EP.9 เป็นแฟนเฮียนะ
เสียงหวานๆ ของหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ทั้งสองหันไปมองทางต้นเสียง เห็นสาวรูปร่างหน้าตาสะสวย สวมชุดเดรสคลุมถึงหัวเข่า แลดูเป็นกุลสตรีที่ดีพร้อม
“อ้าวน้องเพียง มาตั้งแต่เมื่อไรครับ”
เพียงฟ้าส่งยิ้มหวานให้ฌอน ที่ตอนนี้กำลังยืนอุ้มอิงดาวไว้ในอ้อมอก เธอมองอิงดาวด้วยสายตาสงสัย แต่ก็ยังคงส่งรอยยิ้มให้อิงดาว
“มารอพี่ฌอนนานแล้วค่ะ คุณพ่อบอกให้พี่ฌอนเข้าไปหาค่ะ จะไปคุยเรื่องงานหมั้นของเรา”
อิงดาวรีบหันขวับมามองหน้าฌอน ตอนนี้เธอทำตัวไม่ถูกเลยที่อยู่บนอ้อมอกของคนมีเจ้าของแล้ว
“เฮียฌอน ปล่อยดาวลงค่ะ”
ฌอนทำหน้ายู่คิ้วชนกันอย่างรู้สึกไม่สบอารมณ์ทันทีที่ได้ยินแบบนี้ พลางทำเป็นไม่สนใจในสิ่งที่เพียงฟ้าพูดเลยแม้แต่นิดเดียว
“ไม่คิดจะสนใจว่าที่คู่หมั้นตัวเองหน่อยเหรอไอ้ฌอน”
เสียงคุ้นหูทำให้อิงดาวรีบหันไปมอง เธอถึงกับกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ สายตาดุจดั่งมัจจุราชของแทนทอง จ้องมองเธอที่อยู่ในอ้อมแขนของฌอน ในตอนนี้ราวกับเขากำลังจะมากระชากเธอให้ลงสู่ขุมนรก
“ไอ้แทน มึงมาทำไมที่นี่”
น้ำเสียงเกรี้ยวกราดเอ่ยถามเพื่อนรักของตัวเอง เขาไม่เคยรู้สึกไม่พอใจแทนทองเท่านี้มาก่อนเลย ไม่เคยคิดเลยว่าจะเอ่ยคำพูดนี้ออกมาด้วยซ้ำ
“ปกติกูก็มาประจำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
“มึงวางอีนี่ลงแล้วไปกับน้องกู กูปล่อยให้มึงทำให้เพียงเสียใจมามากพอแล้ว”
เสียงดุดันเล็ดลอดออกมาจากไรฟันของแทนทอง เขาจ้องมองทั้งคู่อย่างไม่ลดละ เพียงฟ้าได้แต่ก้มหน้าลงต่ำ ไม่กล้าแม้จะสบตาฌอนและอิงดาว เธอรู้สึกหน้าชาอย่างบอกไม่ถูก
“มึงมาก็ดีแล้ว กูมีเรื่องต้องคุยกับมึง”
ฌอนค่อยๆ วางอิงดาวลง แล้วยืนบังกายเธอไว้เพื่อไม่ให้แทนทองเข้ามาใกล้เธอ
“กูไม่ได้ชอบน้องเพียงตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว มึงก็รู้กูคิดกับเพียงแค่น้องสาว มึงจะให้กูพูดกี่รอบวะ”
เหมือนสายฟ้าฟาดลงตรงกลางใจเพียงฟ้า เธอแทบอยากจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี คนที่เป็นฝ่ายรักเขาข้างเดียวอย่างเธอมันช่างแสนเจ็บปวดและทรมานแบบนี้นี่เอง
“เพราะอีนี่ใช่ไหม!!”
นิ้วชี้เรียวยาวถูกชี้มาที่หน้าของอิงดาว แทนทองจ้องมองเธอด้วยสายตาคาดโทษ ถ้าไม่มีอิงดาว ป่านนี้ฌอนคงมีใจให้น้องสาวเขาบ้างไม่มากก็น้อย เขาไม่ได้อยากบังคับจิตใจเพื่อน แต่ก็อดสงสารน้องสาวที่แอบรักเพื่อนตัวเองไม่ได้
อีกอย่างหนึ่งครอบครัวของเขาทั้งสองต้องการเป็นทองแผ่นเดียวกัน แต่ด้วยเหตุผลทางธุรกิจเท่านั้น ฌอนเลยไม่อยากจะทำตามข้อตกลงบ้าๆ ของพวกผู้ใหญ่ที่จะจับเขาคลุมถุงชนให้แต่งงานกับเพียงฟ้า
“มึงอย่ามาพาลไอ้แทน”
“แล้วที่มึงทำกับน้องอิงดาวมันก็มากเกินพอแล้ว”
“กูไม่คิดเลยว่าเพราะแค่อยากให้กูแต่งงานกับน้องมึง มึงต้องทำกับเด็กกูขนาดนี้ ทำลายชีวิตคนอื่นทั้งๆ ที่เขาไม่รู้เรื่องด้วยเนี่ยนะ”
อิงดาวหันหน้าไปมองแทนทองทันที ที่แท้เขารังแกเธอเพียงเพราะผลประโยชน์ส่วนตัวเนี่ยนะ โคตรเห็นแก่ตัวเลย อย่าเรียกว่าเป็นผู้ชายเลย คนแบบนี้สมควรเอาผ้าถุงมาใส่ซะมากกว่า
เธอต้องมารับชะตากรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เพียงเพราะเป็นเด็กที่ต้องคอยรับบริการแขกอย่างฌอนเนี่ยนะ อิงดาวถึงกับร้องไห้โฮออกมาอย่างสุดกลั้น ฌอนรีบดึงตัวเธอมาโอบไว้ข้างกาย โดยไม่สนใจเพียงฟ้าที่กำลังมองภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว
“ไอ้สารเลว แกทำฉันเพราะแค่อยากให้น้องแกหมั้นกับเฮีย ได้แต่งงานกับเฮียเนี่ยนะ”
“ฉันไปเกี่ยวอะไรด้วย ฉันแค่ทำงาน ทำหน้าที่ของฉัน ไม่ได้มีอะไรเกินเลยมากไปกว่าลูกค้า เฮียก็เป็นแค่ลูกค้าในผับเท่านั้นเอง ฮือๆๆ”
มือเรียวข้างขวายกขึ้นมาปาดน้ำตาตัวเอง เธอสะอื้นไห้ดวงตาแดงก่ำ
“มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ หึ!!”
อิงดาวนิ่งงันทันที แล้วมันมีอะไรอีกล่ะ ผู้หญิงกลางคืน ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างเธอ จะไปทำอะไรให้เขาแค้นเคืองมากไปกว่าเรื่องนี้อีก คิดเท่าไรอิงดาวก็คิดไม่ออก ยิ่งคิดเธอยิ่งมืดแปดด้าน หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้
“มึงมันพาล ต่อไปนี้น้องดาวจะมาอยู่กับกูที่นี่ ในฐานะแฟนกู”
“และขอเตือน ถ้ามึงยังอยากเป็นเพื่อนกู มึงเลิกมายุ่งเรื่องนี้ได้แล้ว”
“ส่วนเรื่องน้องเพียง เดี๋ยวกูไปคุยกับพ่อมึงเอง กูรักเพียงแบบน้องสาว จะให้เพียงแต่งงานกับกู มึงไม่สงสารน้องมึงรึไงที่จะต้องมาแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเขาอะ”
คำพูดของฌอนทำให้แทนทองชะงักไปชั่วขณะ มันก็จริง ใครจะอยากให้น้องสาวตัวเองต้องทนทรมานแต่งงานกับคนที่เขาไม่ได้รักล่ะ
