บท
ตั้งค่า

ตอนที่7. ทำไมนายมาอยู่ที่นี่

เสียงลิฟต์ดังขึ้นและไม่กี่วินาทีต่อมาประตูลิฟต์ก็เปิดออก พราวมุกยังคงคลี่ยิ้มหวาน แต่ท่านประธานกลับขมวดคิ้วแล้วโคลงศีรษะเล็กน้อยแล้วก้าวออกไปโดยไม่หันมาสนใจเธออีก หญิงสาวยกมือขึ้นลูบหน้าอกแล้วระบายลมหายใจออกมา ทำไมต้องรู้สึกกดดันแบบนี้ด้วยนะ เธอยกข้อมือขึ้นดูเวลาแล้วรีบไปที่ลานจอดรถทันที

เพราะกลัวว่าจะไปถึงที่นัดหมายช้า พราวมุกจึงยังไม่ได้กินข้าวเที่ยง ใช้เวลาขับรถเกือบชั่วโมงก็มาถึงสถานที่ทำกิจกรรม พราวมุกจอดรถเรียบร้อยแล้วก็หยิบตลับแป้งมาเติมแป้งที่ใบหน้าแล้วส่องดูความเรียบร้อยก่อนจะเติมลิปสติกอีกนิด เอี้ยวตัวไปเบาะหลังหยิบเป้สีชมพูหวานแหววก่อนจะลงจากรถแล้วเดินไปหาเจ้าหน้าที่ดูแลเด็กๆ ผู้พิการทางการได้ยิน

“สวัสดีค่ะพี่เอ็ม” พราวมุกทักชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวสีเข้ม เขาหันมายิ้มแล้วส่งเสียงทักทาย

“น้องมุกมาแล้ว”

“ขอโทษที่มาช้านะคะ”

“ไม่ช้าหรอก กินข้าวมาหรือยัง วันนี้มีขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ด้วย ไปกินก่อนสิ จะได้มีแรงรับมือกับเด็กๆ”

“งั้นมุกไม่เกรงใจนะคะ” พราวมุกยิ้มทะเล้นแล้วเดินไปตรงโต๊ะยาวที่จัดวางอาหารไว้อยู่แล้ว ผักนานาชนิดวางใส่ถาดขนาดใหญ่ ขนมจีนมีสองหม้อ แกงเขียวหวานไก่และน้ำยาป่า เธอมาเป็นอาสาทำกิจกรรมอยู่บ่อยๆ จนคุ้นเคยกับทุกคนไปแล้ว หลังจากวางกระเป๋าเรียบร้อยก็เดินไปล้างมือแล้วกลับมาหยิบจานแล้วคีบเส้นขนมจีนใส่จาน จากนั้นก็เดินไปเปิดหม้อแกงเขียวหวานไก่ ดวงตามุ่งมั่นจะตักตีนไก่สองชิ้น แต่มีคนตักตีนไก่ขึ้นไปเสียก่อน ดวงตากลมมองตามตีนไก่ที่ลอยไปอยู่ในจานขนมจีนของ...

“ทำไมนายมาอยู่ที่นี่”

“พี่น่าจะถามน้องมุกมากกว่า” คิมหันต์เองก็อดถามหญิงสาวไม่ได้ จะว่าแปลกก็ไม่แปลกนัก เห็นๆ อยู่ว่าเธอมาทำกิจกรรมกับเด็กๆ อยู่บ่อยๆ แต่เขาไม่เคยทำงานร่วมกับเธอมาก่อน

“พี่เอ็มบอกว่าวันนี้สอนศิลปะเด็กนี่ อย่าบอกนะว่านายคือคนที่มาสอนเด็ก”

“ใช่” เขาตอบแล้วมองจานขนมจีนในมือของพราวมุก “แปลกหรือครับ”

