ตอนที่ 3
สิ้นเสียงตะโกนลั่นรถคั้นนั้นก็หยุดลงในฉับพลัน แต่...ที่ที่รถคั้นนั้นจอดนิ่งสนิทกลับเป็นซอยเปลี่ยวแม้อยู่ท่ามกลางชุมชน ใหญ่ อิงธารใช้จังหวะนั้นเอี้ยวตัวเพื่อเอื้อมมือเปิดล็อคประตูแต่โชคร้ายที่ทำอย่างไรมันก็เปิดไม่ออก
รถคันนี้มีระบบล็อคอัตโนมัติซึ่งต้องปลดล็อคจากพวงมาลัยคนขับเท่านั้น!!
“ไอ้บ้า! ปล่อยฉันนะ เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
หล่อนตะโกนลั่นอีกครั้งเสียงสั่นเครือและร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว เพราะใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสงบมานาน ไม่เคยก่อเรื่องรำคาญหรือเดือดร้อนให้ครอบครัว พอเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้ก็ทำเอาหล่อนเหมือนคนเสียสติด้วยความตระหนกและกลัวลนลาน ยิ่งเห็นหน้าตาของวิคเตอร์ที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันทันใดจากเมื่อครู่ หน้าตาหล่อเหลาที่เคยสงบและดูเหมือนจะอ่อนโยนด้วยซ้ำกลายเป็นถมึงทึงเครียดขึ้งนัยน์ตาขุ่นคลั่ก
“อยู่นิ่งๆ!” เขาบัญชาเหมือนตำรวจสั่งผู้ต้องหา “ผมบอกว่าให้คุณอยู่นิ่ง ๆ ยังไงล่ะอิงธาร!”
“ไม่!...ฉันอยากกลับ พาฉันไปส่งที่โรงเรียนเดี๋ยวนี้ ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต!”
“เรียกผมว่าไอ้โรคจิตอีกคำเดียวผมข่มขืนคุณบนเบาะหลังรถคันนี้แน่!”
“ว๊าย!”
หล่อนกรีดร้องหน้าตื่นเมื่อชายหนุ่มคว้าข้อมือไว้และดึงร่างเล็กเข้าไปชิดอกกว้างโดยไม่สนใจว่าคนขับรถจะได้ยินหรือรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่แต่ก็ดูเหมือนว่าคนหลังพวงมาลัยจะนิ่งเฉยและไม่สนใจเสียงถกเถียงที่ดังเบื้องหลังเขาแม้แต่น้อย อิงธารหน้าแดงจัดด้วยความตื่นกลัว และท้ายที่สุดหล่อนก็เริ่มสงบลงเพราะกลัวสายตาคมวับยิ่งกว่าใบมีดของชายหนุ่มที่จ้องหล่อนเหมือนอยากจะฉีกเนื้อออกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น
“นิ่งแล้วฟังผม...ฟังเรื่องของพี่สาวคุณว่าเธอทำอะไรไว้กับผมบ้าง แต่บอกไว้ก่อนนะว่าถ้าผมเล่าจบแล้วจะยังไม่ปล่อยคุณกลับไปง่าย ๆ เพราะมันมีอะไรมากกว่านั้นที่คุณต้องรับรู้มากกว่ารับฟังเฉยๆ”
“ก็พูดไปสิ...ฉันฟังอยู่นี่ไง”
“คุณรู้ใช่ไหมว่าเอ็มม่าพี่สาวของคุณเป็นนายหน้าค้าที่ดิน”
“รู้...รู้สิ ทำไมฉันจะไม่รู้”
“เอ็มม่ากับผมเราสนิทกันมากเพราะทำงานด้วยกันมานาน หล่อนทำงานดีมาก คล่องแคล่วเรื่องซื้อขาย ผมอุตส่าไว้ใจให้หล่อนกำเงินไปซื้อที่ดินชายทะเลไว้แห่งหนึ่งแล้วรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น”
อิงธารส่ายหน้า “มะ...ไม่รู้ ฉันจะไปรู้เรื่องของพวกคุณได้ไง”
“ถ้าอย่างนั้นก็รู้ไว้สิว่าพี่สาวของคุณโกงผม!”