แต่ฌอนจะทิ้งน้องเขาไปคบกับผู้หญิงกลางคืนแบบอิงดาวเนี่ยนะ แถมยังผ่านเขามาแล้วด้วย มันไม่เกินไปรึยังไง กล้าดียังไงเอาผู้หญิงโสโครกคนนั้นมาเทียบชั้นกับน้องสาวเขา
“ฮือๆ พี่ฌอน”
เพียงฟ้าร้องไห้โฮวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที จนแทนทองต้องวิ่งตามน้องสาวตัวเองออกไปอย่างหัวเสีย เขาไม่คิดเลยว่าฌอนจะกล้าหักหาญน้ำใจเพียงฟ้าต่อหน้าต่อตาอิงดาวแบบนี้
“เฮียพูดแบบนั้นทำไมคะ คุณเพียงร้องไห้ไปโน่นแล้ว รีบไปตามเธอสิคะ อย่าทำให้ดาวต้องรู้สึกไม่ดีไปกว่านี้เลยค่ะ”
เธอเข้าใจความรู้สึกของเพียงฟ้าดี การที่ถูกปฏิเสธต่อหน้าแบบนี้มันเจ็บปวดแค่ไหน แล้วเป็นเพราะเธอที่เข้ามาอยู่ผิดที่ผิดเวลา เลยทำให้ทั้งสองตระกูลต้องมาบาดหมางกัน
“เฮียพูดเรื่องจริง อย่าคิดมากน้องอิงดาว เดี๋ยวเรื่องนี้เฮียจัดการเอง”
“ส่วนเรื่องที่เฮียบอกว่า น้องอิงดาวจะมาอยู่ที่นี่ในฐานะแฟนเฮีย เอ่อ....”
“น้องดาวตกลงไหม เรื่องนี้เฮียจริงจังนะ”
มือหนาดึงมือเรียวเข้ามากุมไว้แน่น แววตาที่แสดงออกมาว่าเขาจริงจังกับสิ่งที่เขาพูดอยู่ มันทำให้อิงดาวรู้สึกใจสั่นไม่น้อย แต่ความเหมาะสมคู่ควร ความเป็นไปได้มันไม่มีอยู่เลย มันเหมือนเส้นคู่ขนานที่ไม่สามารถมาบรรจบกันได้
“เฮียไม่รังเกียจอิงดาวรึไงคะ ดาวเคยผ่านเพื่อนเฮียมาแล้ว แถมยังเป็นผู้หญิงกลางคืนอีกด้วย มีแต่จะทำให้เฮียเสียชื่อเสียง”
เสียงสั่นเครือ หยาดน้ำตาใสๆ ที่กำลังไหลเอ่อออกมาจากดวงตาคู่สวย รอยยิ้มที่เธอส่งยิ้มให้ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกดี แต่มันอาจจะยังไม่ได้เป็นความรัก มันเป็นเพียงความรู้สึกดีที่มีผู้ชายอย่างเขาที่ยังเห็นคุณค่าในตัวเธอ
“ไม่เลย เฮียไม่เคยรังเกียจ ลองมาคบกันก่อนไหม ถ้าน้องอิงดาวไม่โอเค เราก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ได้ นะ นะ”
ท่าทางออดอ้อนราวกับเด็กน้อย ต่างจากเมื่อครู่ที่ดูเคร่งขรึมจนดูน่าเกรงขาม
“ไม่ดีกว่าค่ะเฮีย ดาวไม่เหมาะสมกับเฮียหรอก เป็นแบบนี้น่ะดีแล้ว”
อิงดาวรีบตอบปฏิเสธทันทีเพราะนี่คือคำตอบที่ดีที่สุดแล้วฌอนก้มหน้าลงต่ำ ทำหน้าเจื่อนทันทีที่อิงดาวตอบมาแบบนั้น เขาเหมือนคนอกหัก ฝันสลาย ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่อยากได้เขาเป็นแฟน และเขาไม่เคยร้องขอให้ใครมายืนข้างกายเขาแม้แต่คนเดียว อิงดาวเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาอยากได้เธอมาเป็นแฟนจริงๆ จังๆ เป็นตัวเป็นตน
“เฮียไม่บังคับก็ได้ แต่อย่ามาใจอ่อนทีหลังแล้วกัน”