“แปลก” เธอพูดไปอย่างที่คิด “นายมันสายภาษาศาสตร์นี่ ถ้าสอนเด็กเขียนนิทานก็ไม่แปลก แต่มาสอนวาดรูปนี่นะ”

คราวนี้คิมหันต์หัวเราะเบาๆ “พี่ก็พอมีฝีมือด้านนี้บ้าง ก็เลยมาช่วยสอนศิลปะเด็ก”

“จะอวดว่ามีความสามารถเยอะ” เธอเบ้ปากใส่เขา

“เปล่าครับ แค่น้องมุกไม่รู้ว่าพี่มีอะไรดีต่างหาก”

พราวมุกทำตาปริบๆ ไม่คิดว่าเขาจะเถียงเธอด้วยประโยคนี้ เล่นเอาเธอไปต่อไม่ถูก แต่พอนึกได้ว่าตัวเองถือจานขนมจีนอยู่ก็รีบพูดขึ้น

“ส่งตีนไก่มาให้มุกเดี๋ยวนี้นะ”

“ตีนไก่? อ้อ...เดี๋ยวพี่ตักให้” เขายิ้มขำท่าทางเอาแต่ใจของเธอแล้วตักตีนไก่ในหม้อใส่จานขนมจีนของพราวมุก

“มะเขือไม่กิน เอาเลือดไก่ด้วย” ไหนๆ ก็มีคนบริการแล้ว ก็ขอใช้งานหน่อยเถอะ

“อย่าเลือกกิน”

“ก็ไม่ชอบนี่ มันนิ่มๆอ่ะ เร็วๆ เอาเครื่องในด้วย หิวแล้ว”

“ได้แล้วๆ ไปนั่งตรงโน้นไป เดี๋ยวพี่เอาน้ำดื่มไปให้”

“มุกไม่ดื่มน้ำเย็นนะ”

“ทราบแล้วคุณหนู”

พูดออกไปแล้วคิมหันต์ก็นึกแปลกใจตัวเอง ปกติเขาไม่ใช่คนชอบพูดจาหยอกล้อกับใคร ถึงจะมีเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกันประมาณหนึ่งแต่ก็ไม่เคยพูดจาแบบนี้ หรือเขาเห็นพราวมุกเป็นเหมือนน้องสาว แต่...ในใจก็บอกว่าไม่ใช่ ถ้าจะเรียกว่า ‘น้องสาว’ เขากลับใช้คำนี้กับพลอยดาวได้สนิทใจมากกว่า เขาโคลงศีรษะเล็กน้อย เดินไปหยิบขวดน้ำดื่มสองขวดแล้วตรงไปทางโต๊ะม้าหินที่พราวมุกนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“ขอบคุณค่ะ” ยังไงเขาก็มีน้ำใจหยิบน้ำมาให้ ไม่ขอบคุณก็เสียมารยาทไปหน่อย พราวมุกบอกกับตัวเองอย่างนั้น คิมหันต์แค่พยักหน้ารับแล้วเปิดขวดน้ำให้เธอ เขานั่งลงฝั่งตรงข้ามแล้วตั้งท่าจะกินขนมจีน

“เดี๋ยว!”

“ครับ?” มือที่จับช้อนอยู่ชะงักไปทันที “มีอะไรเหรอครับน้องมุก”

“นายจะนั่งกินตรงนี้เหรอ”

“แล้วจะให้พี่ไปนั่งที่ไหน?”

“ที่ว่างเยอะแยะไป ทำไมต้องนั่งโต๊ะเดียวกัน”

“แล้วทำไมนั่งโต๊ะเดียวกันไม่ได้”

“ก็...”

เหตุผลคือไม่อยากเห็นหน้า แต่จะพูดออกไปได้ไหมล่ะ

“กินเถอะ อีกครึ่งชั่วโมงก็ได้เวลาสอนเด็กๆ แล้ว ยังไงเราก็ทำงานด้วยกันอยู่ดี”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel