาวเจ้าที่แสนขี้อายคนนี้
“ดื่มน้ำเย็นๆก่อนนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ดวงตาคมกล้าของเหยี่ยวทะเลทราย มองกวางสาวที่ทั้งขี้อายและขี้ระแวงภัย
ด้วยสายตาของพรานหนุ่ม ที่กำลังมองเป้าหมายของตนเองอย่างสนใจหมายจะขย้ำ
แค่มอง เธอก็ดูขัดเขินจนไม่รู้จะเอามือไม้ไปไว้ที่ไหนแล้ว เดี๋ยวก็ยกมาเกาหู เดี๋ยวก็ยกมือมาเกาหัว และอมยิ้มเขินตลอดเวลา ทว่ากลับไม่พูดอะไรเลย
จนเขานึกอยากจะแกล้งนัก แต่ก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้เช่นเคย เพราะกลัวว่ากวางสาวจะตื่นตระหนก แล้ววิ่งหนีเข้าป่าไปเสียก่อน ก่อนที่เขาจะทันได้จับมาต้มยำทำแกง
“เอื้องอายุกี่ปีแล้ว”
“ยี่สิบเอ็ดย่างยี่สิบสองค่ะ”
“ไม่น่าเชื่อเลย ดูจากรูปร่างหน้าตาของเอื้อง ไม่น่าจะถึงยี่สิบเอ็ดเลยนะ แล้วรู้ไหมว่าผมอายุเท่าไหร่”
เธอส่ายหน้ายิ้มๆ
“ผมก็อายุๆน้อยกว่านายอำเภอปีเดียวเอง แล้วเอื้องพูดน้อยแบบนี้ มาเป็นไกด์ให้ผม แล้วเราจะคุยกันรู้เรื่องไหมเนี่ย หืม”
“เอ่อ...รู้เรื่องสิคะ ถ้าถามมา เอื้องก็จะตอบค่ะ” หญิงสาวรีบออกตัว
“แล้วถ้าผมไม่ถามล่ะ เอื้องจะคุยกับผมก่อนไหม”
“เอ่อ...งั้น....รอให้ถึงพรุ่งนี้ก่อนดีไหมคะ”
“ผมชักจะอดใจรอไม่ไหวแล้วสิ งั้นวันนี้เริ่มพาผมไปเดินชมศาลเจ้าของหมู่บ้าน ที่สันติบอกว่าน่าเดินชมมากเลย จะได้ไหม”
“ได้ค่ะ แต่ตอนนี้แดดยังแรงอยู่เลยนะคะ”
“งั้นก็พาผมไปกินขนมจีนน้ำเงี้ยวฆ่าเวลาก่อนได้ไหม ผมอยากชิม เห็นสันติบอกว่าอร่อย”
“ได้ค่ะ”
“งั้นเราออกไปกันเลยนะ”
เอื้องคำลุกขึ้น จะเดินออกไป แต่เธอก็เดินไปผิดทาง ก็รีบหันหลังกลับ และโดยที่ไม่ทันได้ระวังตัว ก็ชนเข้ากับคนที่เดินตามเธอมาเข้าอย่างจังจนเซ
แต่สองแขนแข็งแรงของคนตัวโตสูงสง่า ก็โอบรอบเอวบางเอาไว้ กันไม่ให้เธอล้ม แต่คนซุ่มซ่ามก็ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ ร่างกายเหมือนถูกสาปให้เป็นหุ่นไปชั่วคราว เมื่อตกอยู่ในกรงแขนของคนที่มีแรงดึงดูดทางเพศสุดๆตรงหน้า ทว่าเธอก็ต้องแหงนมองหน้าเขาจนคอตั้ง เพราะเขาสูงมากนั้นเอง
กระทั่งริมฝีปากหยักสีสดได้รูปโน้มต่ำลงมาใกล้ เพื่อจะบอกกับเธอว่า
“ประตูอยู่ทางโน้นครับ”
“อ้อค่ะ รู้แล้วค่ะ”
ใบหน้าอ่อนใสยิ่งแดงระเรื่อขึ้นไปอีก ด้วยความเขินอาย แล้วเธอก็ค่อยๆผละออก แล้วเดินไปทางประตูทางออก ไม่กล้าหันมาสบตาคนที่เดินตามมา
กระทั่งชายหนุ่มมายืนตรงหน้าอีกครั้ง
“เรานั่งมอเตอร์ไซค์กันนะครับ เพราะร้านอยู่ไม่ไกลมาก”
“ได้ค่ะ”
เมื่อเขาสตาร์ตรถติดแล้ว เธอก็ขึ้นนั่งป้ายไขว้ขาไปทางซ้าย เขากดเกียร์เดินหน้าไวนิดหน่อย แต่เธอกลัวตกก็เผลอเกาะเอวเขาเสียแน่น
ทำให้คนขับแอบยิ้มพอใจ แล้วแกล้งเบรกบ่อยๆ พยายามหากำไร จากคนที่นั่งข้างหลังไปตลอดทาง จนถึงร้านขายขนมจีน
แล้วทั้งสองก็นั่งกินขนมจีนด้วยกัน ท่ามกลางสายตาสนใจใคร่รู้ของหลายคนในร้าน
ชีคชาห์นาฟที่พอกินเผ็ดได้บ้าง เขาก็รู้สึกว่าขนมจีนช่างอร่อยนัก เขากินหมดไปสามชามในเวลาอันรวดเร็ว
จากนั้นก็สั่งของหวานมากินเพิ่มอีก และก็พูดคุยกันไปจนถึงแดดร่มลมตก เขาก็ขอให้เอื้องคำ พาเขาไปเดินเล่นที่ศาลเจ้าของคุ้มผาหลวง
ที่นั่นมีการปลูกดอกไม้ และไม้ประดับสวยงามและร่มรื่นมาก มีต้นไม้ใหญ่มากมาย และมีชาวบ้านมากราบไหว้ศาลกันหลายคน มีคู่หนุ่มเดินชมสวนสองสามคู่
บรรยากาศยามเย็น ช่างสดชื่นปลอดโปร่งมาก อากาศก็ไม่ร้อนมาก ดูร่มรื่นเย็นสบายกว่าบ้านเมืองของเขาอีก
มิน่าเล่า คนที่นี่ถึงได้มีผิวพรรณ์ดี โดยเฉพาะสาวสวยที่อยู่ข้างกายเขาคนนี้ ที่ทำเอาหัวใจของเขาสั่นคลอนตั้งแต่แรกเห็นราวกับต้องมนต์สะกด แล้ววันนี้ก็เป็นวันดีๆอีกวันของชีคหนุ่ม