“ปะ ขึ้นไปข้างบน เฮียให้คนเตรียมห้องไว้ให้แล้ว ไปอาบน้ำแต่งตัวซะ เดี๋ยวเฮียอดใจไม่ไหว เห็นสภาพแบบนี้ หึๆ”
ฌอนถึงกับต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือเรียวของอิงดาวหยิกเข้าที่ต้นแขนแกร่งของเขาอย่างแรง รอยยิ้มแสนอบอุ่น ทรงเสน่ห์ของฌอนแอบทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวอย่างไม่รู้ตัว
ณ ผับหรู
อิงดาวยังคงมาทำงานเป็นปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือมีฌอนคอยตามติดมาด้วย พร้อมลูกน้องของเขา ที่ให้คอยดูแลเธออีกสองสามคน ราวกับว่าเธอคือคนสำคัญ
ใช่ อิงดาวกลายเป็นคนสำคัญของเขาไปแล้ว ตั้งแต่อิงดาวย่างก้าวเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ของเขา
“วันนี้มาพร้อมกันเลยนะคะเฮีย”
เจ๊น้ำเอ่ยทักทายทั้งคู่ พลางแอบนึกสงสัยว่าทำไมอิงดาวมาพร้อมเฮียฌอนได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่อยากรับฌอนเป็นแขกแล้ว แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรมากไปกว่านี้
“เจ๊ ต่อไปนี้ห้ามอิงดาวรับแขกคนอื่นนะ ให้เป็นคนเชียร์เด็กให้แขกก็พอ”
เขาสั่งราวกับเป็นเจ้าของร้านเสียเอง ใช่สิ เพราะฌอนเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนคนสำคัญของร้านนี้
“เอ๋...”
เจ๊น้ำเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงสัย
“เรื่องแค่นี้ผมขอได้ไหมครับ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร งั้นร้านนี้คงจะอยู่ต่อไม่ได้แล้วล่ะมั้ง”
คำขู่ของฌอนทำให้เจ๊น้ำถึงกับหน้าซีดเป็นไก่ต้มรวมถึงอิงดาวด้วย นี่เขาเป็นบ้าไปแล้วรึยังไง แล้วมีสิทธิ์อะไรมาบงการเจ๊น้ำได้ขนาดนี้
“เฮียคะ นี่มันเรื่องอะไรกันคะ ดาวไม่เข้าใจ ทำไมดาวรับแขกไม่ได้ แล้วแบบนี้ดาวจะเอาเงินที่ไหนล่ะคะเฮีย”
“แขกแต่ละคนกระเป๋าหนักด้วยสิ”
เสียงบ่นพึมพำของอิงดาว ทำให้ฌอนหันไปมองหน้าเธออย่างรู้สึกขัดใจ เขาทำหน้ายู่หัวคิ้วชนกันใส่เธอ
“แขกแบบเฮียยังกระเป๋าหนักไม่พออีกเหรอน้องอิงดาว”
“เดี๋ยวจะให้อยู่แต่บ้านไม่ต้องมาทำงานเลยดีไหมเนี่ย”
มือเรียวแอบหยิกเข้าที่เอวของฌอนจนเขาต้องเอี้ยวตัวตามแรงมือ เจ๊น้ำมองทั้งคู่ด้วยความสงสัยอย่างมาก ทั้งคำพูดของฌอนและท่าทีของอิงดาว ที่ดูสนิทสนมกว่าลูกค้าอย่างที่เคยดูแลกันมาก่อน ทำราวกับว่าตอนนี้สองคนกำลังเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันกันเลยทีเดียว
“เจ๊อย่าไปสนใจคำพูดเฮียนะ ดาวไปทำงานดีกว่า”
